ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ - ตอนที่ 284
อนที่ 284 ความสามารถสูง
“อื้ม ฉันยังอยู่”
“อย่างนั้นรอฉันสักครู่ ฉันจะไปรับคุณ”
พูดจบ ไม่ได้รอให้หวาเหวินตอบกลับ ฝั่งนั้นก็วางสายแล้ว หลังจากนั้น20นาที เจียงหยู่ก็มาถึง พาหวาเหวินไปกินหม้อไฟที่ร้านเล็กๆร้านหนึ่ง
เพราะหวาเหวินไม่กินเนื้อสัตว์ ดังนั้นจึงกินแค่ผักกับเส้นหมี่ และยังมีลูกชิ้นผัก กับเค้กข้าวเหนียวน้ำตาลทรายแดงอีกนิดหน่อย
แต่จนถึงที่สุดเธอก็ไม่เจริญอาหาร ไม่มีความสนใจเลย
“ใครๆล้วนแต่พูดว่าในโลกนี้เพียงแค่มีอาหารอร่อยๆกับสาวสวยก็ไม่ทำให้ผิดหวังแล้ว นายมีทั้งสองอย่างเลย โชคดีจริงๆ” เจียงหยู่จงใจแกล้งเธอ
หวาเหวินยิ้มเล็กน้อย อย่างขอไปที
เจียงหยู่รู้ว่าเธอยังคงกังวลกับอาการป่วยของหวาฟ้าน จริงๆวันนั้นศาสตราจารย์ของวิทยาลัยแพทย์ทุนก็บอกกับเจียงหยู่แล้ว ถึงไม่ต้องทำการทดสอบ แต่จากข้อมูลเบื้องต้นก็สามารถยืนยันได้เลยว่าเป็นมะเร็ง
เพราะไม่มีอาการอักเสบกำจัดออกไม่ได้ จุดดำๆชัดเจนขนาดนั้น ทั้งยังมีปฏิกิริยาต่อต้านอย่างนั้น แน่นอนว่าเป็นเนื้องอกอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
เพียงแค่เจียงหยู่ไม่ได้พูดเรื่องนี้ หวาเหวินก็ไม่พูด ในตอนนี้ทั้งสองคนต่างฝ่ายต่างรู้กันอยู่แล้ว
“ใช่สิ เมื่อเช้าคุณออกไปเช้าขนาดนั้น บริษัทมีปัญหาอะไรใช่ไหม?”
เห็นหวาเหวินเป็นฝ่ายถามขึ้นมาเอง เจียงหยู่ก็ตื่นเต้นเล็กน้อย อันที่จริง นี่เป็นครั้งแรกที่หวาเหวินเป็นฝ่ายเริ่มใส่ใจในเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับเธอ เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยจะได้เกิดขึ้นนัก
“อืม มีเรื่องนิดหน่อย แต่ไม่ใช่ปัญหาใหญ่หรอก”
“คุณหลอกฉันไม่ได้หรอกนะ ถ้าไม่ใช่ปัญหาใหญ่คงไม่เรียกคุณออกไปเช้าขนาดนั้น คุณออกไปตอนเช้ามืดตีห้ากว่าๆ นั่นเป็นยามเหม่า รวมไปถึงวันนี้เป็นวันไม่ดี ศัตรูปีศาจร้ายออกอาละวาด เทพแห่งความสุขโดนบดบังเทพแห่งโชคอ่อนแอ ทุกอย่างไม่เหมาะไม่ควร พอดีกับวันอย่างนี้ที่คุณไปจัดการปัญหา ฉันกล้ามั่นใจเลยว่าเป็นเรื่องใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตคน และแก้ได้ยากมาก”
เจียงหยู่กำลังมองหวาเหวินอย่างตกตะลึง “เหวินเหวิน คุณยังทำการแสดงมายากลอีกหรือ? เก่งไปแล้วคุณนายเจียง”
หวาเหวินไม่เคยแสดงความสามารถในด้านการทำนายดวงชะตาอย่างนี้ต่อหน้าของเจียงหยู่มาก่อนเลย ดังนั้นเขาจึงตกตะลึงมาก ราวกับว่านี่เป็นครั้งแรกที่ได้รู้จักเธออย่างนั้น นี่ยังมีความสามารถที่เหมือนเทพเจ้าอีกเท่าไหร่กันแน่
