ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ - ตอนที่ 158
ตอนที่ 158 กระตุ้นเกินไป
หยวนซ่าวเพิ่งจะเล่นเสร็จไปได้ครึ่งแรก เหงื่อก็ท่วมไปทั้งตัวแล้ว
ลู่เสวี่ยนอี้จึงยืดคอขึ้นด้วยความหยิ่งยโส จากนั้นก็เดินไปยังด้านหน้าของเพื่อนคนอื่น ๆ
ก่อนจะยื่นเครื่องดื่มออกไป “ดื่มน้ำหน่อย”
หยวนซ่าวมองไปทางเธอแวบหนึ่ง ด้วยท่าทางไม่อยากรับ แต่ก็รู้สึกว่าการทำพฤติกรรมแบบนี้ต่อหน้าคนมากมายคงจะไม่ดีเท่าไหร่
เขาจึงรับน้ำมา แล้วขอบคุณสั้น ๆ เท่านั้น
“ฉันอยากให้นายดูอะไรหน่อย” ลู่เสวี่ยนอี้พูดเสียงต่ำ ๆ ด้วยท่าทางลึกลับ
หยวนซ่าวตื่นตกใจขึ้นมาทันใด จากนั้นก็เกิดความลังเลเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ฟังเธอพูด “ฉันคิดว่า นายน่าจะสนใจ มันเกี่ยวกับสาวผู้โด่งดังในสาขาประวัติศาสตร์คนนั้น”
และก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ เมื่อได้ยินว่าเกี่ยวกับหวาเหวิน เขาก็สั่นไหวขึ้นมาในทันที
จากนั้นก็เดินตามลู่เสวี่ยนอี้ไปยังในที่ที่ค่อนข้างเงียบสงบ โดยไม่สนใจสายตาของผู้อื่นแต่อย่างใดทันที
“เธอคิดจะพูดอะไร?” เขามองไปทางลู่เสวี่ยนอี้ ด้วยสายตาที่ไม่ค่อยดีนัก
เดิมทีเขาเองก็ไม่ได้ชอบลู่เสวี่ยนอี้ ผู้หญิงที่ชอบคิดเองเออเองคนนี้เท่าไหร่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่เขาเห็นเธอลงมือเล่นงานเหวินเหวินในงานปฐมนิเทศ เขาก็ยิ่งรู้สึกว่าคุณลักษณะของผู้หญิงคนนี้ไม่ดีเอามาก ๆ
ลู่เสวี่ยนอี้หยิบโทรศัพท์ออกมา จากนั้นก็เปิดภาพหนึ่งให้ดู
“นายดูเองละกัน”
“นี่มัน….?” หยวนซ่าวมองไปทางภาพนั้น
ซึ่งคนถ่ายก็ถ่ายได้อย่างชัดเจนมาก นั้นคือประตูด้านข้างของมหาวิทยาลัย
คนหนึ่งคือเหวินเหวินที่เขาสนใจ และก็กำลังคุยอยู่กับผู้ชายคนหนึ่ง เพียงแต่เห็นแค่ใบหน้าด้านข้างเท่านั้น เลยดูไม่ออกว่าเป็นใคร
เขาไม่รู้ว่าการที่ลู่เสวี่ยนอี้เอาภาพนี้ออกมาให้เขาดูนั้น มีเจตนาอะไรกันแน่?
“ดูไม่ออกเหรอ ? นี้คือแม่สาวผู้โด่งดังคนนั้น กับเสี่ยใหญ่ของเธอ ในที่สุดเสี่ยใหญ่คนนั้นก็ปรากฏตัว ก่อนหน้านั้นก็อยากรู้อยากเห็นกันไม่ใช่เหรอว่าเธอนั่งรถอ้าวดี้ A8 มาได้ยังไง? ตอนนี้ก็รู้แล้วนี่ว่าเพราะผู้ชาย นายดูดี ๆ สิ ผู้ชายคนนี้ คุ้นหน้าคุ้นตาไหม?”
หลังจากที่ลู่เสวี่ยนอี้เตือนขึ้นมา หยวนซ่าวก็มองดูอย่างละเอียดอีกครั้ง
ซึ่งคนในภาพก็ดูคุ้นหน้าคุ้นตาจริง ๆ ……แต่ตอนนี้เขานึกไม่ออกว่าคือใคร?
“หยวนซ่าว ถ้านายนึกไม่ออก งั้นฉันจะเตือนความจำนายให้ คนนี้มีชื่อว่าแซ่จื๋อจ้วน ฉันพูดขนาดนี้แล้ว นายน่าจะรู้แล้วนะ?”
