ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ - ตอนที่ 257
ตอนที่ 257 ความไม่เที่ยงของชีวิต
ในห้องพักฟื้น สีหน้าของหวาฟ้านนั้นซีดเซียวอย่างเห็นได้ชัด คุณหมอได้ให้ยาฆ่าเชื้อเอาไว้ เจ้าตัวจึงหลับสนิทไป
“พี่สี่เป็นยังไงบ้าง?”
“เธอเพิ่งจะหลับไปค่ะ อาจจะเป็นเพราะไข้กำเริบเมื่อคืน จึงไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่”
“ไหนบอกว่าอาการอักเสบบรรเทาลงแล้วไง ทำไมถึงกลับมาไข้ได้อีกละ?” หวาเหวินสงสัย
“บ่าวก็ไม่แน่ใจค่ะ แต่เมื่อเช้าก็ให้ยาทานไปสองเม็ดแล้วค่ะ คุณหมอบอกว่าถ้าคุณหนูมาก็ไปพบคุณหมอที่ห้องทำงานด้วยค่ะ”
“อื้อ” หวาเหวินพยักหน้า จากนั้นก็วางกระเป๋าไว้ในห้อง แล้วเดินไปยังห้องหัวหน้าแผนกศัลยแพทย์ทันที
โรงพยาบาลที่หวาฟ้านอยู่เป็นโรงพยาบาลอันดับสามของเมือง แต่ก็ไม่ได้เป็นโรงพยาบาลที่ดีที่สุด
ตอนนั้นเป็นเพราะว่าที่นี่ใกล้ที่สุดจึงได้นำตัวหวาฟ้านมาส่งที่นี่ นึกไม่ถึงว่าจะต้องเจอกับเรื่องยุ่งยากแบบนี้
ภายในห้องพักของหัวหน้าแผนก
“คุณคือน้องสาวของคุณหวาฟ้านใช่ไหม?”
“ค่ะ”
“พ่อแม่ของคุณละ?”
“พวกเข้าไปต่างประเทศค่ะ ไม่อยู่บ้าน”
“หมอแนะนำให้คุณรีบติดต่อพวกเขาให้พวกเขารีบมาดีกว่านะคะ หมอมีเรื่องที่จะต้องคุยกับพ่อแม่ของคนไข้ เพราะหมอกลัวว่าคุณจะรับไม่ไหว”
หวาเหวินเงียบไป 3 วินาที “คุณหมอคะ คุณหมอพูดกับดิฉันได้เลยค่ะ พ่อกับแม่อยู่ต่างประเทศ ถึงจะมาก็ต้องใช้เวลา ฉันขอรับฟังก่อน จากนั้นก็จะนำไปบอกพ่อกับแม่อีกทีค่ะ”
เมื่อหัวหน้าแพทย์ได้ยิน ก็พยักหน้า จากนั้นก็นำรูปเอกซเรย์ที่ถ่ายได้เมื่อเช้าออกมา
จากนั้นก็อธิบายให้กับหวาเหวินฟังว่า “คุณดูนี่นะคะ นี่เป็นภาพเอกซเรย์ที่ทำการสแกนร่างกายของพี่สาวคุณเมื่อเช้านี้ คุณดูตรงนี้”
หวาเหวินมองไปยังตำแหน่งที่คุณหมอชี้ ซึ่งมีจุดดำ ๆ เล็ก ๆ อยู่จำนวนมาก แต่ก็ไม่ได้ชัดเจนมาก
“ตอนที่หมอตรวจก่อนหน้านั้นยังไม่มีค่ะ เมื่อคืนเธอเริ่มมีไข้สูง ขนาดให้ยาลดไข้แล้วก็ไม่ลดลงเลย เมื่อเช้าพวกเราจึงทำการเอกซเรย์เธอใหม่อีกครั้ง แล้วก็พบสิ่งเหล่านี้”
“นี่คืออะไรคะ?” หวาเหวินไม่เข้าใจเรื่องที่คุณหมอพูด
“จะพูดยังไงดีละ? หมอเองก็ยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัด นี่อาจจะเป็นการอักเสบ จะต้องมาดูวันนี้อีกทีว่าหลังจากฉีดยาแก้อักเสบแล้วจุดดำ ๆ เหล่านี้จะลดลงหรือไม่ และก็มีโอกาสจะเป็น…….เนื้องอก”
เมื่อได้ยินคำว่าเนื้องอก หวาเหวินก็รู้สึกวิงเวียนขึ้นมาในทันที
“หมอเองก็ยังไม่แน่ใจนะคะ ดังนั้นจึงต้องเฝ้าสังเกตอาการไปก่อน หมอแนะนำให้เธอการเจาะสารน้ำจากช่องท้องค่ะ เพื่อทำการวิเคราะห์สาเหตุของโรคต่อไป ซึ่งอาจจะทำให้ได้รับผลลัพธ์ที่แน่นอนมากขึ้น แต่ในฐานะหมอ หมอมีความจำเป็นที่จะต้องบอกเรื่องที่เลวร้ายที่สุด พี่สาวของคุณอาจจะเป็น มะเร็งปอดค่ะ”
หวาเหวินหายใจติดขัดขึ้นมาทันใด เพราะไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรต่อจากนั้น
“คุณอย่าเพิ่งกังวลไปค่ะ หมอแค่บอกว่าอาจจะ เพราะตอนนี้เรายังหาสาเหตุของจุดดำ ๆ นั้นไม่ได้เลยค่ะ ดังนั้นฉันจึงอยากให้พ่อแม่ของคุณมาด้วย มาปรึกษากัน ว่าจะทำการเจาะสารน้ำจากช่องท้องหรือไม่?”
