ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ - ตอนที่ 15
ตอนที่ 15 ราวกับได้ของมีค่า
ไม่ว่าจะยังไงคนตระกูลหวาก็คิดไม่ถึงว่าหวาเหวินที่พวกเขาไม่เคยให้ความสำคัญจะกลายมาเป็นคนสำคัญของเจียงหยู่
สามารถเห็นได้จากคำพูดนี้ เจียงหยู่แต่งหวาเหวิน ไม่เพียงแต่ไม่ยอมรับแต่ยังรักราวกับได้ของมีค่าไป
ตระกูลหวามีลูกสาวห้าคน คนโตหวาซวงและคนรองหวาหรุงล้วนแต่งงานแล้วทั้งสองคน และอายุเองก็เกินสามสิบแล้ว
คนที่สามหวาผิงถึงแม้จะยังไม่แต่งงานแต่อายุก็ ยี่สิบแปดแล้ว แซ่จื๋อจ้วนอายุพึ่งจะยี่สิบหก หวาผิงแก่กว่าเขาสองปี
หากจะพูดอีกคือ นิสัยแบบนั้นของหวาผิง แซ่จื๋อจ้วนไม่ได้อยู่ในสายตาของเธอเลย เพราะเขาเคยคบกับดาราสาวหลายคน
หวาฟ้านเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัย สอนประวัติศาสตร์ ปีนี้อายุยี่สิบหก ถึงแม้จะยังไม่ได้แต่งงาน แต่เธอคบอยู่กับแฟนที่เป็นตำรวจอยู่ ทั้งสองรักกันดี
ตีให้ตายก็ไม่ยอมแต่งงาน พูดอีกคือ ในจำนวนพี่น้องทั้งหมดสเปคของหวาฟ้านนั้นถือว่าเรียบๆที่สุด แต่แซ่จื๋อจ้วนก็ไม่ได้เข้าตาเธอ
ท้ายสุดถึงได้นึกถึงหวาเหวินที่ถูกทอดทิ้งเอาไว้ที่เขาจงชุ่ย
ยังคงเป็นคำนั้น หวาเหวินจะตกลงแต่งงาน ไม่ใช่เรื่องง่าย และก็ไม่ใช่เพราะว่านิสัยอ่อน ที่สำคัญคือเอาตามนายหญิงแก่ตระกูลหวา
ในเรือนหลังนี้ พอนายหญิงแก่ตระกูลหวาเห็นหวาเหวินกลับมาก็ดีใจมาก
คนใช้สองคนพยุ่งนายหญิงแก่ตระกูลหวาลุกขึ้นมา หวาเหวินรีบเดินเข้าไปหา แล้วหยิบหมอนเอาไปหนุนหลังให้คุณย่าของเธอ
“กลับมาแล้วหรือ” นายหญิงแก่ตระกูลหวาจับมือหลานสาวเอาไว้
“ไม่กี่วันมานี้คุณย่าเป็นอย่างไรบ้างคะดีขึ้นไหม”
“อืม ดีขึ้นแล้ว”
“ดีแล้ว ตอนเช้ากินอะไรคะ” หวาเหวินถามด้วยความเป็นห่วง
“กินไปไม่น้อยเลยล่ะ แล้วก็ยังดื่มโจ๊กไปตั้งครึ่งถ้วย” นายหญิงแก่ตระกูลหวายิ้มอย่างใจดี
หวาเหวินพยักหน้า นั่งอยู่บนเก้าอี้ตรงหัวเตียงมองดูคุณย่าของเธอด้วยใจที่เจ็บปวด
“อาเหวิน เรื่องงานแต่งย่าได้ยินหมดแล้วหลานทำถูกแล้ว ถึงบ้านเราจะสู้ตระกูลแซ่ไม่ได้ ก็อย่าให้พวกเขารังแกเราได้”
หวาเหวินฝืนยิ้ม
“แล้วลูกชายตระกูลเจียงนั่นล่ะเป็นคนอย่างไร คนตระกูลเจียงดีกับหลานหรือเปล่า”
หลังจากงานแต่งในวันนั้นหวาเหวินก็กลับไปบ้านตระกูลเจียงกับเจียงหยู่ ยังไม่ได้กลับมาที่นี่เลย
นายหญิงแก่ตระกูลหวาได้ยินแต่คนอื่นพูด แต่เรื่องจริงเป็นยังไงเธอเองก็ไม่รู้ ดังนั้นจึงเป็นห่วง ว่าจะได้รับความไม่เป็นธรรมที่บ้านตระกูลเจียง
“คุณย่าวางใจได้ค่ะ คนตระกูลเจียงดีกับหลานมาก”
หวาเหวินใช้คำว่าดีมากเพื่อให้คุณย่าของเธอสบายใจ
“เด็กคนนี้ ต่อให้ได้รับความเดือดร้อนก็คงไม่กล้าบอกย่าแน่ อาเหวินย่าเลี้ยงหลานมาตั้งแต่เล็ก ย่าบอกจะให้หลานแต่งงานออกเรือนไม่ใช่เพื่อใช้หลานเป็นคนช่วยชีวิตตระกูลเรา ย่าอายุขนาดนี้แล้ว จริงๆแล้วไม่ได้ให้ความสำคัญอะไรกับยศถาเงินทองอะไรแล้ว แต่เป็นห่วงหลาน กลัวว่าหากย่าตายไปแล้วจะไม่มีใครดูแลหลานของย่า”
“คุณย่ายังแข็งแรงอยู่เลยค่ะ ต้องอยู่จนถึงอายุร้อยปีแน่” หวาเหวินรีบพูดขึ้น
นายหญิงแก่ตระกูลหวายิ้มแล้วก็ไอออกมา
หวาเหวินรีบหยิบผ้าแล้วยื่นให้
“ย่าอายุแปดสิบสี่แล้ว คนๆหนึ่งสามารถอยู่มาจนถึงอายุขนาดนี้ก็ถือว่าดีแล้ว ไม่สามารถอยู่กับหลานได้อีกนาน ย่ารู้..ไม่ว่าหลานจะแต่งไปอยู่ที่ไหนย่าหวังว่าแม่สามีจะดีกับหลาน”
ไม่รอให้หวาเหวินพูด นายหญิงแก่ตระกูลหวาก็พูดขึ้นว่า “เจียงหยู่ล่ะมาด้วยกันกับหลานหรือเปล่ามาให้ย่าดูหน่อย”
“คุณย่าคะไม่มีอะไรต้องดูหรอกค่ะ เขาก็เป็น…คนธรรมดา”
หวาเหวินไม่อยากให้คุณย่าเจอกับเจียงหยู่ เพราะเกรงว่าเขาจะพูดอะไรเหลวไหลออกมา และคิดว่าพวกเขาไม่ได้แต่งงานกันจริงๆก็ไม่จำเป็นต้องจริงจังอะไรขนาดนั้น
ไม่แน่ว่าอาจจะหย่ากันวันไหนก็ไม่รู้ บางทีอาจจะไม่ใช่สามปี ลูกคนรวยพวกนี้เปลี่ยนใจง่ายจะตาย
พูดไป ก็ได้ยินเสียงใสๆดังมาจากทางประตู
“เหวินเอ๋อ คุณกำลังนินทาผมอยู่ใช่ไหม”
หวาเหวินสะดุ้ง เหวินเอ๋อหรอ เธอกับเขาไม่ได้สนิทกันขนาดนี้นะ