ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ - ตอนที่ 121
ตอนที่ 121 ตั้งใจทำลายชื่อเสียง
ใบหน้าของเจียงหยู่แสดงสีหน้าลำบากใจออกมา………
ชุดราตรีชุดนี้เป็นชุดที่เขาให้ผู้ช่วยสาวช่วยจัดการเลือกให้ และแน่นอนว่าต้องเป็นไปตามรูปแบบอนุรักษ์นิยม ประเพณี สุขุมตามที่เขาต้องการด้วย
หวาเหวินอยากจะหลุดขำออกมา เพราะเธอรู้สึกว่าคำพูดของแซ่จื๋อจ้วนคนนี้ฟังดูมีเหตุผลมากเลยทีเดียว
“คุณชายแซ่ก็พูดตลกไป ภรรยาของฉันจะแต่งตัวยังไงมันก็คืองานอดิเรกของเธอ ไม่ได้ต้องการให้คนอื่นมาวิพากษ์วิจารณ์นะครับ และอีกอย่าง………ผู้ชายอย่างนาย มาวิพากษ์วิจารณ์การแต่งตัวของผู้หญิงแบบนี้ มันดูไม่มีมารยาทไปหน่อยไหมครับ?”
“ฉันกับเหวินเหวินเป็นเพื่อนกัน มีอะไรก็พูดออกไป” แซ่จื๋อจ้วนเองก็ให้ความสำคัญกับชื่อเสียงหน้าตาของตัวเองเหมือนกัน
เจียงหยู่ก็ตอกหน้าเขากลับไป “ใช่เหรอ? แต่เท่าที่ฉันรู้มา ภรรยาของฉันไม่มีเพื่อนนะครับ”
แซ่จื๋อจ้วนมองไปทางหวาเหวิน ……… ด้วยสายตาที่คล้ายกับวิงวอนให้ได้รับการยอมรับจากเธอโดยเร็ว
เพียงแต่น่าเสียดาย……….
หวาเหวินเองก็เอ๋ยปากพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ ว่า “ฉันไม่มีเพื่อนจริง ๆ คุณชายแซ่อย่าพูดจามั่ว ๆ จะดีที่สุดนะคะ”
“เหวินเหวิน……. ทำไมเธอถึงได้พูดแบบนี้ละ ฉันเสียใจนะ…..” ยังไม่ทันที่แซ่จื๋อจ้วนจะพูดจบ พี่สะใภ้ของแซ่จื๋อจ้วนก็เข้ามาดึงตัวเขามายืนด้านข้างแล้ว
เฝิงหยู่เดินขึ้นหน้า แล้วกล่าวขอโทษเจียงหยู่
“ประธานเจียง ต้องขอโทษด้วยนะคะ น้องชายของดิฉันชอบพูดจาเลอะเลือนแบบนี้ตลอดคะ ถ้าสร้างความลำบากใจให้แก่พวกคุณ ดิฉันต้องขอโทษด้วยจริง ๆ นะคะ”
“ไม่เป็นไรครับ คุณนายแซ่” เจียงหยู่ยิ้มอย่างมีมารยาท
“งั้นเชิญพวกคุณตามสบายเลยนะคะ ไว้เจอกันนะคะ”
หลังจากที่เฝิงหยู่กล่าวทักทายเสร็จ เธอก็ดึงตัวของแซ่จื๋อจ้วนออกไปทันที
ก่อนเดินจากไป เขาได้มองไปทางหวาเหวินด้วยสายตาที่แฝงไปด้วยความหมายอื่น
หวาเหวินเองก็สัมผัสรับรู้ได้อย่างชัดเจน คาดว่าแซ่จื๋อจ้วนเองก็มักจะพูดจาไร้สาระแบบนี้อยู่ในตระกูลแซ่เป็นประจำอย่างแน่นอน
เฝิงหยู่ลากแซ่จื๋อจ้วนเดินไปทางด้านหลัง อย่างจนปัญญา
“จื๋อจ้วน ที่นี่คืองานอะไร? นายห้ามวุ่นวายเด็ดขาด……”
“ผมไม่ได้วุ่นวายนะครับ ผมเพียงแค่เข้าไปกล่าวทักทายเหวินเหวินเท่านั้น …… พี่สะใภ้ พี่เห็นแล้วไหม? ว่าเธอสวยหยดย้อยดั่งเทพธิดาขนาดไหน……. แต่ชุดที่เธอใส่ในวันนี้มันดูแย่มาก ชุดกี่เพ้าที่เธอใส่ก่อนหน้านั้นยังสวยกว่าอีก เหมือนกับหลุดออกมาจากภาพวาดอย่างไรอย่างนั้น”
เฝิงหยู่ยกมือขึ้นมาตีเขา
“ขอร้องละ พ่อทูนหัวของฉัน นายอย่าสร้างความวุ่นวายได้ไหม? ฉันกับพี่ชายนายมาที่นี่เพื่อคุยงานกัน…… ถ้านายรู้สึกเบื่อ กลับไปก่อนก็ได้นะ ถ้าสร้างความเดือดร้อนให้เราละก็ ฉันจะบอกเรื่องนี้กับคุณพ่อ” เฝิงหยู่ใช้อำนาจคุกคาม
“พี่สะใภ้ เดี๋ยวนี้พี่ใช้อำนาจมาคุกคามผมแล้วเหรอครับ?”