“เจาะค่ะ ไม่ว่าจะต้องจ่ายเท่าไหร่เราก็ยินดีค่ะ”
“แต่คุณต้องเตรียมใจเอาไว้หน่อยนะคะ การเจาะสารน้ำจากช่องท้องมันค่อนข้างอันตรายมาก หลังจากที่เจาะแล้ว เนื้องอกอาจจะลุกลาม ……แต่ถ้าไม่ทำ เราก็จะไม่รู้ว่าจุดดำนั้นมันหมายถึงอะไร? พวกคุณต้องเลือกด้วยตัวเองค่ะ ผลลัพธ์ทั้งหมด พวกคุณจะต้องเป็นฝ่ายแบกรับทั้งหมดนะคะ”
“หมอจะเริ่มเร็วสุดได้เมื่อไหร่คะ?” หวาเหวินถามหมอ
“อีก 24 ชั่วโมงหลังจากนี้ค่ะ”
“ค่ะ ฉันจะกลับไปคิดก่อน แล้วจะให้คำตอบคุณหมอภายใน 24 ชั่วโมงนี้นะคะ”
หวาเหวินเดินออกจากห้องทำงานของหมอด้วยร่างกายที่แทบจะหมดแรงลง ทุกอย่างเหมือนกับความฝัน
ที่สี่เพิ่งจะอายุ 26 เอง ยังเป็นวัยที่กำลังเบิกบาน ทำไมถึงได้เป็นมะเร็งปอด ? มันกะทันหันเกินไป
ถึงแม้ว่าผลลัพธ์ในตอนนี้จะยังไม่ออกมาก็ตาม แต่เธอก็มีลางสังหรณ์ที่ไม่ค่อยดี ปฏิกิริยาของคุณหมอเมื่อสักครู่นี้ กำลังจะบอกว่าอัตราการเป็นมะเร็งปอดนั้นสูงมาก
ชีวิตคนเราไม่มีอะไรแน่นอน เรื่องราวบนโลกยากคาดเดา วินาทีนี้ หวาเหวินรู้สึกหดหู่ใจมากทีเดียว
เธออยากจะทำนายดวงชะตาให้กับพี่สี่ ดูกราฟชีวิตของเธอว่ากำลังจะสิ้นสุดลงจริง ๆ ไหม?
แต่เธอก็ไม่กล้าที่จะดู กลัวว่าเธอจะเห็นผลลัพธ์ ที่ทำให้เธอน่ารับไม่ได้
ถึงจะไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งขนาดนั้นก็ตาม แต่เธอก็ไม่สามารถทนเห็นพี่น้องของตัวเองตายไปได้ โดยเฉพาะต่อหน้าต่อหน้าเธอ
หวาเหวินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เดิมทีเธอตั้งใจจะโทรหาแม่ แต่กลับไม่รู้ทำถึงได้โทรหาเจียงหยู่
“อาเหวิน” เมื่อได้ยินเสียงอันอ่อนโยนของเจียงหยู่ หวาเหวินก็ตื่นตกใจขึ้นมาทันที และบวกว่าตัวเองโทรผิด
“อาเหวิน พูดสิ เป็นอะไรไป?”