ลิขิตฟ้าชะตารัก - ตอนที่ 597-598
ตอนที่ 597 ทายา
ดูจากท่าทีของเขาแล้ว คงจะไม่ชอบให้ฉู่เกอและอวี้จื้อไปมาหาสู่กันมากนัก ทว่าอวี้จื้อนั้นไปอยู่ที่ค่ายซีซานตั้งแต่ยังเล็ก จะไปล่วงเกินเขาตอนไหนกัน นี่จะเป็นไปได้อย่างไร…
อวี้อาเหราลังเลอยู่นาน เมื่อเห็นฉู่ป๋ายเดินออกมาก็ตามไปอยางกระชั้นชิด
ออกมาจากห้องหนังสือแล้ว เจาเอ๋อร์และเมี่ยวอวี้ยืนรออยู่ด้านนอก
เมื่อเห็นคนทั้งสองเดินออกมาพร้อมกัน ก็รีบทำความเคารพอย่างยินดี “เซิ่นซื่อจื่อ คุณหนู”
อวี้อาเหราใช้สายตาในการสื่อสารกับพวกนางทั้งสองเพื่อให้พวกนางหยุดพูด ตอนนี้ฉู่ป๋ายอารมณ์ไม่ค่อยดีนัก ทางที่ดีก็ไม่ควรไปยั่วยุจะดีที่สุด นางยังจำได้ว่าครั้งที่แล้วที่เขาโกรธนั้นยังจูบนางเข้าให้ ในเมื่อมีประสบการณ์จากครั้งก่อน ตอนนี้เมื่อเห็นฉู่ป๋ายนางก็ควรจะสงบปากสงบคำเอาไว้
แต่หากจะทำเช่นนั้นจริงๆ ก็คงยากที่จะกลบเกลื่อนได้
จากนั้นฉู่ป๋ายก็เดินเข้าไปในเรือนพักโดยไม่พูดไม่จา พวกของอวี้อาเหราทั้งสามคนก็เดินตามไปข้างหลัง
เมื่อมาถึงในห้อง เขาก็หยิบเอาขวดหยกที่ไม่รู้ว่าไปหามาจากไหน จากนั้นก็กวักมือเรียกอวี้อาเหรา
“ทำไม?” อวี้อาเหราชะงัก
“มานี่” ฉู่ป๋ายเอ่ยขึ้นเรียบๆ
อวี้อาเหราเห็นว่าเขามีท่าทีไม่ค่อยปกติ เมื่อได้ยินแล้วก็เดินเข้าไปหา
ฉู่ป๋ายพูดต่อว่า “เอาแขนข้างที่บาดเจ็บมาให้ข้าดูหน่อย”
อวี้อาเหราทำตามที่เขาบอก ยื่นแขนออกไปอย่างคลางแคลงอยู่บ้าง
มองเขาพับแขนเสื้อของนางขึ้นมา เผยให้เห็นแขนขาวราวหิมะ ในนั้นยังเห็นรอยแผลถลอกและรอยบวมแดงช้ำเลือดช้ำหนอง
“เจ้าทำอะไรน่ะ” อวี้อาเหรามองการกระทำของเขาแล้วปรายตามองไปทางด้านหลัง เห็นคนรับใช้ทั้งสองคนมองอยู่ด้านหลังของนางจึงถลึงตามอง พวกนางทั้งสองรีบก้มหน้าลงในทันที ไม่กล้าที่จะมองอีก แต่มุมปากของพวกนางก็อดไม่ได้ที่จะยกยิ้มขึ้นมา
มีอะไรให้ขำหนักหนา?
ฉู่ป๋ายเปิดฝาขวดหยก แล้วยื่นให้นางดม “ได้กลิ่นอะไรหรือไม่”
“ยาหรือ?” อวี้อาเหราได้กลิ่นสมุนไพร แต่เป็นกลิ่นสมุนไพรที่ไม่ค่อยเข้มข้นมากนัก อีกทั้งยังแฝงไปด้วยกลิ่นหอมสะอาด นางอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา ของในจวนหลิงอ๋องนั้นช่างไม่ธรรมดายิ่งนัก แม้แต่ยาก็ยังหอมถึงเพียงนี้
ฉู่ป๋ายพยักหน้าลง จากนั้นก็เทยาลงบนฝ่ามือเล็กน้อย แล้วทาไปที่แขนของอวี้อาเหรา
ฝ่ามือของเขาเย็นเล็กน้อย แต่ก็ยังแฝงไปด้วยความร้อน ในยามนี้เองอวี้อาเหราไม่อาจอธิบายได้ว่าร้อนหรือเย็นกันแน่
เป็นนาน นางก็ใจลอยจากการกระทำของเขา
ที่แท้แล้ว เขาก็ตั้งใจที่จะทายาให้นางนั่นเอง
อุตส่าห์คิดว่าจะไม่สนแล้วว่าเขาจะทำอะไรกันแน่
อวี้อาเหราไม่ได้ดึงมือกลับมา แต่ปล่อยให้เขาทายาต่อไป ยานั้นเย็นๆ สามารถบรรเทาอาการแสบร้อนของบาดแผลได้เป็นอย่างดี และมือของเขาก็ยังเย็น เมื่อลูบอยู่บนแขนก็รู้สึกสบายนัก ไม่รู้สึกรังเกียจเลย นางอดไม่ได้ที่จะหลับตาลง แล้วเคลิ้มไปตามสัมผัส
หลังจากผ่านไปสักพัก ฉู่ป๋ายก็ยังคงลูบไล้อยู่เช่นนั้น
อวี้อาเหรามองไปรอบๆ อย่างเบื่อหน่าย ทันใดนั้นก็เหมือนคิดอะไรขึ้นมาได้ “เมื่อครู่นี้ข้าเห็นรูปวาดแผนที่หมื่นลี้ในห้องหนังสือ งดงามนัก”
“อืม ย่อมงามอยู่แล้ว ข้าวาดเอง” ฉู่ป๋ายพูด
อวี้อาเหราชะงัก “เจ้าวาดหรือ?”
