ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ - ตอนที่ 163
ตอนที่ 163 กลายเป็นอันธพาลในมหาวิทยาลัย
เดิมทีคนเหล่านี้มาปิดทางออกด้วยเจตนาไม่ดีอยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อเห็นท่าทางเหิมใจของหวาเหวินแบบนี้ก็ยิ่งโกรธมากขึ้นไปอีก
“เสี่ยวยี้ พวกเราอย่าไปมั่วเสวนาอยู่เลย จัดการเธอซะ ฉีกหน้าหมาป่าของเธอ เพื่อแก้แค้นให้กับเทพบุตรของพวกเรา” ผู้หญิงที่อยู่ด้านข้างแทบจะทนไม่ไหวอีกต่อไป ผู้หญิงแบนนี้มีเกลื่อนกลาดภายในมหาวิทยาลัย
เป็นผู้หญิงที่ดูแสนจะธรรมดา จนถึงขั้นแย่กว่าเลยด้วยซ้ำ หน้าตาก็อัปลักษณ์ จิตใจยังจะชอบเพ้อฝันบ้าบออะไรนี้อีก
พร่ำเพ้อคิดว่าผู้ชายที่ตัวเองชอบเป็นสามีของตัวเอง จากนั้นก็ร้อนอกร้อนใจแทนเขาเหมือนกับไอดอลที่ตัวเองหลงใหลอย่างไรอย่างนั้น
และก็ยังสร้างกลุ่มแฟนคลับระดับโลกอะไรนั้นอีก ได้ยินมาว่าการบาดเจ็บในครั้งนี้ของหยวนซ่าว พวกหล่อนต่างพากันไปเยี่ยมอย่างไม่ขาดสายเลยทีเดียว
จึงไม่แปลกที่พวกหล่อนจะมาแก้แค้นหวาเหวิน เรื่องนี้ถึงลู่เสวี่ยนอี้ไม่เสี้ยม ก็ต้องเกิดขึ้นอยู่ดี
“เธอกล้าทำร้ายหยวนซ่าว เธอนี่เก่งมากเลยนะ วันนี้ฉันจะทำให้เธอได้เห็น …… ดูสิว่าถ้าเธอไม่มีร่างกายอันมีเสน่ห์เย้ายวนนี้แล้ว หลังจากนี้จะไปดึงดูดผู้ชายเหล่านั้นได้ยังไง ยังทำตัวโอ้อวดเสน่ห์แพรวพราวเหล่านั้นภายในมหาวิทยาลัยได้อีกไหม?”
เมื่อพูดจบ ผู้หญิงผมสั้นที่เป็นผู้นำคนนั้นก็ยื่นมือออกมาจับใบหน้าของหวาเหวินไว้
หวาเหวินสามารถหลบหลีกได้อย่างรวดเร็ว ต่อจากนั้นก็ดึงกิ๊บที่ติดอยู่บนผมยาวที่สยายนั้นออกมาอย่างชำนาญ
ตัวกิ๊บนั้นมีสีเงิน และฝังสารแร่แมลาไซท์สีเขียวมรกตอยู่ด้านบน
เธอเดินอ้อมไปด้านหลังของผู้หญิงผมสั้นคนนั้น จากนั้นก็ใช้แขนข้างหนึ่งโอบรอบคอเธอไว้
ส่วนอีกมือหนึ่งก็นำกิ๊บมากดลงบนลำคอของเธอ ซึ่งเป็นการกระทำที่เกิดขึ้นในชั่วอึดใจเดียว
ทำให้ผู้หญิงคนอื่น ๆ ยืนมองอย่างงงๆ จนกระทั่งไม่กล้าเชื่อ นึกว่าเป็นความฝันด้วยซ้ำ
“ใครกล้าเข้ามาแม้แต่ก้าวเดียว ฉันแทงคอเธอแน่” เสียงของเธอยังคงราบเรียบ แต่เต็มไปด้วยพลังมหาศาล
“เธอ…..เธออย่าทำอะไรมั่ว ๆ นะ ฉันจะบอกเธอให้ ฆ่าคนถือเป็นความผิดทางกฎหมาย จะต้องถูกยิงประหารชีวิตเลยนะ” ผู้หญิงคนหนึ่งพูดตะกุกตะกักขึ้นมา
