ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ - ตอนที่ 200
ตอนที่ 200 ทุกอย่างเตรียมการไว้แล้ว
แซ่เฟยโม่เองก็จนปัญญา ทำได้เพียงแค่พูดความจริง
“พ่อ ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคืออะไร จื๋อจ้วนไม่ได้มายืมเงินกับผม ครั้งนี้เขาไปซื้อบริษัทซินเซฺ่งโดยที่ผมไม่ได้มีส่วนร่วม รู้แค่เพียงว่าเขาได้ผลักดันยาตัวใหม่ออกมาวางขายในท้องตลอด ผมเองก็เพิ่งรู้หลังจากที่เห็นข่าวในทีวีนั้นแหละครับ”
“สร้างแต่เรื่อง แกไปโทรศัพท์ตามเขากลับมาเดี๋ยวนี้”
แซ่หยานยังไม่วางใจ กลัวว่าแซ่จื๋อจ้วนจะเล่นกับไฟแล้วถูกไฟเผาเสียเอง เลยอยากจะถามให้แน่ใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น?
น่าเสียดาย แซ่เฟยโม่โทรศัพท์หาเขาแล้ว แต่กลับไม่รับสาย ยิ่งเห็นว่าพรุ่งนี้มีการถ่ายทอดสดของหนูทดลองทั้ง 10 คนในระหว่างทำการทดสอบอีก เขาก็ยิ่งไม่อยากเข้าไปแทรกแซง และยิ่งไม่อยากให้เป็นดั่งสุภาษิตที่ว่าเรือล่มเมื่อจอดด้วย
ไม่มีใครรู้ว่าความจริงแล้วหนูขาวตัวแรกที่ทำการทดลองยาตัวใหม่นี้ก็คือเจ้าตัวแซ่จื๋อจ้วนนั้นเอง ทำไมจะต้องเอาสัตว์ไปทำการทดลองด้วยละ?
เพราะนี้เป็นยาระงับประสาท เมื่อสัตว์ทดลองใช้ เขากลับมองไม่เห็นถึงปฏิกิริยาในสมองของสัตว์เหล่านี้แต่อย่างใด
เหตุผลหลักก็คือ ส่วนประกอบของยาไม่ได้มียาต้องห้ามแต่อย่างใด ไม่ได้เป็นอันตรายต่อคน ความจริงแล้วเราไม่สามารถผลิตยาตัวใหม่ออกมาในเวลาสั้น ๆ ได้
แต่เรื่องน่าบังเอิญก็คือศาสตราจารย์ฟ้าน คนนั้น เมื่อ 15 ปีก่อนเขาได้เริ่มวิจัยตัวยาชนิดใหม่นี้ แต่หลังจากนั้นโรงงานก็ปิดตัวลง ไม่สามารถทำการวิจัยถึงส่วนประกอบและสภาพแวดล้อมต่อได้ เลยหยุดลงกลางคัน
เมื่อเห็นว่าแซ่จื๋อจ้วนที่กำลังอยากได้ยาตัวใหม่อย่างบ้าคลั่งขนาดนี้ เขาเลยหยิบมันขึ้นมาแล้วทำการทดลองต่อไป จากนั้นก็ทำการสังเคราะห์และนำออกสู่ตลาด
ผลลัพธ์แบบรูปธรรมแบบไหนนั้น? เรื่องนี้ยังคงเป็นความลับ แต่สิ่งที่บอกได้ก็คือ หลังจากที่แซ่จื๋อจ้วนทดลองไป เขาค่อนข้างพอใจกับยาตัวใหม่นี้มาก
เขาได้จ้างศาสตราจารย์ให้มาเป็นศาสตราจารย์ด้านเภสัชกรคนแรกของอุตสาหกรรมยาจื๋อจ้วนด้วยจำนวนเดือน 30 ล้านหยวน คนในคณะก็ตามด้วยส่วนหนึ่ง อีกส่วนยังคงเตรียมวัสดุปกรณ์อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือ
แซ่จื๋อจ้วนเชื่อว่า ถ้ายายับยั้งเส้นประสาทสมองตัวนี้ได้ผลิตออกสู่ท้องตลาด จะต้องมีคนติดตามอย่างแน่นอน
ถึงตอนนั้น ถึงจะทำเงินได้น้อย แต่การที่เขาประสบความสำเร็จนั้นถือว่าเป็นเรื่องใหญ่มากทีเดียว พ่อก็โกรธน้อยลง และสามารถเทียบเคียงกับเจียงหยู่ได้ และทำให้พ่อให้ความสำคัญกับเขามากขึ้น
พูดถึงตรงนี้ เป้าหมายที่เขาทำทุกอย่างนี้ก็เพื่อหวาเหวิน
