ลิขิตฟ้าชะตารัก - ตอนที่ 351-352
ลิขิตฟ้าชะตารัก – ตอนที่ 351 มอบอำนาจ / ตอนที่ 352 ไม่กล้าก็ดีแล้ว
ตอนที่ 351 มอบอำนาจ
เขารู้ดี ไม่ว่าจะอ้อนวอนร้องขออย่างไร หลิงอ๋องก็คงไม่อาจเปลี่ยนใจ เมื่อเขาคิดเช่นนี้ ก็ไม่แปลกเลยที่จะไม่มีใครยอมมาทำงานในจวนเจ้าวังนาย เพราะหากเพียงไม่ระวังถูกคนใช้ประโยชน์เข้า สุดท้ายแล้วก็จะตกเป็นแพะรับบาปก็เท่านั้นเอง
สายตาอาฆาตมาดร้ายของเขามองไปยังอนุรองและอวี้จื่อเยียน
สามพันดาบ? สุดท้ายแล้วอวี้อาเหราก็ทนไม่ได้อยู่บ้าง นางก้าวไปข้างหน้า “เสด็จพ่อ แม้ว่าหวังหลงจู๊จะทำเรื่องเช่นนี้ แต่บทลงโทษเช่นนี้ก็หนักเกินไป อย่างไรเสียเขาก็ทำงานรับใช้จวนอ๋องของเรามานานปี หากไม่ได้ใช้แรงงานแต่ก็ทำงานอย่างยากลำบาก ในเมื่อเงินก็ได้คืนแล้ว ขอให้เสด็จพ่อทรงเมตตาด้วยเถิด เว้นโทษตายให้กับเขา แล้วเนรเทศออกไปจากเมืองเฟิ่งเฉิงเสีย อย่าได้กลับมาอีก เพื่อเป็นการทำกุศลให้กับเด็กในท้องของอนุรองและจวนหลิงอ๋องของเรานะเพคะ”
“เป็นกุศลหรือ” ยากที่หลิงอ๋องจะคลายความโกรธแค้นที่อยู่ในใจได้
อวี้อาเหราพยักหน้า “ใช่แล้วเพคะ ว่ากันว่าช่วยคนหนึ่งชีวิตเท่ากับสร้างเจดีย์เจ็ดชั้น พวกเราไว้ชีวิตเขาสักครั้งเพื่อให้เขามีโอกาสกลับตัว แล้วเขายังมีคนในครอบครัวที่ต้องดูแล หากพวกเราลงโทษหวังหลงจู๊ ครอบครัวของพวกเจาก็คงต้องตายตกไปตามกันนะเพคะ”
หวังหลงจู๊มองไปทางอวี้อาเหราอย่างไม่อยากเชื่อว่านางจะปล่อยเขาไปเช่นนี้
หลิงอ๋องคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็รู้สึกว่านางพูดจามีเหตุผล เช่นนั้นจึงยอมตอบรับ “ก็ได้ ในเมื่ออาเหราพูดเช่นนี้ ก็ไว้ชีวิตมัน ไว้โทษตายแต่ก็ยังต้องได้รับโทษอยู่ เอามันไปโบยหนึ่งร้อยไม้ ยึดทรัพย์สินทั้งบ้าน แล้วขับไล่ออกไปจากเมืองเฟิ่งเฉิงทั้งตระกูล”
หวังหลงจู๊ได้ยินดังนั้นก็ขอบคุณเป็นยกใหญ่ “ขอบพระคุณท่านอ๋องที่ละเว้นโทษตาย”
จบแบบนี้ก็ไม่เลวนักหรอก หากเทียบกับการที่จะต้องตายแล้ว ก็ยังนับว่าเขาโชคดีมากนัก
องครักษ์โยนเขาออกไปโบยที่ด้านนอก อวี้อาเหรามองไปทางอนุรองด้วยท่าทีเยาะหยัน “ไม่ทราบว่าอนุรองยังมีเรื่องอะไรอีกหรือไม่ จะให้ข้าล้างหูคอยฟังหรือไม่?”
