ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ - ตอนที่ 300
ตอนที่ 300 การรุกของเธอ
เจียงหยู่ดึงมือของหวาเหวินขึ้นมาอย่างนุ่มนวล พูดกับหวาฟ้าน “ได้พบกับเหวินเหวินฉันก็ใช้โชคดีของชีวิตนี้ไปแล้ว จะทำให้ผิดหวังได้อย่างไร หากว่าขาดเธอไป ฉันกลัวว่าต่อไปอีกกี่สิบปีก็คงจะโชคร้ายแล้ว”
“อย่าพูดเหลวไหล” เนื่องจากหวาเหวินทำนายดวงชะตาได้ ดังนั้นจึงไม่ค่อยอยากฟังคำสาปแช่งตนเองที่ไม่เป็นมงคลอย่างนี้
สำหรับนักธุรกิจคนหนึ่ง โชคร้ายกี่สิบปีเป็นคำปฏิญาณที่รุนแรงจริงๆ เจียงหยู่พูดอย่างนี้ แน่นอนว่าไม่จริงจัง
หวาฟ้านพอใจมาก ในดวงตาเปล่งประกายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
หวาผิงมองอยู่ข้างๆก็รู้สึกคันๆที่หัวใจยากที่จะรับไหว เห็นน้องสี่น้องห้าล้วนแต่มีความสุขของตนเอง เธอก็คิดถึงหวางเซียวอี้อีกแล้ว
แล้วยังมีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญเมื่อคืนนั่นอีก……
ระหว่างทางที่กลับจากโรงพยาบาล หวาเหวินค่อนข้างอ่อนเพลีย พิงอยู่บนเบาะที่นั่งข้างคนขับ หรี่ตาลงครู่หนึ่ง
เจียงหยู่เปิดเพลงที่ต่อบลูทูธในรถอย่างเหมาะสม ภายในจึงมีเพลงเก่าเพลงหนึ่งลอยออกมา—–
โลกมนุษย์มาก็มาไปก็ไป ล้วนแต่เป็นความฝัน โลกมนุษย์มาสิมาไปก็ไปแล้วก็ว่างเปล่า ดวงอาทิตย์ตกทางทิศตะวันตกดวงจันทร์ขึ้นทางทิศตะวันออก ความจริงยากที่จะถมให้เต็มรูที่ไร้ความรู้สึก โลกมนุษย์มาสิมาไปสิไปแล้วก็ว่างเปล่า
หวาเหวินฟังเพลงนี้ครั้งแรก แต่รู้สึกสะเทือนใจอย่างลึกซึ้ง
เธอค่อยๆลืมตา……
พูดอย่างกะทันหัน “สำหรับพี่สี่แล้ว เป็นคนป่วยคือความเลวร้าย แต่กลับทำให้เธอได้ความรักที่หายไปคืนมา คุณว่า นี่เป็นเรื่องดีหรือเรื่องไม่ดี?”
เจียงหยู่ฟังแล้ว ก็เงียบไปไม่กี่วินาที “ฉันกลับรู้สึกว่าพระเจ้ายุติธรรมมาตั้งนานแล้ว เขาเป็นหนี้คุณส่วนหนึ่ง ก็มักจะใช้อีกวิธีหนึ่งมาชดเชย สำหรับหวาฟ้านแล้ว บางทีระหว่างสุขภาพที่แข็งแรงกับความรักที่ลึกซึ้ง เธอให้ความสำคัญกับอย่างหลังมากกว่า ดังนั้นนี่ก็ถือเป็นการชดเชยตามที่ปรารถนา”
หวาเหวินเห็นด้วยอย่างมาก จึงพยักหน้า
“ไม่ผิดเลย พี่สี่คนนั้นยึดมั่นมาก เธอให้ความสำคัญกับความรัก อาจจะเพราะว่าเธอเป็นนักวรรณคดีสาวอายุน้อยที่ใช้ประสาทสัมผัส ก็เหมือนกับ San Mao ความรักสำคัญที่สุด ดังนั้นนี่ก็คงเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด อิจฉาพวกเขา อิจฉาป๋ายห้าว แล้วก็อิจฉาพี่สี่”
“ไม่ต้องอิจฉา เธอมีคุณก็มี เธอไม่มี คุณยังมี”
เจียงหยู่หันมามองหวาเหวิน คำนี้พูดอย่างไม่ชัดเจน
แต่หวาเหวินฉลาดถึงขั้นนี้ จะไม่รู้ได้อย่างไร?
