ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ - ตอนที่ 125
ตอนที่ 125 แผนการแย่งคน
หวางกางคนนั้นได้อัดเสียงส่งกลับมา
“หึหึ พี่รองแซ่ ผมอยากจะบอกว่าเรื่องนี้คนทั่วไปไม่มีทางรู้อย่างแน่นอน ผมเองก็บังเอิญไปได้ยินมาจากลูกพี่ลูกน้องพูดกับป้าสะใภ้ใหญ่เข้าพอดี ลูกพี่ลูกน้องหวางเซียวอี้พี่รู้จักไหมครับ? เขาเป็นเพื่อนที่สนิทของเจียงหยู่ ข่าวนี้ไม่มีผิดพลาดอย่างแน่นอน”
“อย่ามัวแต่อ้อมค้อมอยู่เลย จะบอกหรือไม่บอก?”
เมื่อเห็นเจ้าเด็กนี่ไม่พูดตรงประเด็นสักที แซ่จื๋อจ้วนก็เกิดรู้สึกเบื่อหน่ายขึ้นมา
“บอกๆครับ เฮ้ อย่าเพิ่งโมโหสิครับ ผมได้ยินมาว่า เมื่อ 5 ปีก่อนเจียงหยู่เคยเกิดอุบัติเหตุมาครั้งหนึ่ง ดูเหมือนว่าจะพลัดตกจากหน้าผาตอนไปเที่ยว จากนั้นก็สลบไสลไปนานกว่า 3 เดือนกว่าจะฟื้นขึ้นมา จนแทบจะกลายเป็นเจ้าชายนิทราไปเลยก็ว่าได้”
“โอ้ย ต้องให้นายบอกด้วยเหรอ? เรื่องนี้รู้กันทั้งโลกแล้ว ตอนนั้นเป็นข่าวดังจะตายไป”
แซ่จื๋อจ้วนร้อนใจ เพราะเดิมทีก็ร้อนใจมากอยู่แล้ว
ข้อสรุปสุดท้ายที่ต่างเฝ้ารอมาก็คืออันนี้ นี่เรียกว่าข่าวฉาวแล้วเหรอ?
“อย่าเพิ่งร้อนใจสิครับ ผมยังพูดไม่จบ หลังจากออกจากโรงพยาบาลไป ว่ากันว่าเขาได้สูญเสียความทรงจำในปีนั้นไปทั้งหมด คุณหมอบอกว่าเพราะสมองของเขาได้รับการกระทบกระเทือนหลังจากที่พลัดตกลงไป ดังนั้นจึงได้สูญเสียความทรงจำเรื่องที่เกิดขึ้นไป แต่ครั้งนั้นผมได้ยินลูกพี่ลูกน้องและป้าสะใภ้ใหญ่พูดกันว่าน่าจะไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ ดูเหมือนว่าตระกูลเจียงต้องการปกปิดอะไรบางอย่าง ตั้งใจใช้เทคโนโลยีลึกลับทำให้ลูกชายลืมความทรงจำทั้งหมดไป ไม่ให้เขานึกขึ้นมาได้”
“นี่……เป็นไปไม่ได้ป่ะ? ใครเขายอมให้ลูกชายตัวเองเสียความทรงจำกัน?” แซ่จื๋อจ้วนตกใจไปในทันที
“รูปธรรมผมเองก็ไม่ชัดเจนเท่าไหร่ แต่ต้องเป็นเรื่องที่ไม่อยากให้ใครรับรู้อย่างแน่นอน เพราะต่อมาอ่า ผมก็ได้ยินมาว่าตระกูลเจียงยอมจ่ายเงินจำนวนมหาศาลเพื่อปิดปากคนที่รู้เรื่องนี้ ไม่ให้ใครพูดเรื่องนี้ขึ้นมาอีก เจียงหยู่เองก็ดูเหมือนจะจำไม่ได้ด้วยว่าเกิดอะไรขึ้น”
“ยังมีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอเนี่ย?” แซ่จื๋อจ้วนหรี่ตาลง แสดงออกถึงความสนใจอย่างมากทีเดียว
“อื้อ ผมเดาได้เลย ว่าการที่ตระกูลเจียงยอมเสียเงินจำนวนมหาศาลไป ต้องเป็นข่าวฉาวอย่างแน่นอน ถ้าเป็นเรื่องดีละก็จะยอมเสียเงินจำนวนมหาศาลทำไม? พี่รองแซ่ก็เป็นคนใหญ่คนโตมีเส้นสายกว้างไกล ถ้าลองไปตรวจสอบดูละก็ อาจจะได้รับรู้อะไรดี ๆ ก็ได้นะครับ” หวางกางคนนั้นยังคงทิ้งท้ายด้วยเสียงหัวเราพอย่างชั่วร้ายไว้
ความจริงแล้วคน ๆนี้ก็ไม่ได้เป็นคนดีเท่าไหร่หรอก แต่แซ่จื๋อจ้วนก็ไม่ได้สนใจอยู่แล้ว เพียงแค่มันเป็นความจริง เขารู้สึกว่ามันมีประโยชน์ต่อตัวเอง
“ได้ ฉันรู้แล้ว ฉันจะลองไปตรวจสอบดู”
“พี่รองแซ่ งั้นบัตรเครดิตของผม………….”
