ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ - ตอนที่ 154
ตอนที่ 154 ตัดสินใจแล้วไม่ยอมปล่อยเด็ดขาด
แซ่เฟยโม่ช่วยน้องชายอธิบายว่า “พ่อ ครั้งนี้พ่ออาจจะพูดผิดก็ได้นะครับ ผมให้คนไปสอบถามมาแล้ว หลายวันมานี้จื๋อจ้วนเอาแต่อยู่ในบริษัทซินเซฺ่งตลอด คาดว่าน่าจะอยากแก้ไขโครงการให้ได้ ถึงอย่างไรมันก็เป็นบริษัทเจ้าปัญหา ปัญหาก็เยอะมากมายราวกับขนวัวอยู่แล้ว ผมว่าถ้าจะให้เสร็จในชั่วพริบตาเดียวคงจะไม่มีทางทำได้”
“เหอะ ก็ดี ให้เขาฝึกฝนต่อไป ดีกว่าให้เขาใช้ชีวิตไปวัน ๆ”
หลายปีมานี้แซ่หยานได้ปล่อยวางลูกชายคนรองของตระกูลคนนี้แล้ว เพราะเขาต่อต้านดื้อรั้นไม่เชื่อฟัง แถมยังเป็นประเด็นร้อนแรงในวงการบันเทิงอยู่บ่อย ๆ
เขามักมีความสัมพันธ์ที่คลุมเครือและอื้อฉาวกับดาราสาวมากหน้าหลายตา ถึงจะไม่ได้มากมายอะไรก็ตาม
แต่แซ่หยานคนนี้เป็นคนที่รักในหน้าตาชื่อเสียงของตัวเองมาก ย่อมทนไม่ได้อยู่แล้ว ดังนั้นความสัมพันธ์ของพ่อลูกจึงไม่ค่อยดีมาโดยตลอด
บรรดาพี่สาวคนโตพี่สะใภ้และคุณนายแซ่ต่างก็ช่วยกันเป็นตัวกลางในการไกล่เกลี่ย จึงยังไม่ถึงขั้นแตกร้าว
อุตสาหกรรมยาบริษัทซินเซฺ่ง
แซ่จื๋อจ้วนมาที่นี่ทุกวันจริง ๆ เพราะมีปัญหาใหญ่ที่เขายังคิดหาทางแก้ไขไม่ได้ในตอนนี้ จึงทำได้เพียงแค่จัดการแก้ไขปัญหาเล็ก ๆ ไปก่อน
เขายุ่งกับงานตลอดช่วงเช้า พอถึงช่วงพักกลางวัน ผู้จัดการหานของบริษัทซินเซฺ่งก็ได้เดินเข้ามา
พร้อมกับยิ้มตาหยี “ประธานเสี่ยวแซ่ ไปกันเถอะครับ ผมเลี้ยงข้าวคุณเอง”
“ไม่มีอารมณ์กินหรอก ดูสิน่ารำคาญจะตาย”
“ฮ่าฮ่า ชายใจเย็น ๆ ก่อนครับ ที่แห่งมันแก้ไขไม่ได้อยู่แล้ว ตอนนี้ทำได้แค่เพียงรอธนาคารประเมินในขั้นตอนสุดท้าย ประกาศล้มละลายเท่านั้น คุณเองก็อย่าไปคิดว่าคุณจะสามารถพลิกผันที่นี่ให้ฟื้นกลับมาได้เลยครับ ผมดู ๆ แล้ว ผู้อำนวยการบริษัทก็ตั้งใจทำให้คุณลำบากอยู่นะครับ พวกคุณทั้งสองอ่า มีอะไรก็ไม่พูดกัน ทำไมจะต้องนั่งใช้อารมณ์กันด้วยละครับ?”
“ช่างเถอะ เรื่องของฉันสองคน ไม่ได้พูดเพียงแค่ประโยคสองประโยคแล้วจะเข้าใจ นายไปเถอะ”
แซ่จื๋อจ้วนขี้เกียจสนใจคนเหล่านี้ แต่ละคนก็ฉลาดกันไม่ใช่น้อย
ต่างก็ตั้งหน้ารอการล้มละลาย เพื่อจะได้เอาเงินชดเชยแล้วสะบัดก้นไปละสิ เขายังไม่รู้ว่าพวกเขานั้นเจ้าเล่ห์ขนาดไหน?
การขาดทุนของอุตสาหกรรมยาบริษัทซินเซฺ่งไม่น่ากลัว หนี้สินกว่า 300 ล้านก็ยังไม่น่ากลัว ธุรกิจไหนบ้างที่ไม่กู้เงินละ?
