ลำนำยอดหญิงจอมพิษ - บทที่ 94 แผนการอันแสนสมบูรณ์เพียบพร้อม
ลำนำยอดหญิงจอมพิษ บทที่ 94 แผนการอันแสนสมบูรณ์เพียบพร้อม
กู้ชิวเซียงเห็นกู้ชิวถางทำท่าทางเหมือนเป็นห่วงกู้ชิวเหลิ่ง ในดวงตามีร่องรอยของความไม่พอใจแวบผ่านไป แล้วดึงกู้ชิวถางสองสามครั้ง และพูดว่า:”ท่านพี่ พวกข้ารีบไปกันเถอะ องค์ชายหลายท่านก็ไปกันแล้ว น้องรองสุขภาพแข็งแรง สามารถดูแลตัวเองได้อยู่แล้ว”
จากนั้นกู้ชิวถางจึงค่อยขึ้นหลังม้า และดึงกู้ชิวเซียงขึ้นมาด้วย
กู้ชิวเหลิ่งมองไปรอบๆ จวินฉีเซิ่งได้เข้าไปในหลวงล่าสัตว์ไปก่อนแล้ว
สายตาของกู้ชิวเหลิ่งตกอยู่ที่ชุดกอดอกของกู้ชิวเซียง บนใบหน้านั้นมีรอยยิ้มจางๆ: “วันนี้พี่ใหญ่ใส่น้อยไปหน่อย หากมิรังเกียจ ก็สวมเสื้อคลุมของข้าเถิด”
กู้ชิวเหลิ่งถอดเสื้อคลุมเอง กู้ชิวถางรู้ว่ากู้ชิวเหลิ่งและกู้ชิวเซียงนั้นไม่ถูกกันมาโดยตลอด คิดว่ากู้ชิวเหลิ่งเพียงแค่กำลังจะคลี่คลายความขัดแย้งกับกู้ชิวเซียง ดังนั้นจึงพูดว่า: “ข้าเห็นว่าวันนี้เจ้าก็ใส่น้อยไปหน่อย พื้นที่ล่าสัตว์นี้ลมแรงยิ่งนัก ทำไมถึงได้ใส่น้อยเช่นนี้”
บนใบหน้าของกู้ชิวเซียงมีความอับอายเล็กน้อย นางแต่งตัวแบบนี้ เดิมทีเพื่ออวี่เหวินเจี๋ยแท้ๆ เมื่อวานนี้ในงานเลี้ยงวัง อวี่เหวินเจี๋ยไม่ได้สังเกตเห็นนาง ดังนั้นวันนี้นางจึงได้ใส่น้อยไปหน่อย แต่นี่ก็เป็นเรื่องความลับของผู้หญิง มันยากที่จะพูดออกมาต่อหน้ากู้ชิวเหลิ่งและกู้ชิวถางยิ่งนัก
ฮูหยินใหญ่ยืนอยู่ข้างๆ พูดว่า:”เป็นเพราะเช้านี้สาวรับใช้ทำเสื้อผ้าตัวหนาเปียกไป ดังนั้นจึงเปลี่ยนเป็นชุดนี้ ในเมื่อน้องสาวเจ้าใจดีนำเสื้อให้เจ้าใส่ เจ้าก็สวมมันซะ”
ความเขินอายบนใบหน้าของกู้ชิวเซียงก็ลดลงทันที:”ในเมื่อเป็นน้ำใจของน้องรอง เช่นนี้ข้าก็รับไว้แล้ว”
กู้ชิวเหลิ่งนำเสื้อมอบให้กับกู้ชิวเซียง กู้ชิวเซียงคลุมมันไว้บนร่างกาย ซึ่งยังถือว่าเหมาะกับเสื้อสีชมพูอ่อนบนตัวยิ่งนัก
กู้ชิวเหลิ่งยิ้มจางๆ: “พี่ใหญ่ขี่ม้าไม่เป็น ท่านพี่ต้องขี่ช้าหน่อยนะ แม้ในป่านี้จะไม่มีงูพิษและสัตว์ร้าย แต่มีแมลงและมดไม่น้อย ดังนั้นต้องระวังดีๆ”
“อืม”
ฮูหยินใหญ่แอบวิตกกังวล อวี่เหวินเจี๋ยและองค์ชายท่านอื่นเข้าไปนานมากแล้ว แต่กู้ชิวเหลิ่งยังพูดเยอะเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่ากำลังถ่วงเวลาอยู่ชัดๆ
เดิมทีหัวใจทั้งดวงของกู้ชิวเซียงได้ตามอวี่เหวินเจี๋ยเข้าไปในพื้นที่ล่าสัตว์แล้ว แต่หลังจากถูกกู้ชิวเหลิ่งถ่วงเวลาไป อย่าว่าแต่อวี่เหวินเจี๋ยเลย ในป่าหลวงอันกว้างใหญ่นี้ เกรงว่าแม้แต่เงาคนก็คงมองไม่เห็นแล้ว
ในที่สุดกู้ชิวถางก็เข้าสู่พื้นที่ล่าสัตว์ไปอย่างช้าๆแล้ว กู้ชิวเหลิ่งคำนับฮูหยินใหญ่แล้วพูดว่า: “ลูกรู้สึกว่าขาเท้าไม่สบาย ดังนั้นจึงขอกลับไปพักผ่อนก่อนเจ้าค่ะ”
“หยุดเดี๋ยวนี้”
บนใบหน้าของฮูหยินใหญ่นั้นเต็มไปด้วยความได้ใจ: “ข้ารู้ว่าตอนนี้เจ้าได้ถูกแต่งตั้งเป็นจวิ้นจู่แล้ว แต่เจ้าก็อย่าลืมนะว่าเจ้าก็เป็นลูกอนุของจวนโหว องค์ชายรองเป็นสามีในอนาคตของเซียงเอ๋อร์ และสิ่งต่อไปที่เจ้าต้องทำก็คืออยู่ห่างจากองค์ชายรอง เข้าใจหรือไม่?”
