ลิขิตฟ้าชะตารัก - ตอนที่ 395-396
ลิขิตฟ้าชะตารัก – ตอนที่ 395 ยอมรับ / ตอนที่ 396 พยานหลักฐาน
ตอนที่ 395 ยอมรับ
“เรื่องอะไรที่อยากจะบอกข้าหรือ” ในยามนั้น หลิงอ๋องก็ก้าวยาวๆ เข้ามา ข้างกายมีอนุรองอยู่ด้วย การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของพวกเขาทำให้อวี้อาเหราชะงักไป แล้วหันไปมองเมี่ยวอวี้ “เกิดอะไรขึ้น”
“บ่าวจะไปดูให้เจ้าค่ะ” เมี่ยวอวี้เดินออกไปจากห้อง
เมื่ออวี้จื่อเยียนเห็นหลิงอ๋องเดินมากับแม่ของตัวเอง ก็เชิดหน้าแล้ววิ่งไปหา พร้อมทั้งร้องไห้น้ำตานองหน้า “เสด็จพ่อ ต้องช่วยเยียนเอ๋อร์นะเจ้าคะ สวรรค์ช่างไร้เมตตายิ่งนัก กล้ารังแกคนอื่นเช่นนี้ ลูกอยากตายไปเสียจะได้รู้แล้วรู้รอด”
“เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า ทำไมเสื้อผ้าถึงเปียกเช่นนี้” หลิงอ๋องตกใจ ปลดเสื้อคลุมกันลมของตัวเองไปคลุมที่บ่าของอวี้จื่อเยียน แล้วก็อดไม่ได้ที่จะโกรธเคืองใหญ่โต “คนรับใช้ไปไหนกันหมด เสื้อผ้าเจ้าเปียกถึงเพียงนี้ทำไมไม่มีใครดูแล เยียนเอ๋อร์ บอกพ่อมาว่าใครทำกับเจ้าเช่นนี้”
“เป็น…” อวี้จื่อเยียนอึกอักไม่ยอมพูดพลางส่งสายตาไปทางอวี้อาเหรา
หลิงอ๋องเองก็มองตามสายตาของนาง
“เป็นลูกทำเองเจ้าค่ะ” อวี้อาเหราก้าวไปข้างหน้า แล้วยอมรับด้วยตัวเอง
“อาเหรา เป็นเจ้าที่ทำเองหรือ” หลิงอ๋องไม่อยากจะเชื่อ
อวี้อาเหรายอมรับ “ไม่ผิด เป็นลูกที่สาดน้ำชาใส่นางเอง”
“เจ้ากำลังป่วยอยู่มิใช่หรือ…” หลิงอ๋องพูดไม่ออก
“เยียนเอ๋อร์ของแม่ ทำไมลูกจึงต้องลำบากถึงเพียงนี้ ถูกรังแกจนออกมาในสภาพนี้ หากไม่ใช่สาวใช้ของเจ้าไปรายงาน แม่ก็ไม่รู้ว่าเจ้าต้องโดนรังแกถึงเพียงนี้ น่าสงสารยิ่งนัก น้ำชานี้คงจะเย็นมาก ดูสิเจ้าหนาวถึงขนาดนี้” อนุรองเห็นทีสบโอกาส จึงร้องไห้สะอึกสะอื้นน้ำหูน้ำตาไหล
สายตาแฝงให้เห็นถึงความเกลียดชัง อวี้อาเหราช่างร้ายกาจนัก กล้าที่จะรังแกลูกสาวของนางเช่นนี้
อวี้อาเหราสัมผัสได้ถึงความเกลียดชังในสายตาของอนุรอง ในใจของนางก็หัวเราะเสียงเหยียบเย็นออกมา แล้วหันไปทางหลิงอ๋องอีกครั้ง “ลูกรักษาตัวอยู่ที่ห้องจริงๆ แต่ว่าหลังจากนั้น…”
“แม้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเจ้าก็ไม่ควรสาดน้ำเย็นๆ ใส่เยียนเอ๋อร์เช่นนี้ แม้ว่านางจะเป็นธิดารอง แต่อย่างไรนางก็เป็นพี่น้องสายเลือดเดียวกับเจ้า” หลิงอ๋องถอนหายใจเสียงหนักๆ
อวี้อาเหรานิ่งไปครู่หนึ่ง เมี่ยวอวี้เดินเข้ามาในห้อง แล้วรายงานต่อนางด้วยน้ำเสียงกดต่ำ “คุณหนู เป็นเพราะคนของเราไม่ได้ขวางทางสาวใช้ของคุณหนูใหญ่เอาไว้ จึงทำให้นางไปรายงานต่อหลิงอ๋องได้เจ้าค่ะ”