หวาเหวินยิ้มอย่างเย็นชา “พวกเธอมาหาเรื่องฉันก่อนนะ ฉันเพียงแค่ป้องกันตัวเท่านั้น ถึงเธอตายไป ทนายความของฉันก็มีหลักฐานมากพอที่จะพิสูจน์ได้ว่าฉันทำไปเพื่อป้องกันตัว พวกเธอรู้ใช่ไหมว่าเบื้องหลังของฉันมีเสี่ยใหญ่อยู่? เสี่ยใหญ่ของฉันสามารถจ่ายเงินเพื่อฉันได้ ฟาดเงินไปร้อยกว่าล้าน พวกเธอคิดว่าฉันต้องรับผิดชอบอะไรอีกไหม? ดังนั้นถ้าเธอตายไปก็เท่ากับตายเปล่า……”
“เธอ…..เธออย่ามาขู่เสียให้ยากเลย…..ฉันไม่กลัวเธอหรอก” ความจริงแล้วผู้หญิงผมสั้นคนนั้นเริ่มกระวนกระวายใจแล้ว แต่ยังคงฝืนคุมเชิงกับหวาเหวินไว้
หวาเหวินขี้เกียจพูดจาไร้สาระกับคนพวกนี้ จึงเพิ่มแรงกดไปบนมือเธอ
ผิวหนังที่แพร่ขยายความเจ็บปวดมาจากปลายแหลมของกิ๊บนั้นทำให้สีหน้าของเธอซีดเผือดลงในทันใด
“อย่า ๆ ขอร้องละฉันยังไม่อยากตาย ฉันไม่อยากตาย” ในที่สุดสติของผู้หญิงคนนั้นก็แตกกระเจิง เธอร้องไห้ไปพลางขอร้องไปพลาง คำพูดของหวาเหวินเมื่อสักครู่ทำให้เธอรู้สึกเย็นวาบไปทั้งใจ นักศึกษาหญิงเหล่านี้เป็นเพียงแค่คนธรรมดา ไม่มีเงินไม่มีผู้หนุนหลัง แต่ทั้งมหาวิทยาลัยต่างก็รู้ว่าเบื้องหลังของผู้หญิงคนนี้มีเสี่ยใหญ่ รถที่มารับเธอก็ล้วนแล้วแต่เป็นรถคันหลายร้อยล้านทั้งนั้น ดังนั้นถึงจะทำอะไรที่มันรุนแรงไปจริง ๆ คาดว่าเธอเองก็คงจะตายเปล่า เจ้าตัวก็แค่ชดเชยเงินให้ แต่เธอต้องชดใช้ด้วยชีวิต คิด ๆ ดูสิ ว่ายังแก้แค้นเรื่องเล็ก ๆ แบบนี้อีกไหม? หยวนซ่าวก็ไม่รู้ว่าเธอคือใครด้วย มันดีไหม?
“เข้าใจไหม?” หวาเหวินคาดเดาเหตุการณ์ที่จะตามมาก่อนแล้ว เธอก็เพียงแค่ขู่เท่านั้น ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ถึงตายแต่อย่างใด
เธอออกแรงเพิ่มขึ้นทีละนิด ๆ แต่ ……. เธอไม่ได้คิดจะฆ่าคน
“ฉันเข้าใจแล้ว เธอปล่อยฉันไปเถอะ พวกเราสัญญาว่าจะไม่มายุ่งวุ่นวายกับเธออีก” ผู้หญิงผมสั้นรีบให้คำสัญญา
“อื้อ อย่าได้มายุ่งกับฉันอีก ถ้าไม่อยากให้ที่บ้านต้องสิ้นเนื้อประดาตัว” เมื่อหวาเหวินทิ้งท้ายด้วยประโยคนี้แล้ว เธอก็ผลักผู้หญิงที่โอบอยู่ด้านหน้า แล้วเดินฝ่าวงล้อมออกจากห้องน้ำไปอย่างสง่าผาเผย
“ผู้หญิงคนนี้น่ากลัวเกินไปแล้ว………” ลับหลังหวาเหวิน ก็มีเสียงทอดถอนใจของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นมา