“ฉันไม่มีทางเลือก ใครใช้ให้นายไปยุ่งย่ามกับภรรยาของเจียงหยู่ละ?”
“ภรรยาของเจียงหยู่อะไรกันละ? นั้นคือภรรยาของผมต่างหาก เขานั้นแหละที่แย่งไปจากมือของผม”
เมื่อคิดเรื่องนี้ได้ แซ่จื๋อจ้วนก็เจ็บปวดใจขึ้นมาในทันที
“สมน้ำหน้า ใครใช้ให้หนีงานแต่งเองละ”
เฝิงหยู่ก็ไม่ได้แสดงสีหน้าที่ดีให้แกเขาเท่าไหร่นัก แต่หลังจากที่พี่สะใภ้พูดประโยคนี้จบลง แซ่จื๋อจ้วนก็ประพฤติตัวดีขึ้นมาง่าย ๆ ซะอย่างงั้น
เขาทำได้แต่มองหวาเหวินอยู่ไกล ๆ ไม่กล้าที่จะเข้าไปใกล้แต่อย่างใด
เจียงหยู่และหวาเหวินได้พากันเดินออกจากงาน
เมื่อแซ่จื๋อจ้วนเห็นหวาเหวินจากไปแล้ว เขาถึงจะจากไป
วันจันทร์ เมื่อหวาเหวินมาถึงมหาวิทยาลัยในตอนเช้า ก็ค้นพบว่า นักศึกษาเหล่านี้ต่างก็มองมาทางเธอด้วยสายตาแปลก ๆ
แต่เธอก็ไม่ได้เข้าไปถามแต่อย่างใด
เมื่อหมดคาบเรียน เธอก็ได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่องอย่างไม่ค่อยใส่ใจนัก และเธอก็ได้เห็นว่ามีคนเริ่มโพสต์ข่าวเสีย ๆ หาย ๆ ของเธอ
หรือพูดให้ถูกก็คือ น่าจะเป็นการทำลายชื่อเสียงของเธอ
เรื่องนี้คือภาพที่พูดถึงกันในกระทู้วิจารณ์ของมหาวิทยาลัย
ภาพที่ถ่ายออกมานั้นดูเลือนราง เมื่อเห็นก็รู้ในทันทีว่าเป็นการแอบถ่าย
ซึ่งเป็นภาพที่หวาเหวินกำลังเปิดประตูรถอ้าวดี้ A8
ชื่อของโพสนั้นค่อนข้างดูไร้สาระมากทีเดียว ซึ่งเขียนหัวข้อไว้ว่า —— ภาพลักษณ์เทพธิดาได้พังทลายลง สาเหตุเพราะรักเงินยิ่งชีพ
ด้านล่างได้มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าทำไมเธอถึงชอบเงิน ทำไมถึงแสร้งทำตัวเป็นเทพธิดาในมหาวิทยาลัย ก็เพราะรถที่นั่งส่วนตัวนั้นเป็นรถอ้าวดี้ A8 ยังไงละ
และยังมีคนสงสัยว่าเธอต้องมีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน พูดให้ถูกก็คือเธอต้องมีคนรวยเลี้ยงดูอย่างแน่นอน
ถึงอย่างไรก็ตาม คนที่โพส ก็ค่อนข้างใช้ภาษาที่ดูน่ารังเกียจ ใช้คำที่อ่านแล้วไม่น่าฟังมากอยู่แล้ว
ด้านล่างก็ยังมีคนจำนวนไม่น้อยแห่กันเข้ามาคอมเมนต์ไม่ขาดสาย ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วล้วนแต่เป็นผู้หญิงทั้งสิ้น พวกเธอเหล่านั้นต่างพากันอิจฉา และต้องการให้หวาเหวินเสียชื่อเสียง เลยพูดออกไปว่าเธอเป็นเมียน้อยของคนรวย
ระหว่างทางที่เธอไปกินข้าวในช่วงพักกลางวันนั้น เธอก็ได้ยินคนพูดพร้อมกับชี้ไม้ชี้มือมาทางเธอ ว่า ——
“พวกเธอเคยได้ยินกันมาไหมว่าคุณสมบัติของผู้หญิงคนนี้แย่มาก ว่ากันว่ามีคนเลี้ยงดูหล่อน คน ๆ นั้นขับรถอ้าวดี้ A8 มาส่งเธอที่มหาวิทยาลัยทุกวันด้วยนะ เธอกลัวว่าจะมีคนเห็น ก็เลยไม่กล้าเดินเข้ามาทางหน้าประตูใหญ่ เธอเลือกที่จะเดินเข้ามาทางประตูข้างแทน หน้าไม่อายเลยจริง ๆ