“ข้ารู้แล้ว” อวี้อาเหรากล่าว แล้วจึงหันไปมองหลิงอ๋องอีกครั้ง แล้วคุกเข่าลงในทันที “อนุรองและพี่สาวเอาแต่พูดว่าลูกรังแกพวกนางอย่างนั้นอย่างนี้ เสด็จพ่อ จะทรงเชื่อคำพูดของพวกนางสองคนจริงๆ หรือเจ้าคะ”
“พ่อเองก็ไม่อยากเชื่อว่าเจ้าจะทำเรื่องเช่นนี้ แต่ดึกดื่นค่อนคืนเจ้ากลับไม่พักผ่อน กลับมาหาเรื่องเยียนเอ๋อร์ถึงเรือนพักของนาง น้ำชานี่เจ้าก็ยอมรับเองว่าเป็นคนสาดใส่นาง ยังจะให้พ่อไม่เชื่อได้หรือ” หลิงอ๋องส่ายหน้า
อวี้อาเหราชะงักงัน “แล้วเสด็จพ่อจะไม่ถามหน่อยหรือว่าทำไมลูกจึงต้องทำกับท่านพี่อย่างนี้”
“ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็ว่ามาเถิด” หลิงอ๋องระงับความโกรธแล้วเอ่ยถาม มองลูกสาวตัวเองอย่างพินิจ คิดไม่ออกจริงๆ ว่านางกำลังคิดอะไรอยู่ ยามปกตินางก็ดูเป็นคนที่อยู่ในกฎเกณฑ์ดี ไม่มีทางทำเรื่องเช่นนี้แน่นอน แต่เพราะมีหลักฐานอยู่ตรงหน้า จะให้ไม่เชื่อได้อย่างไร
อวีอาเหรากัดกลีบปาก “ลูกไม่อยากพูดเลย แต่อยากจะให้เสด็จพ่อตัดสิน”
ยังไม่ทันให้หลิงอ๋องได้เอ่ยคำ อวี้จื่อเยียนก็พูดแทรกขึ้นมาทันที “เสด็จพ่อ นางยอมรับผิดแล้ว นางรังแกเยียนเอ๋อร์ เสด็จพ่อต้องจัดการให้ลูกนะเจ้าคะ มิเช่นนั้นต่อไปพวกเราแม่ลูกจะมีที่ยืนในจวนหลิงอ๋องหรือเจ้าคะ”
ตอนที่ 396 พยานหลักฐาน
“ข้า…” หลิงอ๋องลังเลอยู่เป็นนาน มองไปยังอวี้อาเหราที่คุกเข่าไร้อารมณ์อยู่ที่พื้น แล้วมองไปยังอวี้จื่อเยียนที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความทุกข์ทน ชั่ววินาทีนั้นเขาก็ไม่อาจจะตัดสินใจได้
“ท่านอ๋อง ในเมื่อท่านอ๋องยังไม่ทรงเชื่อคำพูดของคุณหนูใหญ่ ก็ลองฟังคำพูดของคุณหนูรองหน่อยเถิดเจ้าค่ะ ที่คุณหนูรองไม่กล้าพูดเพราะเห็นแก่หน้าของทุกคน แต่ในเมื่อคุณหนูใหญ่ไม่สนใจใครเช่นนี้ บ่าวก็จะแจงแจกเรื่องราวทั้งหมดให้ฟังเองเจ้าค่ะ”
ในนาทีนั้นเอง เมี่ยวอวี้ก็คุกเข่าลงกับพื้น แล้วพูดขึ้นด้วยท่าทีเป็นทุกข์ร้อนยิ่งนัก
“เรื่องอะไรกันที่เจ้าอยากจะบอกข้า” หลิงอ๋องถามขึ้นอย่างแปลกใจ
อนุรองและอวี้จื่อเยียนชะงัก ไม่รู้ว่าสองนายบ่าวกำลังคิดจะทำเรื่องบ้าอะไรกันแน่
“ชิงอวิ๋น นำคนมาให้ท่านอ๋อง” เมี่ยวอวี้เอ่ยปากกับชิงอวิ๋นที่อยู่ด้านนอก
ชิงอวิ๋นลากตัวเหลียงเอ๋อร์ที่สวมเสื้อผ้าขาดวิ่นเข้ามาด้านใน ยามที่อนุรองและอวี้จื่อเยียนเห็นนางเข้าก็ตกใจเสียจนแทบจะสลบ แล้วพ่นลมออกมา นั่นไม่ใช่…ไม่ใช่เหลียงเอ๋อร์หรอกใช่หรือไม่
