ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ - ตอนที่ 270
ตอนที่ 270 อดเสียใจไม่ได้
ป๋ายห้าวคิดไม่ถึงว่าการมาของเธอในครั้งนี้จะได้รับข่าวแบบนี้ และด้วยเหตุเพราะเขาเข้าเวรบ่อยในช่วงนี้ด้วย ทำให้สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเท่าไหร่นัก
ครั้งที่แล้วที่หวาฟ้านมาหาเขา เห็นได้ชัดว่าเธอตั้งใจจะมาเจรจากับเขา แต่เขาก็ยังพูดด้วยถ้อยคำที่โหดร้ายและทำลายโอกาสสุดท้ายของพวกขาทั้งสองคน
เดิมทีเขาคิดว่าเป็นอาการเจ็บป่วยธรรมดา เดี๋ยวก็หาย ที่ไหนได้ หวาฟ้านกลับเป็น………
“เป็น …… ไปได้ยังไง?” ป๋ายห้าวพูดไม่ออก แม้แต่หายใจก็ยังอ่อนแอลงอย่างเห็นได้
“ไปหาที่คุยกันดีกว่าคะ”
หวาเหวินมองซ้ายมองขวา และคิดว่าไม่ค่อยสะดวกที่จะคุยกันที่นี่ ถึงอย่างไรเรื่องของหวาฟ้านนี้ก็ไม่สามารถพูดรวบรัดตัดตอนให้จบลงโดยเร็วได้
ป๋ายห้าวพยักหน้า แล้วเสนอที่จะเลี้ยงกาแฟหวาเหวินด้วยตัวเอง
ถึงแม้ว่าจะเป็นการดื่มกาแฟก็ตาม แต่ทั้งสองคนก็ยังไม่ได้แตะแม้แต่นิดเดียว ตอนนี้ ใครเล่าจะมีกระจิตกระใจจะไปกินกาแฟได้?
หวาเหวินได้เล่าเรื่องนี้ให้กับป๋ายห้าวฟังคร่าว ๆ ตั้งแต่หวาฟ้านไข้สูงวันนั้นจนถึงตอนนี้
ป๋ายห้าวนับวันตาม ซึ่งก็ตรงกับวันที่เธอมาหาเขาในวันสุดท้ายพอดี เขารู้สึกผิดขึ้นมาทันใด
มือทั้งสองของเขาประสานไว้ด้วยกัน พร้อมกับบีบเอาไว้แน่น ก่อนจะสารภาพผิดออกไปว่า “เรื่องนี้เป็นความผิดของผมเองครับ วันนั้นหล่อนมาหาผม บอกว่ามีคนมาไล่จีบหล่อน ผมเข้าใจความหมายของหล่อนดี หล่อนแค่อยากจะกระตุ้นผม ให้ผมพูด แต่ผมจนปัญญาเอง ความจริงแล้วผม…..ผมคิดมันอยู่นานมาก ผมไม่มีปัญญาไปเป็นลูกเขยของตระกูลที่มั่งคั่งร่ำรวยแบบพวกคุณได้หรอกครับ อีกอย่างพ่อแม่ของคุณก็ดูถูกผมด้วย ไม่ยอมรับเรื่องของผมกับเสี่ยวหลิน ผมคิดมาตลอด ผมขอให้เธอโชคดี แต่นึกไม่ถึง …… ทั้งหมดเป็นความผิดของผม ถ้าไม่ใช่เพราะผมพูดทำร้ายจิตใจเธอในวันนั้น เธอก็คงจะไม่ป่วย และก็คงจะไม่……. “
เดิมทีป๋ายห้าวรู้สึกแน่อยู่ในใจอยู่แล้ว เมื่อได้ยินว่าหวาฟ้านเป็นไข้ไม่สบายหนักเพราะเสียใจเรื่องของเขา สุดท้ายเหตุการณ์ทุกอย่าง ก็ยิ่งทำให้เขาตำหนิตัวเองมากขึ้นไปอีก
เกลียดจนอยากจะเอามีดแทงตัวเอง แก้แค้นให้กับหวาฟ้าน
หวาเหวินทำได้แค่เพียงมองไปทางเขาอย่างเงียบ ๆ
“ถ้าเป็นมะเร็งขึ้นมาจริง ๆ นั้นเป็นเพราะโชคชะตา เราไม่สามารถโทษคุณได้ มะเร็งไม่ได้เกิดขึ้นมาเพียงวันสองวัน มันได้ซ้อนเร้นอยู่ภายในร่างกายอยู่ก่อนแล้ว ช่วงนี้สภาพจิตใจเธอไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก ไม่กินไม่ดื่ม แรงต่อต้านก็ลดลงและก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้อาการมันกำเริบออกมา คุณไม่จำเป็นต้องตำหนิตัวเองหรอกคะ ตำหนิตัวเองไปก็ไม่มีประโยชน์ ที่ฉันมาในวันนี้ก็แค่จะมาบอกคุณเท่านั้น ว่าคืนนี้ 2 ทุ่ม พี่สี่จะเข้ารับการผ่าตัดเจาะช่องท้อง คุณหมอบอกว่า การเจาะช่องท้องนั้นอันตรายมาก ถ้าเป็นมะเร็งจริง เซลล์มะเร็งอาจจะลุกลามไปยังส่วนอื่นของร่างกายอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ครอบครัวของเราปรึกษาหารือกันดีแล้ว ก็ตัดสินใจยอมรับความเสี่ยงในครั้งนี้”
“ฉันขอโทษเสี่ยวหลิน” ป๋ายห้าวกุมมือทั้งสองขึ้นมาตรงหน้า ด้วยความเจ็บปวดอย่างมาก
เมื่อนึกย้อนกลับไปในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ทำด้วยกัน ทั้งสองต่างก็เจ็บปวดแทบขาดใจไม่แพ้กัน
“พี่สี่ปล่อยเรื่องของคุณไม่ได้ ถึงแม้ว่าหล่อนจะไม่พูดมันออกมาก็ตาม แต่ฉันก็เข้าใจดี ที่ฉันมาหาคุณในวันนี้ก็เพื่อบอกความจริงกับคุณ คุณละ? ตัดสินใจเองนะว่าจะไปหาหล่อน หรือว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกันอีกหลังจากที่เลิกกัน ก็แล้วแต่ คุณมีสิทธิ์ที่จะตัดสินใจ รบกวนแล้วละ”
เมื่อพูดจบ หวาเหวินก็ยืนขึ้น
ป๋ายห้าวลืมแม้แต่จะขอบคุณหวาเหวิน ถึงอย่างไรหวาเหวินก็บอกเรื่องนี้กับเขาแล้ว
ถ้าไม่ไปหาเธอ ถ้าหลังจากนี้หวาฟ้านเป็น…….
เขาก็คงกินไม่ได้นอนไม่รับไปตลอดชีวิต
เวลา 6 โมงเย็น
เพราะหวาฟ้านจะต้องเข้ารับการผ่าตัดเจาะช่องท้อง ตระกูลหวาทุกคนจึงมารวมตัวกันที่นี่ แม้แต่หวาหรุงที่มักจะเจอตัวได้ยากก็ยังต้องมา อย่างน้อยถ้าเสแสร้งก็ยังถือว่าเสแสร้งได้ไม่เลวเลยทีเดียว
เจียงหยู่เป็นห่วงสภาพจิตใจของหวาเหวินเป็นอย่างมาก จึงคอยอยู่เป็นเพื่อนตลอด
หวาฟ้านไม่รู้ว่าตัวเองนั้นป่วยเป็นโรคอะไร ดังนั้นคุณหมอจึงพูดได้เพียงแค่ทำการผ่าตัดเปิดบาดแผล เพื่อตรวจสอบระบบภูมิคุ้มกัน ดังนั้นสภาพจิตใจของหวาฟ้านจึงไม่ได้แย่มากนัก
ก่อนเข้ารับการผ่าตัด หมอที่รับการรักษาได้พาพยาบาลสองสามคนเดินนำไปตามระเบียงทางเดิน พร้อมทั้งพูดคุยกับหวาฟ้านแบบนี้ไปตลอดทาง
“เพราะตอนนี้คนไข้มีภูมิคุ้มกันที่ค่อนข้างต่ำมาก ตอนที่เจาะช่องท้องเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงความเสี่ยงอย่างใหญ่หลวงได้ เพื่อจะได้เตรียมการทุกอย่างให้พร้อม เราต้องการเลือดจะของคนที่สนิทกับคนไข้ที่สุด คนไข้มีกรุ๊ปเลือก AB พวกคุณต่างก็เป็นคนใกล้ชิดกับคุณไข้ทั้งสิ้น ดังนั้นลองดูสิว่ามีใครเลือกกรุ๊ป AB บ้าง? และสามารถบริจาคให้เรา 800CC”
800CC อย่างน้อยจะต้องใช้เลือดถึงสองคนเลยทีเดียว เพราะคนเดียวมากสุดก็แค่ 400 cc เท่านั้น
เมื่อคุณหมอพูดประโยคนี้จบ ทุกคนก็เงียบไปพักใหญ่ ตระกูลหวานั้นน่ามหัศจรรย์มาก นอกจากคุณนายหวาที่ไม่เลือดกรุ๊ป AB แล้ว หวาเจิ้นเยว่และลูกสาวอีกทั้ง 5 คน ต่างก็เลือดกรุ๊ป AB ทั้งนั้น ดังนั้นเรื่องนี้จึงไม่ได้ใช่ปัญหาแต่อย่างใด