ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ - ตอนที่ 244
ตอนที่ 244 อึดอัดใจ
ฉินชุงเจี้ยนชี้ไปทางเจียงหยู่ “นายเข้าใจเพื่อนอย่างสุดซึ้งจริง ๆ เลยว่ะ”
“แสงจันทร์อยู่ในความถวิลหาในใจของนาย ในความเป็นจริงกุหลาบแดงที่ฉันตามหามันก็น่าสนุกอยู่หรอกหน่า พี่เจี้ยน ฉันจะบอกอะไรพี่ให้นะ ฉันเคยมีแฟนเป็นเพื่อนมาก่อน เธอเป็นพี่น้องฝาแฝดกัน ครอบครัวของเธอยังมีพี่สาวอีกหนึ่งคน หน้าตาดีใช้ได้เลย หน้าอกก็ใหญ่ ที่สำคัญคือหุ่นดีมาก ถูกขนานนามว่าเป็นเทพธิดาของบรรดาผู้ชายเลวทราม นายไม่สนใจหน่อยเหรอ?” กาวหนานพูดล้อเพื่อนของเขา
“ฉันไม่สนใจ นายไปแนะนำให้พี่หวางรู้จักโน้นไป” ฉินชุงเจี้ยนโยนต่อให้กับหวางเซียวอี้
“ฉันก็ไม่เอา ขอบใจ กินไม่ลง” หวางเซียวอี้เองก็ปฏิเสธ
“พวกนายอ่านะ ไม่เข้าใจความสนุกเลยจริง ๆ เกิดในตระกูลร่ำรวยเสียเปล่า ไม่ออกไปสร้างหายนะให้กับสาว ๆ มันโคตรเสียดายหน้าตาและเงินในบัญชีจริง ๆ เลย” กาวหนานพูดแขวะ
เจียงหยู่ถือโอกาสนี้ล้อหวางเซียวอี้ขึ้นมาทันทีว่า “ช่วงนี้อารมณ์นายไม่ค่อยจะดีนะ เป็นอะไร? หึงหวงเหรอ?”
“หึงหวง? มันเกี่ยวอะไรกับฉันละ” หวางเซียวอี้ไม่ยอมรับ
“อย่าปากแข็งหน่อยเลย เป็นเพราะข่าวลือของหวาผิงใช่ไหม …… จิตใจนายถึงไม่อยู่กับเนื้อกับตัวขนาดนี้?” เจียงหยู่ยังคงคิดว่าหวางเซียวอี้นั้นเกลียดหวาผิงอย่างกับอะไรดี ไม่มีทางที่จะให้เธอมาแกล้งเป็นแฟนอย่างแน่นอน อีกทั้งแกล้งเป็นแฟนก็เรื่องหนึ่งแล้ว ตอนนี้ถึงแม้ว่าแผนการแกล้งเป็นแฟนนั้นจบสิ้นลงแล้ว แต่เขาก็ยังพาหวาผิงกลับไปยังบ้านเก่าอยู่ตลอด เห็น ๆ อยู่ว่าต้องมีอะไรบางอย่างอย่างแน่นอน
แน่นอนว่า หวาผิงนั้นไม่รู้ว่าแผนการแกล้งเป็นแฟนนั้นจบลงแล้ว ถ้าเธอรู้ คงไม่มีทางไปเหยียบตระกูลหวางอีกเป็นแน่
“เรื่องของหวาผิง มันเกี่ยวอะไรกับฉัน?” หวางเซียวอี้ก็ยังคงแกล้งนิ่งเฉยต่อไป
“หวาผิงเป็นของแซ่จื๋อจ้วนแล้วไม่ใช่เหรอ?” กาวหนานพูดแทรก ทำให้หวางเซียวอี้เย็นวาบไปทั้งใจ
“พอ ๆ เรามาร้องเพลงหรือมานั่งซุบซิบนินทากันแน่เนี่ย?” หวางเซียวอี้พูดปิดบทสนทนาที่เกี่ยวกับหวาผิงทันที ทั้งสี่คนจึงร้องเพลงกันต่อไป
ไม่นานก็ถึงช่วงสุดสัปดาห์อีกครั้ง
เจียงหยู่ได้เดินทางออกไปดูโครงการของประเทศเพื่อนบ้านกับพ่อ ส่วนหวาเหวินก็พาหยินซิ่งและชุนเถาไปยังร้านค้าของเธอ แล้วก็นั่งจมปลักอยู่อย่างนั้นเป็นชั่วโมง