กู้ชิวเหลิ่งยิ้มอย่างเย็นชาและพูดว่า:”ทำไมลูกไม่รู้เลยว่าองค์ชายรองได้ทำการหมั้นหมายกับพี่ใหญ่ไว้แล้ว?หากพูดตามหลักการแล้ว ต้องมีราชโองการสำหรับการแต่งงาน แต่ช่วงนี้ในจวนนอกจากราชโองการสำหรับการแต่งตั้งจวิ้นจู่แล้ว มิได้มีราชโองการอื่นอีกเลย หากคำพูดนี้ของท่านแม่ถูกฮ่องเต้ได้ยินเข้าละก็ ถือว่าเป็นการแพร่ข่าวลือของพระราชวงศ์ ถึงตอนนั้นท่านแม่จะรับโทษอะไรกันแน่? ”
“เจ้า! กู้ชิวเหลิ่ง เจ้าคงลืมแล้วสินะว่าแม่ของเจ้าตายอย่างไร? ต้องการให้ข้าเตือนเจ้าหรือไม่? หากเจ้าอยากเดินทางเก่าของแม่เจ้า งั้นข้าก็ไม่ถือสา……”
“คุณหนูรอง ท่านอ๋องมีเชิญ”
คนที่มาคือจีเฟิง ฮูหยินใหญ่ก็หยุดพูด และเปลี่ยนเป็นใบหน้าที่เมตตาใจดี: “เซ่อเจิ้งหวางหาเหลิ่งเอ๋อร์มีเรื่องสำคัญอะไรหรือ? ชายโสดหญิงโสดเดินตามลำพังยังไงก็ไม่ค่อยเหมาะสักเท่าไหร่ หากมีเรื่อง หาหม่อมฉันก็เหมือนกันเพคะ”
เสียงของจีเฟิงมีความเย็นชาและดูถูก: “คนที่ท่านอ๋องของข้าเชิญคือคุณหนูรอง ฮูหยินกู้ไปทำอะไร?หรือว่าจะให้ท่านอ๋องของข้าพาฮูหยินกู้เข้าไปในพื้นที่ล่าสัตว์ด้วย? เกรงว่าฮูหยินคงไม่มีโชคนี้”
สีหน้าของฮูหยินใหญ่ดูมืดครึ้ม เมื่อก่อนก็ไม่เคยได้ยินว่าอวี้ฉือจ้านชอบผู้หญิงนี่นา แถมยังปฏิบัติกับกู้ชิวเหลิ่งแตกต่างมากเยี่ยงนี้ด้วย หากกู้ชิวเหลิ่งตีสนิทอวี้ฉือจ้านได้จริง อย่าว่าแต่นางเลย แม้แต่ตระกูลฉินก็ไม่สามารถทำอะไรกู้ชิวเหลิ่งได้ ตอนนั้นกู้หนานเฉิงก็จะเอาใจและตามใจบุตรีของอนุภรรยาคนนี้ ถึงตอนนั้นเซียงเอ๋อร์ของนางก็จะถูกลูกสาวของหยูจิ่นเหนียงแย่งความเด่นไป!
ฮูหยินใหญ่หาเรื่องใส่ตัวเอง กู้ชิวเหลิ่งได้เดินตามจีเฟิงไปทางอวี้ฉือจ้านแล้ว
“ตอนนี้เซ่อเจิ้งหวางยังไม่ออกเดินทาง หากถูกคนของจวินฉีเซิ่งเป็นผู้สำเร็จคนแรก คงต้องขายหน้ามากสินะ?”
อวี้ฉือจ้านลูบแผงคอม้าเบาๆ และพูดว่า:”ละครดีๆยังไม่ได้เริ่มขึ้น คนแรกอาจไม่ใช่เขาก็ได้”
“ฝู้ซื่อจื่อได้เข้าไปก่อนแล้ว หากคนรอบข้างของเซ่อเจิ้งหวางไม่ได้เรื่อง เข้าไปก็ตายอย่างเดียว”
“ฝู้จื่อโม่ยอมปล่อยให้ข้าเข้าไปคนเดียว คุณหนูรองคิดว่าข้าไม่มีแผนการอันแสนสมบูรณ์เพียบพร้อมรึ?”