เธอไม่ได้ตอบ เพียงแค่ยิ้มเล็กน้อย
ตอนบ่ายเจียงหยู่ไปส่งหวาเหวินกลับบ้าน ตอนแรกอยากจะทำอาหารเย็นด้วยกัน แต่บังเอิญมีธุระจึงต้องออกไปอีกครั้ง
ก่อนออกไป หยินซิ่งกับชุนเถากำลังยุ่งอยู่ในครัวพอดี
หวาเหวินครุ่นคิดหลายครั้งหลายหน ก็เลยยืนบนปลายเท้า จูบลงไปที่คางของเขา
เจียงหยู่ตะลึงงัน……
ครั้นแล้วก็มองหวาเหวิน คิดว่าตอนนี้ ตนเองกำลังฝันไป
“ขับรถช้าๆหน่อย ระวังความปลอดภัยด้วย” เสียงของหวาเหวินน่าฟังเป็นพิเศษ
ไม่รู้ว่าเป็นภาพลวงตาของเจียงหยู่หรือเปล่า เขาถึงกับรู้สึกว่า แต่ก่อนเสียงของหวาเหวินเนือยๆขนาดนั้นไม่นึกว่าวันนี้จะมีความอบอุ่นแล้ว
“เหวินเหวิน……” เสียงแหบๆของเขาเรียกเธอ สายตาที่อ่อนโยนราวกับสายน้ำ
“พอแล้ว รีบไปทำงานเถอะ”
เป็นครั้งแรกที่หวาเหวินจู่โจมจูบเจียงหยู่อย่างนี้ แม้ว่าจะจูบแค่ที่คางเท่านั้น แต่สำหรับเจียงหยู่ นี่ก็เป็นของขวัญชิ้นใหญ่แล้ว
หวาเหวินรีบหมุนตัววิ่งเข้าไป เพราะเขินแล้ว
กำลังมองด้านหลังของสาวน้อยที่แฝงไปด้วยความเขินอาย เจียงหยู่ยกมุมปากขึ้น แค่รู้สึกว่าอารมณ์สดใสอย่างถึงที่สุด
แต่ไหนแต่ไรความรักสิ่งนี้ สามารถทำให้คนรู้สึกได้ในทันที ว่าโลกใบนี้ช่างสวยงามเหลือเกิน
การรุกของหวาเหวิน ให้ความมั่นใจและความกล้ากับเจียงหยู่อย่างยิ่ง ตั้งแต่นี้ไปเขาจะยิ่งเอาใจใส่ภรรยาตัวน้อยให้มากขึ้น
เวลาตีห้า
คนของตระกูลแซ่ไม่นอนกันทั้งคืน ทุกคนรอคอยอยู่ในบ้าบตระกูลแซ่
แซ่เฟยโม่กับแซ่จื๋อจ้วนไปสนามบินแล้ว คนของฉินชุงเจี้ยนคุ้มกันแซ่หลิงกลับมาตลอดทาง แต่กลับไม่พบฉินชุงเจี้ยนเลย
ในวินาทีนั้นที่แซ่หลิงเข้าประตูมา สามีภรรยาตระกูลแซ่ก็น้ำตาไหลกันทั้งคู่
“ลูกรัก ลูกกลับมาแล้ว” คุณนายแซ่อดไม่ได้ที่จะร้องห่มร้องไห้
แซ่หยานก็น้ำตาไหลอาบแก้ม อายุมากแล้วก็จริง แต่ทนไม่ได้เพียงสักนิดเดียว โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับหัวใจดวงนี้
“พ่อคะ แม่คะ ทำให้เป็นห่วงแล้ว”
แซ่หลิงสวมเสื้อขนเป็ดยาวสีดำตัวหนึ่ง เป็นตัวที่แซ่จื๋อจ้วนนำไปสนามบินด้วย
ด้านในสวมเพียงแค่ชุดกระโปรงบางๆตัวเดียว สีหน้าซีดมาก ดูเหมือนว่าผอมลงไปตั้งเยอะจากเดือนที่แล้ว
แซ่หลิงวิ่งเข้าไป กอดพ่อแม่เอาไว้ ทั้งสามคนร้องไห้กันหมด
แซ่จื๋อจ้วนกับแซ่เฟยโม่สองพี่น้องที่อยู่ด้านหลัง ก็เบ้าตาแดง