ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ - ตอนที่ 254
ตอนที่ 254 พระชายาขององค์ชาย
หลังจากที่พลิกไปพลิกมานอนไม่หลับอยู่นาน ในที่สุดหวาเหวินก็ลุกขึ้นมา และลงมากินของว่างมื้อดึกกับชุนเถา จากนั้นก็ออกไปโรงพยาบาลพร้อมกับเธอ
สถานการณ์ของหวาฟ้านดีขึ้นไม่น้อย การอักเสบของปอดก็ลดลงไปมาก มีแค่อาการไอเป็นบางครั้งบางคราวเท่านั้น
“น้องห้า ตอนออกจากโรงพยาบาลเธอเอาเลขบัญชีธนาคารให้ฉันด้วยนะ ฉันจะโอนเงินเข้าบัญชีของเธอ รวมทั้งค่าของใช้ค่าอาหารที่เธอซื้อมาให้ฉันในช่วงสองสามวันนี้ด้วย ช่วยจดแบบละเอียดถี่ถ้วนให้ฉันด้วย”
หวาฟ้านช่างมีความเป็นอาจารย์อย่างชัดเจนจริง ๆ จัดการเรื่องต่าง ๆ ได้อย่างเป็นขั้นเป็นตอนชัดเจน
“พี่สี่ เราเป็นพี่น้องกันนะ เรื่องเงิน พี่ไม่ต้องมาคืนฉันหรอก” เดิมทีหวาเหวินก็ไม่ได้คิดเรื่องนี้อยู่แล้ว
“ไม่ได้ ถ้าเธอไม่เอา ต่อไปก็ไม่ต้องมาเจอกันอีกนะ”
หวาเหวิน : …….
หวาเหวินจนปัญญา หวาฟ้านเอาแต่ใจสุด ๆ จริง ๆ …… เมื่ออารมณ์ขึ้น ก็ยากที่จะจัดการให้สงบลงมากกว่าหวาผิงเสียอีก
เมื่อสภาพจิตใจของหวาฟ้านค่อย ๆ ดีขึ้นนั้น จึงได้พูดคุยเกี่ยวกับป๋ายห้าว และอาจารย์ฉาย ที่ตามจีบเธอคนนั้นกับหวาเหวิน
เมื่อหวาเหวินผู้ซึ่งไม่เคยมีความรักมาก่อนได้ยินก็รู้สึกงุนงงขึ้นมาทันที ไม่ใช่เพราะคู่กรณี แต่เป็นเพราะเธอไม่สามารถเข้าถึงความเจ็บปวดที่บีบหัวใจได้อย่างลึกซึ้งได้
เมื่อก่อนทุกครั้งที่เธอได้ยินข่าวเกี่ยวกับการฆ่าตัวตายเพราะความรัก ด้วยการกินยาพิษ ผูกคอตาย กระโดดน้ำ ก็ตกใจไม่น้อยนะ
ตอนนั้นหวาเหวินยังคิดอยู่เลยว่าความรักมันคืออะไรกันแน่?
ทำไมถึงได้เหมือนกับยาพิษขนาดนี้ จนทำให้คนยอมที่จะสละชีวิตตัวเองเพื่อมัน?
แต่เมื่อเห็นสภาพของหวาฟ้านในตอนนี้ เธอก็พอจะเข้าใจบางส่วน
ความรัก หากเจอความรักที่มันไม่ดี ถึงแม้ว่าจะไม่ทรมานคุณจนถึงตายก็ตาม แต่ก็ทำให้คุณสูญเสียไปกับมันกว่าครึ่งชีวิต คุณก็เห็นหวาฟ้าน ปล่อยให้ตัวเองไข้สูง 40 องศา รู้ทั้งรู้ว่ามันอันตรายก็ยังไม่ยอมไปโรงพยาบาล ถ้าไม่ใช่เพราะเพื่อนร่วมห้องโทรศัพท์ไปหาหวาเหวินละก็ ผลที่ตามมาไม่ต้องเดาก็พอจะคิดออกว่ามันจะเป็นยังไง
“น้องห้า ฉันว่านิสัยเย็นชาของเธอถือว่าเป็นข้อดีนะ เธอจะได้ไม่หวั่นไหวกับผู้ชายง่าย ๆ ไม่มีความอ่อนแอ เมื่อไม่มีความอ่อนแอ ก็จะไม่เป็นอันตรายจนถึงตาย เธอรู้ไหม? บางครั้งฉันรู้สึกว่าการมีความรัก ถ้าเธอรักใครมาก ๆ ก็เท่ากับเธอกำลังยกปืนกระบอกหนึ่งให้กับเขา เขาสามารถยิงเธอเมื่อไหร่ก็ได้ แต่เธอกลับคิดโง่ ๆ ว่าเขาแค่ไม่ได้ตั้งใจลั่นไก เหอะ”
หวาเหวินจะเข้าใจก็เข้าใจ จะไม่เข้าใจก็ไม่เข้าใจ “บางที เพราะฉันไม่เคยมีประสบการณ์ด้านความรักมาก่อนจึงไม่มีความคิดเห็นมากมายเท่าไหร่นัก ฉันรู้แค่เพียงว่าพ่อแม่เป็นผู้ให้กำเนิดร่างกายนี้มา ฉันจะไม่ทำร้ายตัวเองเพียงเพราะเรื่องของคนอื่นหรอก มันไม่คุ้มเสีย”