“ข้าน้อยมิกล้า” อนุรองมิใช่คนโง่ แน่นอนว่าต้องเข้าใจว่านางกำลังเยาะเย้ยตนอยู่ เช่นนั้นก็โกรธเสียจนต้องขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
วันนี้แผนการที่วางมานานกลับต้องสูญเปล่า ทั้งหมดก็เป็นเพราะเรื่องที่เจาเอ๋อร์ช่วยชีวิตเจ้านายเอาไว้ มิเช่นนั้นคงได้ลงโทษเจาเอ๋อร์ไปนานแล้ว หรืออาจจะโยนความผิดให้อวี้อาเหราก็ยังได้
ทว่าตอนนี้ นางทำได้แต่เพียงมองไปทางหลิงอ๋อง “ท่านอ๋อง ในเมื่อเรื่องของหวังหลงจู๊นั้นได้จัดการเรียบร้อยแล้ว คุณหนูรองและเจาเอ๋อร์นั้นยังคงเป็นสตรีในห้องหอ ในเมื่อนึกสนุกจนก่อให้เกิดเรื่องผิดพลาดทำให้หวังหลงจู๊มีช่องที่จะกระทำความผิด มิสู้ท่านอ๋องทรงมอบอำนาจให้หม่อมฉัน…”
“มิสู้เสด็จพ่อทรงมอบอำนาจให้อนุสี่จัดการเรื่องนี้เถิดเพคะ เพราะช่วงนี้ลูกเองก็ไม่ได้อยู่ในจวน เห็นนางจัดการเรื่องภายในจวนได้เรียบร้อยดี เหล่าบ่าวไพร่ก็ดูกระตือรือร้นคล่องแคล่วกว่าเมื่อก่อนมาก คงเป็นเพราะอนุสี่จัดการอย่างเหนื่อยยาก ครั้งนี้ลูกเองก็กระทำความผิด เช่นนั้นก็ขอมอบอำนาจให้อนุสี่จัดการแล้วเพคะ” อวี้อาเหราเอ่ยสอดคำพูดของอนุรองขึ้นมา
หลิงอ๋องคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ตกลง นำเรื่องเสบียงและที่ดินให้อนุสี่จัดการก็แล้วกัน”
แผนการของอนุรองถูกตีตกไปอีกครั้ง นางโกรธเสียจนกัดฟันกรอด ไม่อาจปิดบังสายตาโกรธแค้นไปได้ มือที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อกำแน่น ปลายเล็บแหลมจิกเข้าไปในเนื้อ จนทำให้เลือดสดๆ ไหลซึมไปทั่วแขนเสื้อสะอาด
นางวางแผนแย่งชิงอำนาจมาอย่างยากลำบาก กลับถูกอวี้อาเหรามอบมันให้กับอนุสี่ด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำ นางช่างทำงานได้ดีอย่างเหนือความคาดหมายนัก!
ตอนที่ 352 ไม่กล้าก็ดีแล้ว
อนุรองจ้องมองใบหน้าที่ประดับรอยยิ้มเย็นชาของอวี้อาเหรา เมื่อเห็นว่าอำนาจที่ควรจะได้ถูกวางลงไปในมือของอนุสี่ ในใจของนางอย่างไรก็ไม่อาจยอมรับได้ แต่ในเมื่อไม่อยากยอมรับอย่างไร แต่อำนาจนี้ก็ถูกเอาไปเสียแล้ว นางแผนที่นางวางเอาไว้ทุกอย่างกลับเสียเปล่า อวี้อาเหราไม่ยอมอ่อนข้อให้กับนางเลยแม้แต่น้อย
กลับเป็นอนุสี่ที่ได้รับอำนาจส่วนนี้ไป นางไม่เพียงแต่มีอำนาจจัดการภายในจวน ทว่ายังมีอำนาจดูแลที่ดินและเสบียงอาหารอีกด้วย
นางก็ดูเบาอนุสี่จนเกินไปจริงๆ มองข้ามนางมานาน ตอนนี้นางกลับได้นั่งอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุดไปเสียแล้ว
หลิงอ๋องเดินจากไป อวี้อาเหราก้าวเข้ามาหาอนุรองแล้วหยุดยืนในระห่างเพียงหนึ่งช่วงแขน หัวเราะเบาๆ “ครั้งนี้อนุรองใส่ใจในเรื่องของข้านัก คงจะต้องขอบคุณท่านจึงจะถูก ฮ่าๆ…”
“เจ้า!” ไม่ทันที่อนุรองจะเอ่ยปาก กลับเป็นอวี้จื่อเยียนที่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