หลังจากไม่มีใครถามอะไร หวาเหวินก็เลยเสนอว่าจะออกไปเที่ยวเล่นนอกเมือง
ความจริงแล้วเมื่อก่อนเธอลงมาจากบนภูเขาน้อยมาก และจะไปต่างประเทศกับคุณย่าแค่สองสามครั้งเท่านั้น แต่กลับไม่เคยคุ้นชินกับเมืองเจียงเท่าไหร่
เมื่อชุนเถาเห็นคุณหนูดูกระตือรือร้น จึงรีบทำการค้นหาแผนที่ทันที
แล้วก็พบกับสถานที่ที่มีชื่อว่าสวนนิเวศวิทยาอานซิน ที่อยู่ห่างจากชานเมืองด้านตะวันตกไป 30 กิโลเมตร
ซึ่งสวนนิเวศวิทยาแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในช่วงหลายปีมานี้ ไม่ว่าเป็นทั้งสี่ฤดูกาลในหนึ่งปี ต่างก็มีผลไม้จำพวกสตรอเบอร์รี่ องุ่น มะเขือเทศ และลูกพีชออกผลอยู่ในเรือนกระจก
สัตว์ปีกที่เลี้ยงก็แทบจะมีทุกสายพันธุ์ ซึ่งคนในเมืองนั้นชอบมาสถานที่แห่งนี้มาก
หวาเหวินอยากเด็ดสตรอเบอร์รี่อะไรนั้นมาลองกินสักครั้ง ซึ่งการเก็บด้วยตัวเองเป็นอะไรที่น่าสนุกมาก
เพียงแต่นึกไม่ถึงว่า หลังจากที่เธอลงรถมาได้ไม่นาน ก็เห็นป้ายทะเบียนรถที่แสนคุ้นเคย
รถยี่ห้อเบนท์ลีย์สีดำ ป้ายทะเบียนรถ A1199 นี่เป็นรถของคุณย่าในตอนที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ต่อมาหลังจากที่คุณย่าเสียไปก็ยกรถคนนี้ให้กับเธอ และเธอก็ยกมันให้กับพ่อแม่
รถจอดอยู่ที่นี่ แสดงว่า…… พ่อกับแม่ก็ต้องอยู่ที่นี่ด้วย? หวาเหวินขมวดคิ้ว
“ชุนเถา เธอขับรถของเราไปจอดไกล ๆ หน่อย” หวาเหวินออกคำสั่ง
“ได้ค่ะ คุณหนู” ชุนเถาทำตามคำสั่ง สุดท้ายก็ขับรถไปจอดอยู่บริเวณประตูข้างที่ไกลโพ้นอีกแห่งหนึ่งของสวนนิเวศวิทยา
หวาเหวินพาชุนเถาและหยินซิ่งลงจากรถแล้วเดินเข้าไปข้างใน และก็เป็นอย่างที่คาดคิดไว้จริง ๆ ณ ที่ไม่ไกลนัก ร่างเงาที่แสนคุ้นเคยคนหนึ่ง นั้นคือพ่อของเธอ?
หวาเจิ้นเยว่สวมใส่เสื้อคลุมขนสัตว์สีดำตัวยาว มือหนึ่งถือกระเป๋า ส่วนอีกข้างก็โอบผู้หญิงคนหนึ่ง
ซึ่งผู้หญิงคนนั้น กลับไม่ใช่แม่ของหวาเหวิน
ซึ่งเป็นผู้หญิงที่ดูมีอายุประมาณ 30 ปี หน้าตาดี รูปร่างดี
เธอสวมใส่เสื้อขนสัตว์ตัวยาวสีกาแฟ ใส่หมวกใบเล็ก มือข้างหนึ่งถือตะกร้าเก็บสตรอเบอร์รี่ กำลังหัวเราะสนุกสนานอยู่กับหวาเจิ้นเยว่ ไม่รู้ว่าคุยเรื่องอะไรกัน
“แฮ่กแฮ่ก…… คุณหนู นั้นคุณผู้ชายกับชู้ไหมคะนั้น?” หยินซิ่งไอออกมาเล็กน้อย ก่อนจะพูดขึ้นเบา ๆ
ซึ่งก็เป็นความจริง ในเวลานี้ หวาเหวินรู้สึกอึดอัดเป็นอย่างมาก ใครบ้างที่พบว่าพ่อของตัวเองนั้นนัดเดตกับเมียน้อยอย่างอกนอกหน้านอกตาข้างนอกแล้วจะไม่รู้สึกอึดอัดใจ?