“ที่เธอพูดก็ถูก ฉันเข้าใจหลักเหตุผล แค่ฉันควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้” หวาฟ้านยิ้มอย่างลำบากใจ
ณ เวลาสามทุ่มตรง
ณ คลับแสงสีเสียงในยามราตรีของเมืองเจียง
วัยรุ่นกลุ่มหนึ่งกำลังสนุกกับงานปาร์ตี้อย่างบ้าคลั่ง เพราะมีคู่รักของตระกูลรุ่นที่สองสอบเข้าสแตนฟอร์ดได้และได้ไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ต่างประเทศ ดังนั้นจึงเชิญเพื่อนมาปาร์ตี้เฉลิมฉลอง
หยวนซ่าวที่ไม่เจอกันนานก็อยู่ในนั้นด้วย หลังจากที่เกิดเรื่องขึ้นในครั้งนั้น หยวนซ่าวก็ขอลาพักผ่อนอยู่ที่บ้าน ไม่ได้ไปมหาวิทยาลัยอีกพักใหญ่
จะว่าไปแล้วยังไงก็ค่อนข้างอึดอัดไม่น้อย และเรื่องที่บังเอิญก็คือดันกลายมาเป็นลูกพี่ลูกน้องของคุณป้าแซ่จื๋อจ้วน ซ่งอานลู่ก็อยู่ด้วย
หลังจากที่เธอดื่มไปไม่น้อยแล้ว เธอก็เริ่มยักคิ้วหลิ่วตามาทางหยวนซ่าว คิดที่จะเคลิบเคลิ้มในยามราตรีไปด้วยกัน
“เดือนมหาลัย เราสองคนมาเล่นเขย่าลูกเต๋ากันดีกว่า คนแพ้จะต้องจูบอีกฝ่าย” ซ่งอานลู่บ้าไปแล้วจริง ๆ เธอชอบเจียงหยู่ก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่การที่ออกไปเกลือกกลั้วกับชายคนอื่นมันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ไม่ได้สร้างผลกระทบให้ใครแต่อย่างใด ดังนั้นจึงยื่นข้อเสนอเกมส์ที่ตัวเองอยากเล่นด้วยความรู้สึก
หยวนซ่าวตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบทันทีว่า “ไม่เล่น”
“พี่ชาย ยามราตรีในช่วงฤดูใบไม้ผลินั้นสั้นมากนะ….. ไหน ๆ ก็มาแล้ว ยังไงก็ปล่อยไปไม่ได้…… ฉันอ่าเชี่ยวชาญมากเลยนะ อยาก…… จะลองดูหน่อยไหม?” คำพูดนี้ เธอได้ยื่นหน้าเข้าไปกระซิบข้างหูของหยวนซ่าว หยวนซ่าวจึงพูดไปด้วยน้ำเสียงดูถูกว่า “ฉันไม่สนใจรถประจำทางหรอก”
ซ่งอานลู่โกรธจนเปลี่ยนสีหน้าทันควัน จากนั้นก็ด่าออกไปด้วยความโกรธว่า “นายจะมาเสแสร้งทำบ้าอะไร เดือนมหาลัยแล้วไง? มันก็เสียชื่อเสียงได้ไม่ใช่เหรอ? ได้ลิ้มลองรสชาติของการถูกภรรยาของเจียงหยู่ตีหัวแล้วรู้สึกดีใช่ไหม? ทำมาเป็นประสบสอพลอด้วยความกระวนกระวายใจ เจ้าตัวมองนายสักครั้งไหม? นายไม่มีความสามารถ นายกับเจียงอยู่ในระดับเดียวกันรึไง? ภรรยาของเขาจะมาชอบเหรียญกษาปณ์ในกระเป๋านายรึไงเล่า? ”
“ภรรยา……. เจียงหยู่?” หยวนซ่าวมองไปทางซ่งอานลู่ด้วยความตกใจ
“ให้ตายเถอะ นายยังไม่รู้อีกเหรอ? ว่าเทพธิดาที่อยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยของเราคนนั้นอ่า ……. เป็นภรรยาของเจียงหยู่คุณชายของตระกูลเจียงที่มั่งคั่งร่ำรวยเป็นอันดับหนึ่ง! ” ซ่งอานลู่ตั้งใจทำให้เขาอับอาย ดังนั้นจึงได้ตะโกนออกไปเสียงดัง