ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ - ตอนที่ 282
ตอนที่ 282 หัวใจแตกสลาย
ไม่รอให้หวาผิงตอบสนองกลับมา หวางเซียวอี้ก็พูดเบาๆที่ข้างหูของเธอ “เอาของของฉันไปก็ต้องจ่ายค่าตอบแทนนะ ไว้เจอกันครับ ที่รัก”
พูดจบ หวางเซียวอี้ยกมุมปาก พร้อมกับรอยยิ้มที่ไม่อาจสังเกตเห็นได้ง่ายๆ
ถ้าจะพูดถึงเรื่องตีสองหน้าล่ะก็ ไม่ว่าจะเป็นเจียงหยู่ ฉินชุงเจี้ยน หรือแซ่จื๋อจ้วน ต่างก็สู้หวางเซียวอี้ไม่ได้ทั้งนั้น
เขาเป็นคนเก็บตัวที่ชอบแสร้งอ่อนแอเพื่อให้ผู้ล่าตกหลุมพราง มองดูแล้วเซื่องซึมว่านอนสอนง่าย แต่จริงๆในใจกลับมีแผนการอยู่แล้ว
หวาผิงอยากจะรังแกเขา ง่ายไหม?
แน่นอนว่าต้องโดนเขาเก็บดอกเบี้ยคืนมาด้วย จนกระทั่งหวางเซียวอี้เดินออกไปแล้ว หวาผิงถึงมีปฏิกิริยากลับมา เกลียดจริงๆเลย
“อีตาบ้า เอาเปรียบจนติดเป็นนิสัยแล้ว ใช่ไหม?”
“หวาผิง เกิดอะไรขึ้น?” ผู้จัดการพี่หลิวลุกขึ้นอย่างตื่นตระหนกตกใจ อันที่จริงที่นี่มีคนตั้งมากมายล้วนแต่เห็นฉากนี้กันหมด ไม่แน่ว่าอาจจะมีข่าวใหม่ที่เขียนกันตามอำเภอใจอีกแล้ว
หวาผิงค่อนข้างเหนื่อย นั่งพิงลงไปบนโซฟาทันที มือทั้งสองกอดอกเอาไว้
“ฉันก็ไม่รู้ เขาเสียสติแล้วมั้ง”
แค่ได้ยินหวาผิงพูดอย่างนี้ ผู้จัดการก็รีบลุกขึ้น อธิบายกับลูกค้าที่อยู่ในภัตตาคารน้ำชายามบ่าย “ทุกคนคะอย่าเพิ่งแต่งเติมเรื่องราวและถ่ายภาพกันตามอำเภอใจเลยนะคะ หวาผิงของพวกเรากับคุณชายหวางเป็นเพื่อนกัน พวกเขาสองคนกำลังถ่ายวิดีโอสั้นๆเกี่ยวกับคู่รักอยู่ค่ะ เพื่อเป็นการโฆษณาภาพยนตร์เรื่องใหม่ 《In Love with Your Heart》ของหวาผิงเดือนหน้าถึงตอนนั้นยังต้องขอความกรุณาจากทุกคนไปสนับสนุนภาพยนตร์กันเยอะๆนะคะ”
เพียงทุกคนได้ยินอย่างนี้ ก็เข้าใจกันหมด ไม่ตื่นตระหนกตกใจกันอีกแล้ว ความสามารถในการประชาสัมพันธ์ของพี่หลิวไม่ต้องพูดถึง ตั้งแต่หวาผิงเข้าวงการก็มีเธออยู่ด้วยกันมาโดยตลอด
หลายปีมานี้ ทั้งสองคนก็เหมือนกับเป็นพี่เป็นน้องกัน มิตรภาพลึกซึ้ง ไม่มีความลับซึ่งกันและกัน
“หวาผิง พูดมาเถอะ”
“พูดอะไร?” หวาผิงเงยหน้ามองผู้จัดการ
“เธอกับคุณชายหวาง”
“ไม่มีอะไรนะ ก็เหมือนกับแซ่จื๋อจ้วนนั่นแหละ” หวาผิงตอบแบบขายผ้าเอาหน้ารอด
“เธอกับฉันอยู่ด้วยกันตั้งกี่ปีแล้ว หลอกฉันได้ด้วยหรือ? เมื่อครู่เขาอยู่ฝั่งนั้น เธอก็มองไปฝั่งนั้นอยู่ตลอด สนใจมาก……นี่ไม่เหมือนท่าทางตอนที่อยู่กับแซ่จื๋อจ้วนเลยนะ เธอคงไม่ได้คบกับคุณชายหวางแล้วใช่ไหม?”
