ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ - ตอนที่ 256
ตอนที่ 256 มีตาหามีแววไม่
วันนี้หวาเหวินแต่งกายด้วยเสื้อผ้าธรรมดา มีแค่เสื้อสเวตเตอร์สีกาแฟยาวปานกลาง ด้านในเป็นเสื้อคอเต่าสีดำ
ปล่อยผมยาวสลวย พร้อมกับสวมทับด้วยหมวกเบเร่ต์สีดำ มันขับให้เธอยิ่งดูน่ารักมากขึ้นไปอีก ให้ความรู้สึกเหมือนดอกไม้ไฟมากกว่าคนอื่น
“หวาเหวิน ขอโทษด้วยนะ ก่อนหน้านั้นที่ฉันตาต่ำ เข้าใจผิดเธอ คิดว่าเธอเป็นนกขมิ้นของแซ่จื๋อจ้วน ….. ตอนนี้ฉันเพิ่งรู้ว่าเธอนั้นเป็น ……?”
หยวนซ่าวไม่ได้ถูกขับไล่ด้วยท่าทางเย็นชาของหวาเหวินแต่อย่างใด ตรงกันข้ามกลับยังคงขอโทษด้วยความจริงใจต่อไป
“พอแล้ว ถ้านายจะมาเปิดเผยสถานะของฉันละก็ ฉันขอให้นายรีบไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้เลย”
“ฉันเปล่านะ พอฉันรู้ความจริงทั้งหมดเมื่อวาน ฉันก็รู้สึกผิดมากทันที ความเสียมารยาทของฉันก่อนหน้านั้น ฉันต้องขอโทษจากใจจริง หลังจากนี้ …… ฉันจะไม่มารบกวนเธออีก ฉันรู้ว่าสถานะของฉันแบบนี้ แม้แต่คุณสมบัติของความเป็นเพื่อนฉันก็ไม่มี ฉันไม่กล้าหวัง ฉันแค่……ชื่นชมในตัวของเธอและสไตล์การใช้ชีวิตที่ไม่หวือหวาของเธอ”
“ไม่ต้องมาชมหรอก”
“ในที่สุด …. ฉันก็คลายปมที่อยู่ในใจของฉันได้แล้ว เผชิญหน้ากับตัวเองได้ และกลับมาเรียนได้อีกครั้ง มันไม่น่าอายเลยที่จะถูกเธอสั่งสอน ฉันอ่านะมีตาหามีแววไม่”
เมื่อพูดจบ หยวนซ่าวก็โค้งไปตรงหน้าของหวาเหวินอีกครั้ง เพื่อแสดงออกว่าตัวเองนั้นต้องการมาขอโทษด้วยใจจริง หลังจากนั้นก็หมุนตัว เดินจากไป ไม่ยืดเยื้ออะไรอีก
นักศึกษาที่อยู่ในห้องสมุดต่างก็ได้แต่ยืนมองอ้าปากค้าง พร้อมกับคิดว่า ว้าว …… หลังจากที่ถูกคนทุบหัว ก็ต้องมาขอโทษเจ้าตัวอีก เป็นการกระทำที่……โคตรน่าเหลือเชื่อเลย
หลังจากที่หยวนซ่าวจากไป อวู๋ผิงก็ถามขึ้นด้วยเสียงเบา ๆ ว่า “เสี่ยวเหวิน เมื่อกี้เธอโคตรเท่อ่า เดือนมหาวิทยาลัยแบบหยวนซ่าว ดันมาถูกเธอโต้กลับแบบไม่พูดไม่จา”
“เขาจะเป็นใคร ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับฉันนี่ ล่วงเกินฉัน ก็ต้องยอมรับผลที่จะตามมา”
“อิจฉาเธอจริง ๆ เลย ฮ่า เธออย่าหัวเราะฉันนะ ฉันเองก็เป็นแฟนคลับโง่ ๆ ของเขาคนหนึ่งเหมือนกัน” เมื่ออวู๋ผิงพูดจบ หน้าก็แดงขึ้นมาทันที
