ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ - ตอนที่ 183
ตอนที่ 183 มองเธอแวบหนึ่ง
การสืบค้นในครั้งนี้ของแซ่จื๋อจ้วนเป็นความลับขั้นสุดยอด ไม่มีใครรู้ทั้งนั้น
ถ้าจะพูดให้เป็นรูปธรรม ก็ไม่มีใครรู้ข้อมูลที่แน่ชัดแต่อย่างใด
รู้แค่เพียงว่าบริษัทลงทุนของแซ่จื๋อจ้วนได้มีการโอนเงินออกไปเป็นจำนวนมากในคืนนี้ คณะวิจัยได้กลับไปเตรียมวัสดุและการวิจัยที่ตะวันตกเฉียงเหนือ
หลังจากนั้นสามวันแซ่จื๋อจ้วนก็ไปเยี่ยมเยียนฝั่งนั้น เพื่อดูแลควบคุมหน้างาน
ครั้งนี้ ประสบความสำเร็จ และประสบความสำเร็จอย่างมากด้วย
หากไม่ประสบความสำเร็จ การล้มเหลวถือว่าเป็นเรื่องใหญ่เลยทีเดียว ไม่เพียงแต่จะช่วยบริษัทเจ้าปัญหาไม่ได้แล้ว อีกทั้งเขายังนำเงินของบริษัทการลงทุนตัวเองโอนให้กับทุกคนเป็นจำนวนมากอีกด้วย
เรื่องนี้ ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่น ก็อาจจะทำไม่ได้ก็ได้
แต่แซ่จื๋อจ้วนเป็นตัวอย่างที่น่ามหัศจรรย์มากทีเดียว พรสวรรค์ของเขาคือการเสี่ยงโชค และชอบการพนันที่มันเร้าใจเป็นที่สุด
แม้กระทั่งหลังจากที่เขามีความคิดที่จะช่วยอุตสาหกรรมยาของบริษัทซินเซฺ่งให้ฟื้นกลับมาโลดแล่นอีกครั้ง พ่อแม่และพี่ชายต่างก็มองตัวเองด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป
หลังจากที่ผ่านไปแล้ว 2 วัน เพราะหวาเหวินต้องการข้อมูลที่จำเป็นบางส่วน ดังนั้นเลยกลับไปเข้าเรียน
หลังจากที่แซ่จื๋อจ้วนตามรอยของเธอไป เขาก็ไปเจอเธออยู่ที่ร้านอาหารที่อยู่ในละแวกมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง
วันนี้หวาเหวินสวมใส่เสื้อกันลมสีกากี ปล่อยผมยาวสลวยมาถึงช่วงกลางเอว
เธอนั่งกินบะหมี่ด้วยท่วงท่าที่สง่างามมาก จากนั้นก็เห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเดินไปหาเธอ
เด็กผู้หญิงคนนั้นมีหน้าตาที่น่ารักมาก อายุประมาณ 5-6 ขวบได้ ความจริงแล้วเธอเคยเจอมาก่อนหน้านั้น
เพียงแต่เพราะเธอไม่สนใจคนที่อยู่ข้างกายของแซ่จื๋อจ้วน ดังนั้นเลยมองข้ามไป
เด็กผู้หญิงคนนี้ก็คือแซ่หนิงนั้นเอง เธอสวมใส่ชุดกระโปรงสีแดง เสื้อคลุมนอกสีขาว ดูเป็นคุณหนูที่มีฐานะร่ำรวยมากทีเดียว
ในมือของเธอถือช่อดอกกุหลาบช่อหนึ่ง
เธอเดินเข้าไปใกล้หวาเหวิน “พี่สาวคนสวย พี่ชื่อหวาเหวินใช่ไหมคะ?”
