ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ - ตอนที่ 309
ตอนที่ 309 แอบมาเจอกัน
หวาเหวินเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าควรจะตอบว่าอะไร ก็เลยไม่ได้ตอบอะไรกลับไป
หลังจากผ่านไป5นาที แซ่จื๋อจ้วนก็ส่งมาอีกประโยคหนึ่ง “ดูแลตัวเองดีๆ นะ ฉันไม่อยากให้ร่างกายเธอมีแต่แผลตอนที่ฉันแย่งเธอกลับมาจากเจียงหยู่”
หวาเหวินยังคงไม่ได้ตอบอะไรเหมือนเดิม แซ่จื๋อจ้วนเป็นคนที่มุ่งมั่น เธอก็ไม่ได้อยากจะไปพูดหรือโน้มน้าวอะไร ก็ปล่อยให้เขาพูดไปเถอะ
เจียงหยู่เปลี่ยนยาให้หวาเหวินอย่างระมัดระวัง หลังจากนั้นก็ช่วยสระผมแล้วก็เป่าผมให้เธอ อบอุ่นอย่างมาก
หลังจากอาบน้ำเสร็จ หวาเหวินก็ขึ้นเตียงก่อน
เจียงหยู่กลัวว่าเธออยู่คนเดียวแล้วจะกลัว ก็ย้ายแล็ปท็อปของตัวเองเข้ามา แล้วก็ทำงานในห้องนอนของหวาเหวิน
เจียงหยู่เองก็ไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น ได้แต่นั่งเงียบๆ อยู่บนโซฟา ไม่ได้พูดอะไรเลย เพียงแค่มองไปที่หวาเหวินเงียบๆ
คิ้วที่งดงามและละเอียดอ่อน ขยับบ้างเป็นครั้งคราว เหมือนกับแมวตัวน้อยๆ น่ารัก
เจียงหยู่อดไม่ได้ที่คิดจะเอานิ้วไปแตะที่คิ้วของเธอ หยอกล้อหวาเหวิน แต่พอนึกถึงเรื่องราวที่หวาเหวินเจอมาในวันนี้ ก็ไม่อยากจะไปรบกวนความฝันที่สวยงามของเธอ ก็เลยหยุดมือของตัวเองไว้
จนถึงตอน4ทุ่ม หลังจากที่หวาเหวินหลับไป
เจียงหยู่จัดการธุระเสร็จ ก็อาบน้ำแล้วก็ขึ้นเตียง หลังจากนั้นก็กอดเธอเบาๆ
แต่ว่าพูดไปแล้วก็แปลก ตอนที่เจียงหยู่กอดเธอนั้น หวาเหวินก็ไม่ได้ฝันอะไรเลย หลับสบายมากเป็นพิเศษ
แน่นอน เธอหลับสบาย แต่ก็ทำให้เจียงหยู่ลำบากอยู่เหมือนกัน
เขาเป็นผู้ชายที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณของชายหนุ่ม ต้องเผชิญหน้ากับผู้หญิงที่ตัวเองชอบ
ได้แต่กอดอยู่แบบนี้ เรื่องภายในใจหรือว่าความขุ่นเคืองทั้งหมดของเจียงหยู่หายไปหมด เจียงหยู่ก้มลงแล้วจูบเบาๆ
ตอน5ทุ่ม40นาที
หลังจากที่หวาผิงเดินแบบรอบดึกเสร็จ พี่เลี้ยงและผู้ช่วยก็พาไปส่งกลับที่พัก
หลังจากทุกคนกลับไปแล้ว เธอก็รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็แอบลงมาจากตึก หลังจากนั้นก็เข้าไปที่รถสีดำข้างทาง
พูดไปก็น่าขำ เพื่อที่จะไม่ดึงดูดความสนใจจากคนรอบข้าง หวางเซียวอี้ก็ไม่กล้าขับรถหรูมา
ที่น่าตะลึงก็คือเขาเอารถของผู้ช่วยที่เป็นรถโตโยต้าราคา2แสนกว่ามาขับ รถราคาแบบนี้มีอยู่เต็มเมืองเจียงไปหมด แน่นอนว่ามันไม่สร้างความสงสัยให้คนรอบข้าง
“นายมานานแค่ไหนแล้ว? ”
“พึ่งจะมาถึงได้5นาทีเอง”หวางเซียวอี้พูด
“ฉันหิวนิดหน่อย พวกเราไปกินปิ้งย่างกันเถอะ”
“อืม”
ไม่ว่าหวาผิงจะพูดอะไร ก็เหมือนกับว่าหวางเซียวอี้จะตกลงเสมอ และก็ไม่รังเกียจที่เธอเรื่องเยอะ
ผ่านไปไม่นานทั้งสองคนก็มาถึงร้านปิ้งย่างราคาถูก ตามกฎเดิม หวางเซียวอี้ไปซื้อใส่ถุงมา ส่วนหวาผิงนั่งรออยู่ในรถ
หลังจากนั้นก็กินตอนที่มันยังร้อนๆ อยู่ในรถ ทำให้ในรถมีแต่กลิ่นปิ้งย่าง กลิ่นปีกไก่ กินเนื้อแกะ
หลังจากกินจนอิ่มแล้ว ทั้งสองคนก็กลับไปที่อพาร์ทเมนต์ที่หรูหราของหวางเซียวอี้
ในระหว่างทางเดินพวกเขาก็ทะเลาะกันอีกครั้ง
“คุณหญิงใหญ่ คำนี้มันไม่ได้ใช้แบบนี้นะ”
“ก็ฉันชอบใช้ นายจะทำไม? ”
“ครับๆๆๆ เธอพูดอะไรก็ถูกหมดแหละ” หวางเซียวอี้ยิ้มอย่างไม่มีทางเลือก
หวาผิงกับหวางเซียวอี้รักษาความลับได้ดีมาก ก็เลยเหมือนกับว่าไม่มีใครพบเบาะแสที่น่าสงสัยเลย
ตอนตี4 ฟ้ายังมืดอยู่เลย
ตอนที่หวางเซียวอี้ไปส่งหวาผิงกลับบ้าน ตอนที่เธอลงจากรถนั้น จู่ๆ หวางเซียวอี้ก็ดึงมือของเธอไว้
“หวาผิง……”
“หืม? ”
หวางเซียวอี้คิดสักพัก เงยหน้าขึ้นมา และมองหน้าหวาผิงอย่างจริงจัง
“เธอออกจากวงการบันเทิงเถอะ……เลิกเป็นศิลปินเถอะนะ” หวางเซียวอี้พูดอย่างจริงจังมาก หวาผิงก็ตะลึงไป