เรื่องที่น่ากลัวก็คือการไม่มีเงินทุนมาผลิตสินค้า พูดตรง ๆ ก็คือ ไม่มีของที่จะมาสร้างเงินนี้แหละ
มันน่าขำไหมละ?
เครืออุตสาหกรรมที่สง่าผ่าเผย เคยมีหน้ามีตาใหญ่โต แต่วันนี้กลับตกลงมาสู่เส้นทางนี้
หลายวันมานี้ตระกูลแซ่ต่างก็ทุ่มเทแรงกายแรงใจไปกับการทำเครื่องประดับ ถึงอย่างไรมันก็ได้กำไรมหาศาลกว่า พวกเขาไม่มานั่งสนใจกับบริษัทย่อยแห่งนี้หรอก
แซ่จื๋อจ้วนอ่านข้อมูลเล็กน้อย เมื่อก่อนผลิตภัณฑ์ยาที่ขายดีที่สุดก็คือยาลดน้ำมูก ยารักษาโรคกระเพาะและยาลดความดัน ตอนนี้ทั้งหมดนี้ล้วนทำไม่ได้แล้ว
เพราะตอนนี้โรงงานมากมายได้ออกผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ออกมา ราคาต่ำจนพูดไม่ออก ฤทธิ์ยาก็ยังได้ผลดีอีกด้วย ซึ่งดึงดูดผู้ประกอบการค้าขนาดใหญ่หลายแห่งเป็นจำนวนมาก
“ยาอะไรที่ขายดีที่สุดละ?” แซ่จื๋อจ้วนพึมพำกับตัวเอง
จากนั้นเขาก็เลยส่งเสียงหนึ่งเข้าไปในกลุ่มของเหล่าเพื่อน ๆ
“เพื่อน ๆ พวกนายว่า ถ้าจะขายยาในตอนนี้ ยาอะไรที่สามารถทำเงินได้มากที่สุดอ่า และก็ทำให้ทุกคนตามหาอย่างบ้าคลั่งกัน?”
หนึ่งในนั้นตอบกลับมาแทบจะในเวลาเดียวกัน “ไวอะกร้า”
“ไอเฮงซวย” แซ่จื๋อจ้วนหัวเราะพร้อมกับสบถด่าออกไป เจ้าพวกนี้รู้แต่เรื่องไร้สาระทั้งนั้น
อีกคนได้ตอบประโยคหนึ่งกลับมาว่า “ฉันคิดว่ายาลดความอ้วนก็ดีนะ ตอนนี้ผู้หญิงหลายคนต่างก็บอกว่าตัวเองอ้วนโดยที่ไม่สนใจว่าอ้วนจริงหรือไม่จริงทั้งนั้น บอกว่าจะลดความอ้วนทุกวัน ต่างพากันออกไปวิ่ง อดอาหารกัน ฉันรู้สึกว่าถ้าทำยาลดความอ้วนออกมาละก็ ต้องเป็นสินค้าที่สร้างกระแสนิยมในท้องตลาดอย่างแน่นอน”
แซ่จื๋อจ้วนถอนหายใจ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ตอบกลับไป
“ไอหยา น้องชาย นายไม่รู้อะไร ยาลดความอ้วนอ่า ก่อนหน้านั้นฉันเองก็เคยปรึกษากับเภสัชกรมืออาชีพมาก่อนแล้ว ฤทธิ์ยาส่วนใหญ่ล้วนเป็นส่วนประกอบของยาต้องห้าม ประเทศไม่อนุญาตให้วางขาย ถ้าไม่ใส่ส่วนประกอบพวกนี้ มันก็จะเหลือเพียงแค่ไซลิทอลไม่ก็แป้งตะกอนที่ไม่มีฤทธิ์อะไรเท่านั้น เท่ากับเป็นของเล่นที่ใช้หลอกหลวงผู้อื่น อย่ามามองว่าฉันคนนี้เป็นคนไม่จริงจังนะ แต่เงินมืดฉันไม่ทำแน่นอน ถ้าจะขายยา ก็ต้องทำยาที่มีประสิทธิภาพ และดีต่อทุกคน ไม่สามารถต้มตุ๋นหลอกลวงผู้อื่นได้ พ่อของฉันรักษาความบริสุทธิ์มาตลอดชีวิตนี้ของเขา พอมาถึงฉัน ฉันก็ยิ่งไม่สามารถสร้างข่าวเสียให้กับเขา ทำให้เขาตกเป็นขี้ปากของคนอื่นได้หรอก”