อนุรองโบกมือ แล้วคลายหมัดที่กำแน่น “ยังเร็วเกินไปที่คุณหนูรองจะดีใจ พวกเราสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่กลับถูกอนุสี่แย่งเอาชิ้นปลามันไป หากถึงตอนนั้นจะเสียใจภายหลังก็คงจะไม่ทันแล้วกระมัง”
“เรื่องนั้นอนุรองไม่ต้องเป็นกังวล” อวี้อาเหรารู้ว่านางกำลังยั่วยุให้เกิดความแตกแยกระหว่างความสัมพันธ์ของนางและอนุสี่ เพื่อหาผลประโยชน์จากความขัดแย้งนี่ แต่อย่างไรเสียนางก็ไม่หลงกล
เมื่ออนุรองเห็นว่านางนั้นไม่กระโจนเข้ามาในบ่อที่ขุดเอาไว้ สีหน้าของนางก็เปลี่ยนไปทันที สูดลมหายใจเข้าอย่างกราดเกรี้ยว จากนั้นจึงเผยให้เห็นใบหน้าอ่อนหวานมีเมตตาอีกครั้ง “ครั้งนี้เป็นเพราะข้าน้อยเลินเล่อจนทำให้เข้าใจสาวใช้ของคุณหนูรองผิดไป ข้าน้อยต้องขออภัยด้วย ขอตัวก่อน”
อวี้อาเหรานึกชื่นชมนางยิ่งนัก อยู่ในสถานการณ์เช่นนี้แล้วยังสามารถปั้นยิ้มท่ามกลางอารมณ์ความแค้นเคืองได้ นี่ก็คงเป็นความสามารถเฉพาะตัวอย่างหนึ่งกระมัง
เมี่ยวอวี้เห็นคนไปกันหมดแล้ว เช่นนั้นจึงค่อยกล้าเข้ามา “คุณหนู ท่านเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว พวกเรากลับกันเถิดเจ้าค่ะ”
“ไม่” อวี้อาเหราส่ายหน้าแล้วเอ่ยถาม “ตอนนี้เจ้ามีเงินอยู่เท่าไร”
“ที่นำไปเป็นค่าเดินทางเมื่อครั้งที่แล้ว รวมกับเงินที่คุณหนูให้บ่าวเอาไว้ ทั้งหมดก็หลายร้อยตำลึงเจ้าค่ะ” เมี่ยวอวี้ไม่เข้าใจว่าเหตุใดจู่ๆ นางจึงถามเรื่องเงินขึ้นมา แต่ก็ตอบไปตามความเป็นจริง
อวี้อาเหราพยักหน้า “ไปหาหวังหลงจู๊กับข้าก่อนเถิด”
“เจ้าค่ะ” ดูเหมือนเมี่ยวอวี้จะเข้าใจขึ้นมาทันทีว่านางนั้นกำลังจะทำอะไร
สองนายบ่าวเดินไปยังห้องลงทัณฑ์ หวังหลงจู๊ถูกโบยไปหนึ่งร้อยครั้งแล้ว เขายืนอยู่ด้วยใบหน้าเจ็บปวดทุกข์ทรมาน สองตามองฟ้าไร้แวว อวี้อาเหราหยุดลงเล็กน้อย ก่อนจะเดินเข้าไป หวังหลงจู๊เห็นนางเดินเข้ามาแล้ว ผ่านไปชั่วอึดใจจึงค่อยทำความเคารพอย่างยากลำบาก
“ข้าน้อยคารวะคุณหนูรอง”
“เจ้าคงจะโกรธที่ข้าโยนความผิดให้เจ้าต่อหน้าเสด็จพ่อใช่หรือไม่”
อวี้อาเหราพิจารณาท่าทีเย็นชาของเขา จากนั้นก็เอ่ยปากถามอย่างไม่รอช้า
หวังหลงจู๊ชะงัก จากนั้นจึงค่อยก้มหน้าลง “ข้าน้อยมิกล้า”
“ไม่กล้าก็ดี ข้าเองก็เข้าใจจิตใจของเจ้าดี เจ้าต้องถูกลากเข้ามาเกี่ยวข้องในเรื่องของข้า หากจะโกรธก็เป็นเรื่องธรรมดา แต่เจ้าต้องเข้าใจว่านี่คือจวนหลิงอ๋อง ไม่ใช่บ้านของคนธรรมดาทั่วไป หากเกิดเรื่องอะไรกับข้าขึ้น เจ้าก็คิดว่าตัวเจ้าจะโดนโบยแค่นี้หรือ? เมื่อถึงตอนนั้นอนุรองจะยอมปล่อยเจ้าไปง่ายๆ หรืออย่างไร”
คำพูดของอวี้อาเหรากระแทกเข้าไปในใจของเขาทีละคำๆ อนุรองมีจิตใจโหดเ**้ยม มีเรื่องใดบ้างที่จะไม่กล้าทำ ไหนเลยจะขออภัยโทษให้หวังหลงจู๊เหมือนที่นางทำ หากจะต้องโดนลงโทษจริงๆ เขาคงจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย และนางเองก็จะไม่ได้รับความไว้วางใจจากหลิงอ๋องอีก จุดจบเช่นนั้นแม้เป็นใครก็คงพอจะคาดเดาได้