“คุณหนูใหญ่ ท่านจะต้องช่วยเหลียงเอ๋อร์นะเจ้าคะ…” เมื่อเหลียงเอ๋อร์เดินเข้ามาแล้ว เงยหน้าขึ้นมองอวี้จื่อเยียน ก็รีบร้องขอความช่วยเหลือเหมือนคนตกน้ำคว้าฟางเชือกสุดท้าย อวี้จื่อเยียนก้าวไปข้างหลังราวกับหลบหลีกจากขยะสกปรก ใบหน้ารังเกียจ “เจ้าเป็นใคร ข้าไม่รู้จักเจ้าเสียหน่อย ไสหัวไป”
“คุณหนูใหญ่ ท่านไม่รู้จักนางจริงๆ หรือเจ้าคะ” เมี่ยวอวี้เค้นถาม
“นางคนชั้นต่ำ ข้าจะไปรู้จักคนชั้นต่ำเหมือนๆ กับเจ้าได้อย่างไร” ในใจของอวี้จื่อเยียนแน่ชัดแล้วว่านี่ต้องเป็นแผนการที่อวี้อาเหราจงใจให้เกิดขึ้นแน่ แต่เมื่อพบหน้าเหลียงเอ๋อร์เช่นนี้นางก็ตกใจ หากหลิงอ๋องรู้ว่านางใช้เหลียงเอ๋อร์ในการล่อลวงอวี้อาเหราวันนั้น อย่างไรก็คงไม่ปล่อยนางไว้แน่
หลิงอ๋องได้ยินอวี้จื่อเยียนด่าคนอื่นว่าคนชั้นต่ำเช่นนี้ ในใจก็ไม่ค่อยยินดีนัก เยียนเอ๋อร์ที่เคยสุภาพเรียบร้อยทำไมพูดจาเช่นนี้ออกมาได้
เมี่ยวอวี้ยิ้มเย็นเหยียบขึ้นมาทันที “ทำอย่างไรดีเล่าเหลียงเอ๋อร์ ตอนนี้คุณหนูของเจ้าไม่รู้จักเจ้าเสียแล้ว ดูท่าแล้วเจ้าจะต้องตายแน่ๆ”
“คุณหนู ทำไมจึงจำบ่าวไม่ได้เสียแล้ว บ่าวคือสาวใช้คนใหม่ของท่านที่ชื่อเหลียงเอ๋อร์อย่างไรเล่าเจ้าคะ ท่านจะต้องช่วยขอร้องคุณหนูรองให้ยกโทษให้บ่าวนะเจ้าคะ มิเช่นนั้นนางจะไม่ยอมปล่อยบ่าว คุณหนูใหญ่ บ่าวขอร้องนะเจ้าคะ…” เหลียงเอ๋อร์เอ่ยร้องขอชีวิต เมื่อเห็นอวี้จื่อเยียนหลบไปด้านหลัง นางก็ยืดตัวขึ้นไปเกาะ
ใจของอนุรองเต้นแรงขึ้นมา “ทหาร โยนนางคนชั้นต่ำนี่ออกไป ทำให้คุณหนูใหญ่ตกใจหมดแล้วดูสิ”
“ช้าก่อน” ผ่านไปนาน หลิงอ๋องจึงค่อยได้สติ มองอวี้อาเหราที่คุกเข่าอยู่ที่พื้น “อาเหรา นางคือสาวใช้ที่ชื่อเหลียงเอ๋อร์ซึ่งล่อลวงเจ้าไปยังหนานย่วนเมื่อวันนั้นใช่หรือไม่”
“เจ้าค่ะ” อวี้อาเหราพยักหน้า
“สาวใช้ของเยียนเอ๋อร์มีคนที่ชื่อเหลียงเอ๋อร์มิใช่หรือ” หลิงอ๋องฟังแล้วก็ทำสีหน้าไม่เข้าใจ
อวี้อาเหราที่ยังคงป่วยอยู่เช่นนี้ก็เหน็ดเหนื่อยขึ้นมา ดังนั้นจึงส่งสายตาไปทางเมี่ยวอวี้
เมี่ยวอวี้หัวไว ทันใดนั้นก็เล่าเรื่องราวออกมาจนหมด “ที่จริงแล้วเหลียงเอ๋อร์เป็นสาวใช้ที่คุณหนูใหญ่เพิ่งจะซื้อตัวมา แต่ยังไม่ทันได้ขึ้นทะเบียน ดังนั้นจึงไม่มีคนรู้จักนาง ท่านอ๋องดูเอาเถิด เมื่อเหลียงเอ๋อร์มาถึงแล้วก็เข้ามาก็ขอความช่วยเหลือจากคุณใหญ่ทันที ทั้งสองคงจะต้องรู้จักกันแน่ๆ เมื่อคิดถึงเหตุการณ์วันนั้นที่คุณหนูรองถูกใส่ร้ายว่าแอบลักลอบพบบุรุษ คิดว่าคงเป็นเพราะ…”
“เพราะอะไร” อนุรองไม่อาจสงบอารมณ์ได้ “สาวใช้เช่นเจ้าช่างกล้านัก กล้าที่จะสร้างเรื่องขึ้นมาเช่นนี้ ยังไม่มีพยานหลักฐานอะไรเลยด้วยซ้ำ ทำไมเจ้าจึงมั่นใจว่านางหรือเหลียงเอ๋อร์ เจ้าอาจจะนำตัวหญิงสาวสักคนมาสวมรอยก็เป็นได้”