หวาผิงรีบส่ายหัว “ไม่มี ไม่มีจริงๆ ฉันสาบาน แม้ว่าผู้ชายทั้งโลกจะเหลือแค่เขากับหมูหนึ่งตัว ฉันก็ไม่เลือกเขาหรอก ยอมแต่งงานกับหมูดีกว่า”
เห็นหวาผิงตอบสนองรุนแรงขนาดนี้ พี่หลิวก็ยิ้มแล้ว “บางคำอย่าพูดเร็วจนเกินไป จะได้ไม่เจ็บตอนตบหน้า”
“เป็นไปไม่ได้หรอก อย่างไรก็ตามคุณอย่าคิดสะเปะสะปะ มันไม่มีอะไรจริงๆ หวางเซียวอี้ก็เป็นแค่ตัวอ่อน ที่ไม่เคยเจอผู้หญิงมาก่อน เจอใครก็เลยไม่ยอมวางมือ ดังนั้นคุณไม่ต้องใส่ใจจริงๆ”
“ไม่ถูกนะ ด้วยนิสัยของเธอ ถ้ามีคนมาล่วงเกินเธอต้องระเบิดอารมณ์ออกมาในที่ตรงนั้นแล้ว เมื่อครู่ฉันเห็นเขาจูบเธอนี่นา……ไม่นึกว่าเธอจะอนุญาตเสียแล้ว?”
หวาผิงตกตะลึง……
“ฉัน……นั่นฉันไม่ได้ตอบสนองไม่ใช่หรือ? คอยดูเถอะ เจอเขาครั้งหน้า ฉันจะต้องเตะน้องชายของเขาแน่ๆ”
พี่หลิวยิ้มแต่ไม่พูดอะไร เห็นหวาผิงไม่พูด ก็ไม่ถามมากมาย แต่เรื่องนี้ถือว่าน่าสนใจทีเดียว
ณ โรงพยาบาล นอกห้องคนไข้วีไอพี
หวาเหวินถือรูปภาพผลการวินิจฉัยที่เจียงหยู่ส่งมา ให้ป๋ายห้าวดู
ป๋ายห้าวดูแล้วก็กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ ไม่พูดอะไรสักคำ นั่งลงบนเก้าอี้ยาว สองมือปิดหน้า ความรู้สึกพังทลาย หัวใจแตกสลาย
แม้ว่าจะคาดการณ์ผลเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้ว แต่เมื่อถึงตอนที่ต้องเผชิญหน้าจริงๆ ยังคงรู้สึกว่าหมดหนทางจะยอมรับได้
ในใจหวาเหวินก็เสียใจ แต่เธอรู้สึกว่า ป๋ายห้าวคงจะเสียใจกว่าเธอมาก อย่างไรก็เป็นคนที่อยู่ในใจเขา
“คุณมีแผนอะไรไหม?” หวาเหวินถามเขาเบาๆ
“แต่งงานกับเธอ”
“คุณคิดดีจริงๆแล้วใช่ไหม?” ตอนนี้หวาเหวิน กลับมองป๋ายห้าวด้วยความชื่นชม ในเวลานี้ยังยืนหยัดที่จะแต่งงานกับหวาฟ้าน ไม่ง่ายเลยจริงๆ
สุดท้ายแล้วชีวิตจริงไม่ใช่นิยายหรือละครน้ำเน่าอย่างนั้น เมื่อตนเองเลือกแล้วก็ต้องรับผิดชอบให้ได้
“อืม คิดดีแล้ว ไม่เสียใจภายหลัง” ป๋ายห้าวพูดด้วยเสียงแหบพร่าเสร็จ ก็เช็ดๆน้ำตา
“ต้องบอกผลพี่ตอนนี้เลยไหม?” หวาเหวินก็ไม่มีความเห็น ตอนที่ดูผลที่เขียนอยู่ด้านบน——มะเร็งปอดต่อม ทำได้เพียงถอนหายใจกับโชคชะตาที่ทำต่อชีวิตมนุษย์