ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ - ตอนที่ 12
ตอนที่ 12 ฉันเข้ามาเป็นลูกเขย
“นี่เป็นของที่ฉันไม่ควรรับมา”
หวาเหวินรู้ดีว่านี่เป็นแค่การแต่งงานหลอกๆดังนั้นจะเอาเงินของเขามามันก็คงดูไม่ดี
อีกอย่างดูบัตรนี้แล้วก็รู้ได้เลยว่าเงินที่อยู่ข้างในไม่น้อยแน่
เจียงหยู่หยิบบัตรมาแล้วมองดู แล้วก็เอาให้หวาเหวิน
“เอาไปเถอะนี่เป็นเงินรับขวัญลูกสะใภ้ อย่าให้เรียกพ่อกับแม่ฟรีๆเลย แต่พวกท่านก็ใจใหญ่เหมือนกันนะในบัตรนี้คงมีเงินประมาณหนึ่งล้าน”
หวาเหวินถูกจำนวนเงินทำให้ตกตะลึง หนึ่งล้านนี่มันไม่ใช่น้อยๆเลย
“นี่มันเยอะเกินไปแล้ว ให้แค่นิดเดียวก็พอ ถ้างั้นคุณเอาไปเถอะ คุณให้ฉันแค่ไม่กี่พันแทนแล้วกัน”
“คุณทำเหมือนบ้านผมจนมากว่างั้น” เขาถามขึ้นมา
หวาเหวินเงียบ
ใช่ ตระกูลเจียงมีเงินมีเงินมากด้วย รวยที่สุดในโลก
เธอเองก็ขี้เกียจที่จะเถียงกับเขาเรื่องนี้แล้ว หล่นหันหลังแล้วนั่งลงตรงหน้าโต๊ะเครื่องแป้งถอดต่างหู
ห้องนี้เป็นห้องที่ของเจียงหยู่ที่บ้านตระกูลเจียง เพราะว่าทั้งสองแต่งงานกะทันหันเกินไป ขนาดจะเตรียมห้องให้ใหม่ก็ยังไม่ทัน
ดังนั้นจึงต้องมาอยู่ในห้องนี้
“ฉันต้องการจะเปลี่ยนเสื้อผ้านอนแล้วคุณยังไม่ไปอีกหรือ” หวาเหวินพูดกับเงาผู้ชายที่อยู่ในกระจก
“ไปฉันเป็นสามีของเธอ เธอจะให้ฉันไปไหนล่ะ” เจียงหยู่หัวเราะ
“แต่พวกเราเป็นสามีภรรยากันหลอกๆนะ”
“แต่ก็ต้องอยู่ด้วยกันสามปี นี่วันแรกก็ต้องแยกกันแล้ว เธอจะให้พ่อกับแม่ของฉันคิดยังไง นี่มันบ้านตระกูลเจียงนะ”
คำพูดประโยคนี้ทำให้หวาเหวินหมดคำพูดอีกแล้ว
เธอลืมนึกถึงตรงนี้ไปจริงๆ แต่ก็ไม่ใช่ความผิดนางนี่
ที่ผ่านมายี่สิบสองปีนางอยู่กับนายหญิงแก่บนเขาจงชุ่ยมาตลอด
น้อยครั้งมากที่จะลงเขามา และไม่ค่อยได้เข้าใกล้ผู้ชายมากนัก ดังนั้นพอคิดถึงทั้งสองต้องมานอนในห้องเดียวกันก็ทำให้เธอรู้สึกกลัวๆขึ้นมา
“ชุนเถากับหนินซิ่งล่ะ” เธอพูดเรื่องอื่นแก้เขิน
“สองคนนั้นเป็นพี่เลี้ยงของเธอหรอ” เจียงหยู่เองก็ไม่ได้นึกถึงตรงนี้
หวาเหวินไม่ว่าจะไปไหนเธอก็จะพาสาวใช้สองคนที่อายุไล่เลี่ยไปด้วยกันกับเธอ
คอยอยู่รับใช้ และดูแล้วเหมือนจะเก่งไม่เบา
“พวกเขาสองคนคนหนึ่งต้มซุปให้เธออยู่ข้างล่างอีกคนบอกว่าจะกลับไปรายงานฉันเลยสั่งให้คนขับรถไปส่งที่บ้านตระกูลหวาแล้ว”
หลังจากนั้นก็เงียบ
หวาเหวินถอดเครื่องประดับออกอย่างเงียบๆเจียงหยู่เองก็อยู่ข้างๆมองดูอย่างสนใจ
เดิมคิดว่าหาไร้เครื่องประดับเครื่องสำอางแล้วความสวยจะลดลง
แต่คิดไม่ถึงว่า ใบหน้าที่ไร้เครื่องสำอางของหวาเหวินกลับแลดูสวยใส ผิวขาวนวลผ่องใสราวกับไข่
ดวงตาคู่โต ผมสีดำ ราวกับว่าในตาของเธอนั้นมีดวงดาวกำลังส่องแสงแวววาวอยู่ในนั้น
จัดการกับเครื่องสำอางเสร็จหวาเหวินก็ลุกขึ้นแล้วหยิบชุดนอนที่เตรียมไว้แล้วขึ้นมา
แล้วมองดูเจียงหยู่ด้วยสายตาที่ไม่ร้อนไม่หนาว “คุณจะนอนบนเตียงหรือที่พื้น”
“แน่นอนว่าเป็นบนเตียง” เจียงหยู่ตั้งใจแกล้งพูดแบบนี้
หวาเหวินแปลกใจ แต่ก็ดูออก เธอสะบัด ฮื่ม
มีที่ไหนกันผู้ชายที่ให้ผู้หญิงนอนพื้น ไม่เป็นสุภาพบุรุษเอาเสียเลย
ในใจโกรธ แต่ก็ไม่แสดงออกมา
เธอพยักหน้า “งั้นเดี๋ยวฉันจะนอนพื้นเอง”
พูดจบเธอก็ถือชุดนอนเดินเข้าห้องน้ำไป
เจียงหยู่นั่งบนเก้าอี้เอามือลูบคาง แล้วคิดว่าเรื่องราวเมื่อกี้นี้น่าสนใจยิ่งนัก
เปลี่ยนชุดนอนเสร็จแล้วหวาเหวินเดินออกมาแล้วพูดประโยคแรกว่า “พรุ่งนี้ฉันจะย้ายไปอยู่ที่สุ่ยยู่นเก๋อของเฟิงหวาหลี่คุณย่าของฉันมอบให้ฉันเป็นบ้านแบบจีนเดิม
“ดังนั้นผมก็ต้องย้ายไปอยู่กับคุณด้วยใช่ไหม” เจียงหยู่ถามเธอ
“ได้หมด” เธอตอบ
“ถ้างั้นพูดไปพูดมา ไม่ใช่เธอแต่งออกแต่เป็นฉันที่แต่งเข้าใช่มั้ย” เขาแกล้งเธอต่อ