เด็กคนนี้ยังไม่ลืมเรื่องเงินที่ต้องการแต่อย่างใด จะว่าไปแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะแซ่จื๋อจ้วนพูดขึ้นมาในกลุ่มว่ามีค่าตอบแทนละก็ เขาก็ไม่มีทางพูดออกมาเด็ดขาด
ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นการล่วงเกินตระกูลเจียง ต้องไม่เป็นผลดีอย่างแน่นอน
แซ่จื๋อจ้วนโอนเงินหนึ่งแสนสามหมื่นหยวนทางวีแชทให้กับคน ๆนั้นอย่างสบาย ๆ
ซึ่งฝั่งนั้นก็ได้รับเงินในทันที
จากนั้นแซ่จื๋อจ้วนก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออก “ฮัลโหล ช่วยตรวจสอบเรื่องหนึ่งให้ฉันหน่อย อื้อ ตรวจสอบให้ถึงที่สุด ค่อย ๆ ตรวจสอบก็ได้ แต่ต้องได้ข้อมูลที่ชัดเจนนะ”
เมื่อวางสายไป เขาก็แสดงท่าทางลำพองใจออกมาทันใด
ถ้าหาข่าวฉาวของเจียงหยู่เจอจริง ๆ ละก็ หวาเหวิน…….. จะอยู่กับเจียงหยู่ต่อไหม?
อื้อ ทำให้พวกเขาแยกทางกัน เป็นก้าวแรกที่เขาจะต้องทำ
เพียงค่ำให้หวาเหวินแยกทางจากเจียงหยู่ได้ ทุกอย่างก็จะง่ายขึ้น
อาทิตย์ใหม่เวียนวนมาอีกครั้ง
เมื่อหวาเหวินมาถึงมหาวิทยาลัยนั้น เธอก็พบกับอาจารย์สอนที่ถือข้อสอบอยู่ในมือพอดี
“เธอมาก็ดีแล้ว อยากลงสนามสอบด้วยไหม?”
หลังจากที่รู้เบื้องหลังที่ไม่ธรรมดาของหวาเหวินแล้ว อาจารย์คนนั้นก็พูดกับเธอด้วยท่าทางเกรงอกเกรงใจทันที
“ลองดูก็ได้คะ” หวาเหวินพยักหน้า ในเมื่อยังไม่เคยลอง งั้นก็ลองสักหน่อยละกัน
แต่ในตอนนั้นเองก็มีผู้หญิงสองสามคนที่ไม่ค่อยชอบเธอต่างพากันเยาะเย้ยเธอด้วยเสียงเบา ๆ ว่า “เหอะเหอะ นี่ไม่ใช่เรื่องสนุกนะ ไม่ระวังอาจจะตบหน้าตัวเองเอาก็ได้นะ”
หวาเหวินไม่ได้ใส่ใจ เธอเดินไปยังแถวหลังสุดอย่างช้า ๆ ก่อนจะนั่งลงที่ตัวเอง
หลังจากนั้นอาจารย์ก็เริ่มแจกกระดาษข้อสอบ “สิ่งที่จะสอบในวันนี้ก็คือวิชาอังกฤษ ทฤษฎีการเมือง ประวัติศาสตร์ขั้นพื้นฐาน ประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของโลก แล้วก็วิชาประวัติศาสตร์จีนยุคใหม่ห้าวิชา รวมเป็น 60 ข้อ 500 คะแนน ทุกคนจงพยายามเข้านะ ถ้าสอบตกก็ต้องสอบใหม่นะ ”
เมื่อพูดจบ ทั้งห้องก็เริ่มส่งเสียงถอนหายใจออกมา ราวกับนี่เป็นหายนะครั้งใหญ่อย่างไรอย่างนั้น