กู้ชิวเหลิ่งยิ้มจางๆ:”เกรงว่าต่อให้เป็นแผนการอันแสนสมบูรณ์เพียบพร้อม ก็ตามไม่ทันการเปลี่ยนแปลงของทุกสิ่งเหล่านี้”
อวี้ฉือจ้านกระโดดขึ้นม้าและพูดว่า:”เจ้าเหมือนไม่ค่อยอยากขี่ม้าตัวเดียวร่วมกับข้า”
น้ำเสียงของกู้ชิวเหลิ่งสงบ: “หม่อมฉันไม่ค่อยคุ้นเคยกับการขี่ม้าตัวเดียวกันสองคนจริงเจ้าค่ะ”
กู้ชิวเหลิ่งคิดว่าอวี้ฉือจ้านจะให้นางขี่ม้าคนเดียวแล้ว แต่ใครจะไปรู้ว่านางเพิ่งพูดจบ อวี้ฉือจ้านก็ยืนแขนออกมาอุ่มกู้ชิวเหลิ่งขึ้นหลังม้าไปแล้ว กู้ชิวเหลิ่งตัวเล็ก จึงถูกอวี้ฉือจ้านจับเอวไว้ได้อย่างง่ายดาย
ทันใดนั้นสีหน้าของกู้ชิวเหลิ่งก็ซีดขาวลง เสียงเย็นชาเหมือนดั่งน้ำแข็งเย็น: “ปล่อยข้าลงไป!”
อวี้ฉือจ้านยิ้มมุมปาก: “หากปล่อยให้กู้หนานเฉิงและกู้ชิวถางรู้เข้า คุณหนูรองของตระกูลกู้นั้นเงียบไม่พูดอะไรมาเป็นเวลานานหลายปี ไม่เพียงแต่เรียนรู้วิชากระบี่เป็น แถมยังขี่ม้าเป็นด้วย ถึงตอนนั้นเจ้ายังคิดจะให้กู้ชิวถางบอกกู้หนานเฉิงว่าเขาเป็นคนใช้เวลาสิบวันสอนเจ้าเองหรือ?”
ที่อวี้ฉือจ้านพูดนั้นถูก ตอนนี้กู้ชิวเหลิ่งยังไม่สามารถทำให้กู้หนานเฉิงเกิดความสงสัยมากนัก
“ยิ่งไปกว่านั้น……”
กู้ชิวเหลิ่งเงยหน้าขึ้น ก็ได้ยินอวี้ฉือจ้านพูดว่า:”ยิ่งไปกว่านั้นวันนั้นเจ้าเป็นลมไป หากครานี้ก็เป็นลมไปอีก ข้าควรทำอย่างไรกับเจ้าดี?”
ดวงตาของอวี้ฉือจ้านนั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้มของ ทำให้ใจของกู้ชิวเหลิ่งสั่นสะเทือนไปเล็กน้อย ราวกับว่าถูกของอะไรบางอย่างแตะโดน กลับรู้สึกหัวใจอบอุ่นขึ้นเล็กน้อย
อวี้ฉือจ้านได้ขี่ม้าออกไป เมื่อเทียบกับครั้งที่แล้ว ความเร็วของการขี่ม้าในครั้งนี้ของอวี้ฉือจ้านนั้นไม่ถือว่าเร็วนัก กู้ชิวเหลิ่งไม่ได้รู้สึกถึงโคลง แต่ตอนนี้นางกำลังนั่งอยู่บนม้าตัวเดียวกันกับอวี้ฉือจ้าน ทั้งสองคนอยู่ใกล้ชิดกันมาก จนกู้ชิวเหลิ่งสามารถรู้สึกถึงเสียงหายใจของอวี้ฉือจ้าน คนนอกดูแล้วก็รู้สึกใกล้ชิดยิ่งนัก
จีเฟิงขี่ม้าตามอยู่ข้างหลังอย่างเงียบๆ รู้สึกว่ามันแตกต่างกับตอนเดินตามหลังของอวี้ฉือจ้านในเมื่อก่อนเล็กน้อย จีเฟิงไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนเกินมาก่อนเลย
“เจ้าให้เสื้อคลุมแก่คุณหนูใหญ่ตระกูลกู้ในเมื่อครู่นั้น?”
“จวินฉีเซิ่งมีใจที่จะกำจัดข้า ดังนั้นข้าจึงนำเสื้อคลุมที่โดดเด่นที่สุดไปคลุมไว้บนตัวของนาง กู้ชิวถางอยู่ข้างนาง หากนางไม่บุ่มบ่าม กู้ชิวถางยังสามารถปกป้องนางได้ แต่ถ้านางมีใจที่จะไปทำอะไรอย่างอื่น เช่นนั้นข้าก็ไม่สามารถรับประกันได้แล้ว”