ภาพนั้นวาดได้อย่างละเอียดถี่ถ้วน อีกทั้งลายเส้นยังแข็งแกร่ง ทั้งภูเขาและสายน้ำดูมีชีวิตชีวา ราวกับมีสถานที่งดงามเช่นนั้นอยู่จริงๆ
ฉู่ป๋ายพยักหน้าลง “แน่นอนว่าย่อมเป็นข้าที่วาด หรือเป็นเจ้าที่วาดเล่า?”
อวี้อาเหราส่ายหน้า แน่นอนว่านางไม่ได้วาด ที่นางสามารถอ่านตัวหนังสือที่ใช้ในสมัยนี้ได้ก็คือว่าเก่งแล้ว หากยังสามารถวาดภาพที่งดงามเช่นนั้นออกมาได้ นางก็คงจะมีพรสวรรค์ทางด้านศิลปะเป็นหนึ่งไม่มีสองเลยทีเดียว แต่น่าเสียดายที่นางไม่เก่งศิลปะสตรีเลย กระทั่งฝีมือการเดินหมากก็ยิ่งไม่ได้เรื่อง อย่างไรก็ไม่เป็น ให้ตายอย่างไรก็ไม่ชนะคนอื่นหรอก
ตอนที่ 598 ไม่ให้ไป
แม้แต่ตอนที่เดินหมากห้าเม็ดที่นางเล่นเก่งที่สุดแล้วกับฉู่ป๋าย นางก็ยังพ่ายแพ้ไม่มีชิ้นดี
นี่ก็สามารถมองเห็นได้แล้วว่าฝีมือการเดินหมากของนางนั้นย่ำแย่เหลือทน หากไม่ใช่เพราะฉู่ป๋ายเก่งกาจเหลือเกิน ก็เป็นเพราะอวี้อาเหรานั้นโง่เหลือใจ
ไม่ผิด ในใจของนางก็ยังคิดเช่นนี้
หลังจากได้สติกลับมา ฉู่ป๋ายก็ยังคงทายาอย่างจริงจังอยู่เช่นเดิม แม้ว่านางจะรู้สึกขอบคุณที่เขาช่วยทายาให้ แต่ก็ไม่เห็นต้องทายานานถึงเพียงนี้เลยมิใช่หรือ? เขาวาดภาพบนแขนของนางหรืออย่างไรกัน นางอดไม่ได้ที่จะมองไป เมื่อเห็นท่าทีจริงจังของเขาแล้วจึงเอ่ยขึ้นว่า “เจ้าทาเสร็จหรือยัง”
“เสร็จแล้ว” เมื่อเขาได้ยินเช่นนี้ก็ได้สติ ฉู่ป๋ายเคลื่อนย้ายออกจากแขนของนาง แล้วเก็บขวดหยกเอาไว้ในอก
อวี้อาเหราเห็นว่าเขาเก็บขวดเอาไว้ “นั่นยาอะไรหรือ”
“ยาช่วยให้เลือดไหลเวียนและลดอาการบวม”
“…” อวี้อาเหราไม่รู้จะพูดอย่างไร แน่นอนว่านางรู้อยู่แล้ว ต้องให้เขาบอกด้วยหรือ?
ฉู่ป๋ายมองไปทางด้านนอกห้อง “เขายังไม่กลับมาหรือ”
“ยังไม่กลับมาเจ้าค่ะ” เมี่ยวอวี้และเจาเอ๋อร์ยืนเฝ้าอยู่หน้าประตู เมื่อได้ยินเขาพูดก็รีบตอบทันที
อวี้อาเหราเห็นเขารีบร้อนถึงเพียงนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นว่า “ดูแล้วเจ้าคงไม่ค่อยชอบให้ฉู่เกอเข้าใกล้น้องชายของข้าเท่าไหร่นัก”
“อืม ไม่ชอบ” ฉู่ป๋ายพยักหน้า
“เหตุใดกัน” อวี้อาเหราถามต่อ
ฉู่ป๋ายมองอยู่นาน หากตอบไปก็จะทำให้ผิดหวัง เมื่อพูดถึงผิดหวัง เขาก็รู้สึกเบื่อหน่าย
“เจ้าไม่ต้องรู้”
อวี้อาเหราไม่รู้ว่าจะพูดอะไร เพราะนางอยากรู้ถึงได้ถาม เมื่อพูดเช่นนี้แล้วมันจะต่างจากไม่พูดตรงไหนกัน?