“ฉันเอง”
หวาเหวินวางตะเกียบลง จากนั้นก็หยิบกระดาษทิชชูขึ้นมาเช็ดมุมปาก ก่อนจะมองไปทางเด็กผู้หญิงคนนี้
“นี่คือดอกไม้ของพี่คะ”
“ของฉัน?” หวาเหวินอึ้งงั้น
“อื้อ หนูเป็นตัวแทนมาส่งให้พี่คะ เขายังให้หนูพูดประโยคหนึ่งกับพี่ด้วย”
หวาเหวินเงยหน้ามองออกไปนอกหน้าต่างด้วยจิตใต้สำนึก
และก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ มีรถเฟอร์รารี่ที่ดูโก้หรูคันหนึ่งจอดอยู่บนทางม้าลายฝั่งตรงข้าม
แซ่จื๋อจ้วนสวมใส่เสื้อเชิ้ตสีน้ำเงิน กำลังยืนพิงรถ พร้อมกับยิ้มบาง ๆ มาให้กับเธอ
“พี่หวาเหวินคะ คุณอาสองของหนูแซ่จื๋อจ้วนบอกว่า พรุ่งนี้เขาจะต้องไปดูงานต่างประเทศแล้ว ไปฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือ อีกสองสามวันกว่าจะกลับมา ตอนเขาไม่อยู่ พี่จะสงบไม่มีใครเข้ามายุ่มย่าม แต่เขาบอกว่าไม่ว่าพี่จะเกลียดหรือไม่เกลียดเขา เขาก็ยังคิดถึงพี่อยู่เสมอคะ”
แซ่หนิงนั้นเก่งมาก สามารถพูดแทนคุณอาสองได้ ไม่มีตกหล่นแม้แต่คำเดียว
แต่ใช้วิธีการให้เด็กมาพูดแบบนี้ คาดว่าก็คงมีแต่แซ่จื๋อจ้วนเท่านั้นที่ทำได้ ช่างอ่อนต่อโลกจริง ๆ
“ขอบคุณนะจ๊ะ เพื่อนตัวน้อย แต่พี่ว่าหนูเอาดอกไม้นี้ไปคืนคุณอาสองของหนูดีกว่า ฉันไม่ต้องการ แล้วก็ฝากหนูบอกเขาด้วยว่า อย่ามารบกวนฉันอีก ฉันเกลียดเขามากจริง ๆ”
แซ่หนิงนั้นฉลาดเป็นกรดจริง ๆ จะยอมเชื่อฟังได้ไง
เธอนำดอกไม้วางไว้บนเก้าอี้ข้างกายของหวาเหวิน
“พี่สาว ความจริงแล้วถึงภายนอกคุณอาสองจะดูแย่มากก็ตาม แต่เขาก็มีส่วนดีอยู่นะคะ พี่ค่อย ๆ สัมผัสใกล้ชิดกับเขาแล้วพี่จะรู้เองคะ เอาละหน้าที่ของหนูจบลงแล้ว บ๊ายบายคะ”
เมื่อพูดจบแซ่หนิงก็หมุนตัวแล้ววิ่งออกไปทันที
ยังไม่ทันที่หวาเหวินจะเอาดอกไม้นั้นคืนแต่อย่างใด
หลังจากนั้นหวาเหวินก็เห็น เด็กผู้หญิงวิ่งเขาไปในอ้อมกอดของแซ่จื๋อจ้วน ก่อนที่จะสองจะขึ้นรถไปด้วยกัน
แซ่จื๋อจ้วนขับรถออกไป แต่ก็ยังไม่วายหันกลับไปมองหวาเหวินแวบหนึ่ง
ก่อนเดินทางไปดูงานต่างประเทศ เขาอยากเจอเธอมาก แต่ก็ไม่รู้ว่าตัวเองต้องทำยังไง?
หวาเหวินจนปัญญา เลยนั่งลงกินบะหมี่ต่อไป ตอนที่จะเดินออกจากร้าน ก็ไม่ได้หยิบดอกไม้นั้นกลับไปด้วยแต่อย่างใด
ต่อให้แซ่จื๋อจ้วนจะยังทำต่อไป เธอก็ไม่สนใจ ถึงอย่างไรเธอก็เชื่อว่าผู้ชายคนนี้คึกคักได้เพียงสองสามวัน ยืนหยัดได้ไม่นานหรอก
เพียงแต่นึกไม่ถึงว่าต่อมา……….
หลังจากที่หวาเหวินทานข้าวเสร็จกำลังจะกลับเข้าไปในมหาวิทยาลัย แต่แล้วก็ได้รับโทรศัพท์จากชุนเถา ว่ามีคนมารอเธออยู่ที่ร้านนานแล้ว เพื่อจะขายของ
ชุนเถาไปที่ร้าน ก็เพื่อทำความสะอาดร้านเท่านั้น แต่นึกไม่ถึงว่าจะพบกับลูกค้า เลยติดต่อหวาเหวินทันที
เมื่อหวาเหวินนั่งรถกลับมาที่ร้าน ก็เห็นกับผู้หญิงที่สวมใส่ชุดบ้าน ๆ เชย ๆ คนหนึ่ง พร้อมกับอุ้มเด็กวัย 7-8 เดือนอยู่ในอ้อมกอด และถือกระเป๋าผ้าใบหนึ่งอยู่ในมือ
เป็นกระเป๋าผ้าสีขาว ที่ไม่มีแม้แต่รอยคราบสกปรก
“คุณต้องการมาขายสินค้าเหรอคะ?” หวาเหวินกวาดตามองไปทางผู้หญิงคนนั้น