ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ - ตอนที่ 180
ตอนที่ 180 ด้านมืด
เมื่อได้ยินเสียงของเจียงหยู่ แววตาของเธอก็เกิดความหวั่นไหวขึ้นมา
เธอเงยหน้าขึ้นมองเขา อยากจะพูด แต่ปากกลับพูดไม่ออก
เมื่อเห็นท่าทางเป็นทุกข์นี้ของเธอ เจียงหยู่ก็เข้าไปกอดเธอโดยที่ไม่สนว่าเธอจะเต็มใจหรือไม่
อ้อมกอดที่แน่นที่สุดในอ้อมแขน…….
เจียงหยู่ใส่เสื้อเชิ้ตสีน้ำเงิน ซึ่งยังคงมีน้ำหอมจาง ๆ อยู่บนตัว
มันเป็นกลิ่นน้ำหอมที่ไม่ได้ดูเลินเล่อและเลี่ยนเกินไปเหมือนอย่างที่ผู้ชายคนอื่นตั้งใจพ่น
หวาเหวินเอนกายพิงไหล่ของเขาด้วยความรู้สึกชา จนได้กลิ่นน้ำหอมจาง ๆ เธอค่อย ๆ หลับตาทั้งสองข้างลง
สุดท้ายก็เข้าสู่ห้วงความฝันอีกครั้งราวกับปาฏิหาริย์
เธอไม่ได้ฝันร้ายอีกแล้ว หวาเหวินหลับไหลไปจนถึงเช้า
เวลาประมาณ 05.00 น.
หวาเหวินลืมตาขึ้นมา จากนั้นก็ต้องช็อกไปทั้งตัว
เพราะเธอค้นพบว่าในเวลานี้ กำลังนอนอยู่ในอ้อมแขนของผู้ชายคนหนึ่ง
แต่ผู้ชายคนนี้คือเจียงหยู่
เขาไม่ได้ถอดเสื้อ บนตัวยังคงใส่เสื้อเชิ้ตและกางเกงทำงานเหมือนเดิม และตัวเองก็ไม่ได้ห่มผ้าแต่อย่างใด
กลับนำผ้าห่มมาคลุมตัวของหวาเหวินไว้ กลัวว่าเธอจะหนาว
เดิมทีเธอคิดว่าจะถูกทำมิดีมิร้ายแล้ว แต่เสื้อผ้าของเจ้าตัวก็ไม่ได้ถูกถอดออกแต่อย่างใด พูดได้ว่าที่คิดว่าถูกทำมิดีมิร้ายนั้นเท่ากับว่าเป็นสิ่งที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมเสียงั้น
หวาเหวินพยายามนึกเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเมื่อคืน หลังจากนั้นเธอก็คิดได้ว่า หลังจากที่เธอฝันร้าย เจียงหยู่ก็พุ่งตัวเข้ามาในห้อง
แล้วกอดเธอไว้แน่น ทำให้เธอรู้สึกปลอดภัย
หลังจากนั้น เธอก็รู้สึกได้ถึงความมหัศจรรย์ที่พิเศษมากอยู่ในใจ รูปธรรมเป็นอย่างไร เธอเองก็พูดไม่ออก
เพียงแค่รู้สึกว่า เจียงหยู่คนนี้ ไม่เหมือนกับที่เธอเคยคิดไว้เมื่อก่อนแต่อย่างใด
เธอมองไปทางเขาด้วยระยะที่ใกล้กันมาก ซึ่งเขากำลังหลับอยู่
ลมหายใจเบา ๆ ได้ถูกพ่นออกมาปะทะเข้ากับปลายจมูกของตัวเอง
ขนตาที่ทั้งหนา ผิวหนังที่ไม่ขาวมาก แต่ดูสว่าง
ดวงตาของเจียงหยู่ หลังจากที่หวาเหวินเห็นแล้ว ก็ยิ้มออกมา “เธอตื่นแล้วเหรอ?”