หลังจากผ่านไปอีกสักพักหนึ่ง ในที่สุดหานสือก็ถือกล่องเข้ามา และฉู่เกอที่มีรอยยิ้มประดับใบหน้าที่แสนดีอกดีใจก็กลับมาแล้ว
สายตาของอวี้อาเหรามองไปยังกล่องนั้น ดูแล้วคงเป็นของขวัญที่ขอมาจากอวี้จื้อแน่
สายตาของฉู่ป๋ายเองก็มองไปที่กล่องใบนั้นเช่นเดียวกัน แล้วเอ่ยถามขึ้นว่า “นั่นคืออะไร?”
“ไม่บอกหรอก” ฉู่เกอส่ายหน้า พูดขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ
ฉู่ป๋ายเอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง “เมื่อครู่นี้เจ้าไปที่ใดมา”
“ก็ท่านพี่ให้หานสือไปเรียกตัวข้ากลับมา ยังไม่รู้อีกหรือว่าข้าไปที่ใด?” ฉู่เกอว่าเสียงเง้างอน แสดงให้เห็นถึงความไม่พอใจ
ฉู่ป๋ายรู้ขึ้นมาในทันที “ต่อไปห้ามไม่ให้เจ้าไปจวนหลิงอ๋องแล้ว”
เมื่อพูดออกไปเช่นนี้ ไม่เพียงแต่ฉู่เกอเท่านั้น แม้แต่อวี้อาเหราก็ยังชะงักไปด้วย เหตุใดนางถึงไปที่จวนหลิงอ๋องไม่ได้กันเล่า?
หรือว่าจะเกี่ยวข้องกับอวี้จื้อ? นี่เป็นเพียงเหตุผลเดียวที่อวี้อาเหรานึกออก นอกจากเรื่องนี้แล้วก็ไม่เห็นว่าฉู่ป๋ายจะมีเรื่องอะไรให้ไม่พอใจอีก
แต่ก็น่าขันยิ่งนัก เขาไม่ยอมให้ฉู่เกอไปที่จวนหลิงอ๋อง แต่เมื่อวานเขาเองก็ไปจวนหลิงอ๋องเช่นเดียวกัน ทำเช่นนี้ก็ไม่เท่ากับเกลียดตัวกินไข่ เกลียดปลาไหลกินน้ำแกงหรืออย่างไร?
ฉู่เกอไม่พอใจขึ้นมาในทันที “ข้าจะไป ท่านพี่จะทำไมล่ะ?”
“ถ้าเช่นนั้นเจ้าก็ไปเสีย” ฉู่ป๋ายว่าเสียงเย็น แต่น้ำเสียงนั้นได้ยินถึงความเคร่งขรึมได้อย่างชัดเจน
ฉู่เกอที่ถูกบังคับให้กลับมาเช่นนี้ เมื่อเห็นสีหน้าของเขาก็ทำเสียงอ่อน ก่อนจะเดินก้าวไปข้างหน้า “เหตุใดถึงไม่ยอมให้ข้าไปเล่า พี่เหราเอ๋อร์อยากให้ข้าไป อีกอย่างข้าเพิ่งกลับมา ไม่ค่อยรู้จักที่นี่มากนัก ไม่ง่ายเลยที่จะได้สนิทสนมกับพี่เหราเอ๋อร์ พี่ไม่ให้น้องไป หรือว่าพี่มีเรื่องอะไรกับพี่เหราเอ๋อร์กัน?”
ในเมื่อนางพูดเช่นนี้ก็เท่ากับโยนเอาความขัดแย้งไปที่อวี้อาเหรา เพราะหวังว่านางจะช่วยพูดให้
จำต้องยอมรับจริงๆ ว่าบางครั้งฉู่เกอก็ฉลาดนัก
นางอายุพอๆ กับเริ่นหว่านเอ๋อร์แท้ๆ แต่ไม่รู้ว่าเหตุใดถึงได้ฉลาดกว่าเริ่นหว่านเอ๋อร์เพียงนี้
แน่นอนว่าอวี้อาเหราต้องเข้าใจ แต่นางไม่สอดปากเข้าไปยุ่งแน่ นี่เป็นเรื่องภายในครอบครัวของเขา เรื่องระหว่างพี่ชายน้องสาว นางที่เป็นคนนอก จะให้สอดเท้าเข้าไปยุ่งได้อย่างไรกัน
ฉู่ป๋ายเอ่ยปาก “เจ้าดูเอาก็แล้วกัน แต่ข้าบอกไม่ให้ไปก็คือไม่ให้ไป”