เมื่อหวาเหวินเห็นจิตใจที่แสนบริสุทธิ์อ่อนโยนเช่นนี้ เธอก็อดที่จะส่ายหน้าอย่างจนปัญญาไม่ได้
“จริง ๆ นะ ตอนที่ฉันเพิ่งจะได้เข้ามาเรียนที่นี่อ่ะ ได้ยินมาว่าเขาเป็นเดือนมหาวิทยาลัย ฉันสนใจในชื่อของเขามากเลยละ ต่อมาก็ได้ยินมาว่าเขามีชื่อว่าหยวนซ่าว ไม่ใช่หยวนซ่าวในสามก๊กนั้น เพราะแม่ของเขาแซ่ซ่าว พ่อของเขาแซ่หยวน แต่ชื่อนี้มีพลังอำนาจครอบงำอยู่มากทีเดียวนะ หยวนซ่าวเล่นบาสก็เก่ง เมื่อก่อนฉันชอบแอบไปดูเขาเล่นอยู่บ่อย ๆ เคยฝันว่าตัวเองนั้นยื่นน้ำให้กับเขาด้วยแหละ”
“ชอบก็ไปตามจีบเขาสิ” หวาเหวินพูดขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ
อวู๋ผิงแสดงสีหน้าเหยเก “เธออย่ามาพูดเล่น ๆ สิ ฉันอ่านะ จะไปจีบเขา เหมือนกับคางคกอยากกินเนื้อห่านฟ้าชัด ๆ ฉันหน้าตาน่าเกลียด บ้านก็จน ไม่อยู่ในสายตาของเขาหรอก แต่เมื่อกี้ฉันเห็นเขามองเธออย่างคลั่งไคล้มากเลย ฉันเองก็เพิ่งพบว่า บนโลกใบนี้นั้นมีหลายอย่างที่น่าสนใจ คนอื่นต่างก็ปรารถนาอย่างยิ่งแต่เธอกับหลบหนีเขา ฉันละอยากได้เขาจะตาย สักวันฉันจะต้องไปสารภาพรักกับเขาให้ได้ ไม่สิ ฉันต้องเป็นแบบเธอ หยวนซ่าวจะต้องมาสารภาพรักกับฉัน ฮ่าฮ่า”
อวู๋ผิงได้แต่งตั้งให้หวาเหวินนั้นเป็นเพื่อนที่สนิทรู้ใจกับเธอไปแล้ว เธอรู้สึกว่าเวลาที่หวาเหวินอยู่ด้วย เธอมักจะได้รับความเคารพและเกรงใจมากขึ้น
ดังนั้นเธอจึงได้บอกความรักของตัวเองให้กับเธอฟัง
“เสี่ยวผิง โลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน เป็นไปไม่ได้หรอก ดูลองคิดดูนะ ถ้าเธอตามจีนหยวนซ่าว ฉันอาจจะช่วยเธออีกแรงหนึ่งก็ได้นะ”
หวาเหวินพูดออกมาด้วยสีหน้าจริงจัง แต่อวู๋ผิงกลับหัวเราะเยาะเย้ยตัวเอง “ช่างเถอะ ๆ ฉันก็แค่ฝันกลางวันเท่านั้น เธอคิดเป็นจริงเป็นจังไปได้ ฉันกล้าที่ไหนกันเล่า ถึงแม้ว่าฉันจะหน้าเกลียด แต่ฉันก็รู้ของบกพร่องของตัวเองนะ ฉันไม่อยากทำให้ผู้ชายที่ชอบเห็นผู้หญิงน่ารังเกียจแบบนี้หรอก ฉันได้แต่ยืนมองเขาอยู่ไกล ๆ ดีแล้ว”
หวาเหวินกระตุกยิ้มมุมปาก โดยไม่ได้พูดอะไร
สำหรับหยวนซ่าว เธอไม่ได้มีความคิดเห็นอะไรเพิ่มเติม สำหรับเธอแล้ว ไม่ว่าจะมีความแค้นอะไรต่อกัน ทุกอย่างมันก็ผ่านไปแล้ว
เมื่อถึงเวลาพักกลางวัน หยินซิ่งก็ได้โทรศัพท์มาหาหวาเหวินบอกว่าหวาฟ้านกลับมาไข้สู้อีกครั้ง หวาเหวินจึงรีบไปโรงพยาบาลทันที