เมื่อเห็นว่าเขาเองก็ตื่นแล้ว หวาเหวินก็รีบพลิกตัวทันที เพื่อสลัดให้หลุดออกจากอ้อมแขนของเขา
จากนั้นก็แสดงท่าทางเขินอาย “นายมานอนบนเตียงของฉันได้ยังไง?”
“เมื่อคืนเธอตกใจกับฝันร้าย ฉันเห็นเธอค่อนข้างกลัวมาก ก็เลยกอดเธอไว้ตลอด”
“ฉันรู้ ฉันหมายถึง หลังจากที่ฉันหลับไปอีกครั้งแล้ว ทำไมนายไม่กลับไปนอนที่ห้องตัวเอง?” หวาเหวินมองไปทางเขา
เจียงหยู่หลับตาลงด้วยความขี้เกียจ หมอนที่นุ่มนำพาความสบายมาให้กับเขา
“เพราะฉันกลัวว่าเธอจะฝันร้ายอีก”
หวาเหวินเงียบ………..
เจียงหยู่พูดก็ถูก ถ้าเขาไป แล้วเธอฝันร้ายต่อละ?
“เหมือนคืนฉัน …… พูดอะไรบ้างไหม?” ความจริงแล้วหวาเหวินจำไม่ค่อยได้ระหว่างที่ตื่นขึ้นมานั้น เธอได้พูดเรื่องความฝันบ้างไหม
เจียงหยู่พยักหน้า
“ฉันพูดว่าอะไร?”
“ดูเหมือนจะบอกว่าฆ่าตัวตาย เพื่อขู่คนอะไรสักอย่างนี่แหละ” เจียงหยู่พยายามนึก
สีหน้าของหวาเหวินไม่สู้ดีนัก
“เธอฝันอะไร? ถึงได้ตกใจขนาดนั้น?” เจียงหยู่กอดหมอนพร้อมกับลุกขึ้นมานั่ง และไม่คิดจะสาน ต่อ
เขากวาดตามองไปทางนาฬิกา ที่ตีบอกเวลา 06.00 น. แล้ว
“ไม่มีอะไร ก็แค่ความฝัน” หวาเหวินไม่อยากบอก ถึงอย่างไรหลายปีมานี้ ความฝันที่เกี่ยวกับการเซ่นไหว้ เธอก็ฝันมาหลายร้อยครั้งแล้ว
เธอไม่คิดว่านี่คือความฝันหรือเรื่องบังเอิญ เธออยากรู้มากโดยตลอด แต่มันก็ไม่มีแม้แต่เบาะแส
แต่เรื่องนี้ล้วนไม่จำเป็นต้องให้เจียงหยู่รู้
เจียงหยู่มองไปทางเธอ แล้วยิ้ม “เอาแบบนี้ไหม ฉันย้ายมานอนกับเธอด้วย แบบนี้เธอเองก็จะได้ไม่ต้องกลัว ได้ยินมาว่าหยินหยางจำเป็นต้องสอดคล้องกันถึงจะดี เธอเองก็ใช้เวลาอยู่แต่ในห้องใหญ่ขนาดนี้อยู่ตลอดเวลา ทำให้หยินและหยางลดลงนะ ฉันเป็นพลังหยางให้เธอ ไม่คิดเงินด้วย เป็นไง?”
“เพ้อเจ้อ” หวาเหวินถลึงตาใส่เขา
แต่ที่เจียงหยู่พูดก็ถูก หวาเหวินรู้สึกว่าช่วงนี้พลังหยินบนร่างกายค่อนข้างหนักหนาเป็นพิเศษ
เจียงหยู่เป็นผู้ชาย ร่างกายมีพลังหยาง ดังนั้นในตอนที่เขากอดเธอ เธอจึงได้สงบลง นี่เป็นความจริงไม่ได้พูดไร้สาระแต่อย่างใด
เจียงหยู่เลยพูดต่อว่า “เหวินเหวิน เมื่อคืนฉันช่วยเธอไว้นะ เธอไม่คิดจะจูบฉันหน่อยเหรอ เพื่อแสดงความซาบซึ้งใจที่เธอมีต่อสามี?”