เมื่อได้ยินชื่อแซ่จื๋อจ้วน หยวนซ่าวก็ตกใจขึ้นมาทันใด หลังจากนั้นก็เกิดความรู้สึกเคร่งเครียดในใจ
เขานึกไม่ถึงว่าเทพธิดาน้อยของเขา จะมีความสัมพันธ์กับแซ่จื๋อจ้วน นี่มัน…….น่าผิดหวังมากจริง ๆ
แซ่จื๋อจ้วนเป็นคนยังไง? แทบจะทุกคนในเมืองเจียงที่รู้กิตติมศักดิ์ของเขา
เขาเกิดในตระกูลแซ่ที่มั่งคั่งร่ำรวยเป็นอันดับต้น ๆ และก็เป็นลูกชายคนที่สองของตระกูลแซ่หนึ่งในสี่ตระกูลอีกด้วย ด้วยความที่ตัวเองมีเงิน มีอิทธิพล มีหน้าตาดี จึงเลยมีดาราสาวรายล้อมกันเข้ามาหา
ข่าวซุบซิบแทบจะมีมาไม่ขาดสายแต่อย่างใด ผู้ชายเฮงซวยที่ต่างถูกคนสรรเสริญเยินยอในด้านนี้ ไปรู้จักกับเธอได้อย่างไม่น่าเชื่อ?
หยวนซ่าวไม่พูด แต่ในใจของเขาย่อมไม่ได้สงบแต่อย่างใดแน่นอน
จุดประสงค์ของลู่เสวี่ยนอี้ก็มาถึงจนได้ เธอยิ้มแล้วพูดว่า “นายรู้แล้วใช่ไหม? ข่าวซุบซิบนินทาในมหาวิทยาลัยก่อนหน้านั้นไม่ใช่ข่าวลือแต่อย่างใด แซ่จื๋อจ้วนคือคนในตระกูลร่ำรวย ไม่ใช่คนที่เราสามารถแตะต้องได้ เขาชอบเลี้ยงดูผู้หญิง ดูท่าแล้วผู้หญิงคนนั้นก็เป็นเพียงแค่นกขมิ้นของเขาเท่านั้น สิ่งที่ฉันรังเกียจมากที่สุดก็คือเธอชอบแกล้งทำตัวเป็นหญิงที่ยึดมั่นในคุณธรรมแกล้งทำตัวเป็นนางฟ้าภายในมหาวิทยาลัย แต่เบื้องหลังกลับ……ทำธุรกิจสกปรกแบบนี้ แต่หยวนซ่าว ในฐานะที่เป็นเพื่อนกัน ฉันจะบอกนายให้นะ ในเมื่อเป็นผู้หญิงของแซ่จื๋อจ้วน นายก็ไม่ต้องไปเป็นห่วงเป็นใยเธอหรอก เว้นเสียแต่ว่า …… แซ่จื๋อจ้วนจะเล่นอย่างพอใจแล้ว ไม่อย่างนั้น……….ถ้านายไปเย้าแหย่เขา อิทธิพลที่เขามีก็อาจจะทำให้นายบ้านแตกสาแหรกขาดก็ได้นะ คนในเมืองนี้ไม่มีใครอยากเข้าไปยุ่งหรอก นี่ไม่ได้พูดให้ตกใจแต่อย่างใดหรอกนะ ในใจของนายเองน่าจะชัดเจนอยู่แล้ว ”
คำพูดเหล่านี้ของลู่เสวี่ยนอี้ มันยิ่งกระตุ้นสภาพจิตใจภายในของหยวนซ่าวเป็นอย่างมากทีเดียว
เธอมองออกว่าหยวนซ่าวกำลังครุ่นคิดเรื่องผู้หญิงคนนั้น ดังนั้นจึงพยายามพูดให้ดูต่ำลงอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเน้นคำที่ว่าแซ่จื๋อจ้วนเล่นจนเบื่อแล้ว ถึงจะตกลมาเป็นของนาย
คำพูดเหล่านี้ทำให้หยวนซ่าวผู้มีความหยิ่งยโสในศักดิ์ศรีของตัวเองจะทนได้ยังไง?
เขารู้สึกว่าหัวใจของเขา ค่อย ๆ แตกละเอียดอย่างต่อเนื่อง……
“นายจะไม่ยอมรับฟังฉันก็ได้ แต่ฉันขอบอกนายไว้เลยว่าอย่าไปยุ่งกับผู้หญิงคนนั้นเลยจะดีกว่า ขอให้นายโชคดี”
เมื่อลู่เสวี่ยนอี้พูดจบ ก็เดินออกไปด้วยความภาคภูมิใจ ส่วนหยวนซ่าวก็ไม่มีกระจิตกระใจจะเล่นในครึ่งต่อไปอีกแต่อย่างใด
“หยวนซ่าว มาเร็ว ครึ่งต่อไปจะเริ่มแล้วนะ” มีคนหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลนักตะโกนออกมา แต่หยวนซ่าวไม่ตอบแต่อย่างใด จากนั้นก็สับเท้ายาว ๆ ตรงไปยังทิศทางของสาขาประวัติศาสตร์โดยใบหน้าที่โกรธเคืองจนระงับไว้ไม่อยู่ทันที