“เป็นแค่งานอดิเรก ฉันชอบศึกษาปฏิทินหมื่นปีกับอี้จิงอยู่บ้างก็เท่านั้น แต่คุณยังไม่ได้ตอบฉันเลย ฉันพูดถูกไหม?” หวาเหวินกำลังมองเขาอย่างวางเฉย เต็มไปด้วยความมั่นใจ
เจียงหยู่พยักหน้า “พูดถูกต้องแม่นยำเลย ก่อนหน้ามีลูกค้ารายใหญ่คนหนึ่งกู้เงินจากพวกฉัน1พัน9ร้อยล้าน ใช้บริษัทของเขาและอสังหาริมทรัพย์เป็นหลักค้ำประกัน ตอนนี้ใกล้ถึงวันที่จะต้องคืนเงิน ลูกค้าคนนั้นตายอยู่ที่ประเทศไทยอย่างกะทันหัน ยังไม่รู้สาเหตุการตายอย่างแน่ชัด ผู้จัดการที่ดูแลลูกค้ารายใหญ่เนื่องจากกดดันมากจนเกินไป ทั้งตำหนิตนเองทั้งกลัว เมื่อวานตอนกลางคืนจึงกินยาฆ่าตัวตาย ตอนเช้าภรรยาของเขาพบเข้าจึงแจ้งตำรวจแล้ว ฉันไปสถานีตำรวจเพื่อบันทึกคำให้การ แล้วต้องปลอบขวัญครอบครัว ให้ค่าใช้จ่ายงานศพไปเล็กน้อย และยังต้องจัดการเรื่องจุกจิกที่ตามมาอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ทั้งวุ่นวายทั้งปวดหัวมาก”
หวาเหวินก็ไม่แปลกใจ ทั้งหมดล้วนแต่อยู่ในสิ่งที่คาดการณ์เอาไว้แล้ว แม้จะบอกว่าไม่ชอบดู ดวงชะตาให้คนข้างกาย แต่ก็อดไม่ไหวที่จะปลอบใจเจียงหยู่ “ไม่เป็นไร แค่เพราะวันนี้ไม่เป็นมงคล และดวงชะตาของคุณช่วงนี้ก็ค่อนข้างไม่ดี เรื่องนี้จะสามารถแก้ไขได้ คุณสบายใจได้เลย”
“อืม คงต้องสบายใจ เรื่องราวที่บริษัทมากมาย หากว่าฉันแบกรับความกดดันในจุดนี้เอาไว้ไม่ไหว หัวใจคงจะวายไปตั้งนานแล้ว” เจียงหยู่หัวเราะ
“คำพูดอย่างนี้อย่าพูดเรื่อยเปื่อย ไม่เป็นมงคลเลย” หวาเหวินเตือนอย่างจริงจัง
“อืม ต่อไปจะไม่พูดแล้ว เชื่อคุณ”
ทุกครั้งที่เจียงหยู่จ้องมองหวาเหวินด้วยความอ่อนโยนอย่างนี้ เธอก็ต้องก้มหน้าด้วยความเขินอายตลอด ไม่กล้าสบตากับสายตาที่ร้อนแรงอย่างนั้นของเขา
เจียงหยู่กลัวว่าหวาเหวินจะอารมณ์ไม่ดี ก็เลยทิ้งงานมากมายไว้ที่บริษัท แล้วยังหาเวลาพาเธอมากินข้าว
ตอนบ่ายหลังจากที่เขาส่งหวาเหวินกลับไปที่โรงพยาบาลแล้ว ก็รีบกลับไปทำงานต่อทันที
และช่วงบ่ายตอนที่ชุนเถานำซุปปลาช่อนมาส่งให้หวาฟ้าน ยังถือโอกาสบอกเรื่องหนึ่งกับหวาเหวินอีกด้วย เรื่องนี้ถึงกับทำให้หวาเหวินอดไม่ได้ที่จะเดือดเป็นฟืนเป็นไฟ
ชุนเถาพูดเบาๆที่ข้างหูของหวาเหวิน “คุณผู้หญิงคะ ตอนที่ฉันไปซื้อปลาช่อน เห็นนายท่านกับกิ๊กนั่นแล้ว ทั้งสองคนก็ไปซื้ออาหารที่ตลาดของทะเล ฉันตกใจจนต้องรีบหลบเลยค่ะ ผู้หญิงคนนั้นคล้องแขนนายท่านอยู่ตลอด สนิทแนบแน่นมากค่ะ”
ในทันทีสีหน้าของหวาเหวินก็แสดงความโมโหออกมาอย่างชัดเจน……ในเวลานี้อย่างนั้นหรือ?ไม่นึกว่าพ่อจะยังมีกะจิตกะใจไปอยู่กับกิ๊ก