ดังนั้นเลยพูดได้ว่า สุภาพบุรุษลำบากก็เพื่อสาวสวย นี่เป็นกฎเกณฑ์ตายตัวที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงมาตั้งแต่สมัยโบราณ
เช้าตรู่ในวันที่สอง สื่อมวลที่มีอิทธิพลมากที่สุดได้เริ่มช่วยอุตสาหกรรมยาจื๋อจ้วนถ่ายทอดสดกระบวนการทดลองในครั้งนี้แล้ว
เมื่อเปรียบเทียบกับการแสดงโชว์แล้ว เรตติ้งผู้ชมยังระเบิดดารานักแสดงที่อยู่ในแพลตฟอร์มร่วงหล่นกันเป็นแถบ ๆ อีกทั้งยังดึงดูดความสนใจจากผู้คนทั่วโลกอีกด้วย
เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับระหว่างก่อนและหลังการใช้ยา เขาได้มีการพูดคุย และมีเภสัชกรอธิบายอย่างต่อเนื่อง
สุดท้ายทุกคนก็ค่อยๆเข้าใจ ยายับยั้งเส้นประสาทสมองตัวนี้คืออะไรกันแน่
เมื่อเข้าใจกันแล้ว หลังจากที่คุณกินยาตัวนี้เข้าไปแล้ว สมองของคุณจะได้รับการผ่อนคลายลงในระดับที่ลึกมาก คนที่ใช้ยาจะหลับไปตื่นหนึ่ง
สิ่งที่สำคัญก็คือ มันจะสามารถทำให้คนที่ได้ใช้ยาหลับฝันได้อย่างสบายกายและสบายใจ ส่วนจะฝันอะไรนั้น แต่ละคนล้วนแตกต่างกัน
บางทีอาจจะเป็นเพราะผลลัพธ์ก็ได้ ดังนั้นมันจึงทำให้คุณฝันในสิ่งที่อยากได้มากที่สุด อย่างเช่นคนที่อยากเจอมากที่สุด ของที่คุณอยากได้มากที่สุด
แซ่จื๋อจ้วนจำได้ว่าตอนที่เขาใช้ยาในคืนนั้น ได้ฝันว่าเขาจะได้เข้าพิธีแต่งงานกับหวาเหวิน
ในความฝันเขาสวมชุดเจ้าบ่าววิ่งเข้ามาในงาน หวาเหวินยังรอเขาอยู่ที่เดิม
หลังจากนั้นทั้งสองคนก็เข้าพิธีแต่งงานกันอย่างสมบูรณ์แบบ นี่เป็นสิ่งที่เขาคิดอยู่ในใจมาตลอด
ต่อมาเขายังถามศาสตราจารย์ฟ้านอีกว่า เขาใช้วัสดุอะไรทำไมถึงได้มีฤทธิ์ร้ายแรงขนาดนี้ นำพาตัวเขาไปสู่ความฝันที่สวยงาม
ตอนแรกศาสตราจารย์ฟ้านไม่บอก แต่แล้วต่อมาความลับก็รั่วไหล หนึ่งในวัสดุของตัวยานั้นคือพืชชนิดหนึ่งที่เติบโตอยู่ในภูเขาลึกทางฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือ มีชื่อว่า ——ศาสตราจารย์ฟ้าน
ของสิ่งนี้มีฤทธิ์ทำให้สมองผ่อนคลาย สามารถทำให้ทุกคนรู้สึกผ่อนคลายลง ถ้าสมองคนเราเกิดความผ่อนคลายลงแล้ว ก็ย่อมมีความฝันที่แสนหวาน
แต่ศาสตราจารย์ฟ้านได้นำศาสตราจารย์ฟ้านชนิดนี้มาทำการปรับปรุง ดังนั้นในตอนสุดท้ายยายับยั้งเส้นประสาทสมอง เลยถูกเปลี่ยนไปเป็นของเหลวสีฟ้า ถึงจะมีจำนวนน้อย แต่ผลลัพธ์กลับยิ่งใหญ่มากทีเดียว
หลังจากสิ้นสุดในการทดลองยาเจ็ดวัน อุตสาหกรรมยาจื๋อจ้วนของแซ่จื๋อจ้วน ก็ได้มีหุ้นขยายตัวออกไปอย่างรวดเร็ว ว่ากันว่ายังไม่ทันรอให้ออกสู่ท้องตลาด ก็มีโรงงานยาต่างชาติจำนวนไม่น้อยเขามาจองตัวยากันแล้ว เขาใช้เวลาภายใน 15 วัน ต่อสู้เพื่อชัยชนะ ทำให้ตัวเองจากเด็กคนรวยที่ดื่มกินเที่ยวไปวัน ๆ กลายเป็นผู้ประกอบการด้านเภสัชกร
ในคืนนั้น แซ่จื๋อจ้วนได้ไปสัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ หวาเหวินก็กำลังดูอยู่ในช่วงเวลานี้พอดี