ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ - ตอนที่ 32
ตอนที่ 32 แย่งชิงภรรยาด้วยความเกลียดชัง
“เธอหุบปาก ห้ามหัวเราเยาะ”
ได้ยินเซี่ยหลิงหัวเราะแบบนี้ เซี่ยจื๋อจ้วนยิ่งรู้สึกรำคาญใจ
“ไอ๊หยา โอเคพี่รอง ในเมื่อทั้งคู่ไร้พรหมลิขิต ผู้คนจะหน้าตาอย่างไรก็ไม่เกี่ยวกับพี่แล้ว ที่ฉันได้ยินมา เช่นนั้นหญิงสาวในตระกูลคงมีอิทธิพลมาก พี่หนีงานแต่ง คนเขาก็หาเจ้าบ่าวในงานมาแทนได้ทันที แถมยังเป็นเจียงหยู่ ดังนั้นตอนนี้เธอก็สมควรจะเป็นภรรยาของเจียงหยู่ใช่หรือไม่?”
“นี่เธอเจตนาพูดแทงใจดำฉันอยู่ใช่ไหม?
“ที่ไหนกัน ฉันก็แค่พูดไปตามเนื้อผ้า ว่าแต่พี่กับเหลียงเซียวเซียวล่ะเป็นอย่างไรบ้าง?”
“อย่าได้พูดถึงหล่อนต่อหน้าฉัน มันผ่านไปแล้ว”
“รวดเร็วขนาดนี้เชียว?”
“หล่อนวางยาฉัน เจตนาให้ฉันตื่นสาย ยังจงใจเปิดเผยต่อสื่อ ทำเรื่องที่ฉันหลบหนีงานแต่งรู้กันทั้งบ้านทั้งเมือง ยังจะให้ฉันเก็บหล่อนไว้ได้อีกเหรอ?”
“ฮ้า ฉันเข้าใจว่าพี่จริงจังกับเธอ”
“จะเป็นไปได้อย่างไร? นิสัยฉันเธอยังไม่รู้อีกหรือไง?”
แล้ววันนี้ที่พี่โทรมาหาฉันนี่เรื่องอะไรกันแน่?” เซี่ยหลิงยังไม่เข้าใจความคิดของพี่ชายคนรอง
“ในใจคิดว่า งานแต่งพี่ก็พังแล้ว คนก็ถูกพี่ทิ้งขว้างแล้ว ยังคิดอย่างไรอีก?
“ฉันคิดจะแย่งหวาเหวินกลับมา”
“พี่ประสาทหรือเปล่า?”
“ฉันไม่ได้ล้อเล่น”
“พี่ ดูความเป็นจริงสักนิดไหม? ไม่ต้องพูดเรื่องที่พี่หนีงานแต่งที่ทำให้ผู้คนอับอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหน เท่านี้ก็ไม่น่าให้อภัยแล้ว ถึงแม้ผู้คนจะยกโทษให้พี่ ตอนนี้คนเขาก็อยู่กับสามีเขาไม่ใช่หรือ? เจียงหยู่เองก็ไม่ใช่คนธรรมดา พี่อย่าได้ยั่วยุเขาดีกว่า”
“หึ เจียงหยู่แล้วอย่างไร ช่างหัวเจียงหยู่ ฉันเคยกลัวซะที่ไหน”
เซี่ยจื๋อจ้วนดูถูกเจียงหยู่ ทั้งสองไม่ลงรอยกัน
นี่เป็นเรื่องที่ทุกคนรู้กันดีในแวดวงบรรดามหาเศรษฐี ตอนนี้ด้วยเพราะเรื่องของหวาเหวิน ทั่งคู่จึงขัดแย้งกันมากยิ่งขึ้น
“ประเด็นสำคัญคือ คนก็แต่งไปแล้ว ถ้าพี่จะลงมือแบบนี้มันก็ไม่ถูกต้อง พี่ก็จะกลายเป็นมือที่สามรู้หรือเปล่า? เป็นมือที่สามก็จะโดนดูหมิ่น….แล้วยิ่งเป็นชายมือที่สาม”
“เธอน้อยๆหน่อย ฉันไม่ใช่ว่าไม่รู้อะไร พวกเขาทั้งคู่ไม่มีความรู้สึกพื้นฐาน ก็แค่บังเอิญเท่านั้น เจียงหยู่ชิงสกัดก็เป็นแค่เพราะว่าเกลียดฉัน จงใจทำให้ฉันขายหน้า….ตระกูลหวายิ่งง่ายกว่า ต้องการแค่เงินเท่านั้น ดังนั้นผู้หญิงจะไปกับใครก็ได้ ไม่มีความรักที่แท้จริงหรอก ,ทำไมฉันจะไม่สามารถแย่งได้? แล้วอีกอย่าง ที่เรื่องมันเกิดขึ้นมา เจียงหยู่ต่างหากที่ไม่รู้จักศีลธรรม มันอยู่ที่งานแต่งฉัน แล้วยังแย่งเจ้าสาวฉันไป นี่เข้าข่ายชิงภรรยาเพราะเกลียดชังเข้าหรือหรือไม่?”
“พี่นี่น้า พูดไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย ไม่ใช่ว่าพี่หนีงานแต่งก่อนหรือไง?”
“เมื่อไหร่กันที่ฉันต้องใช้เหตุผล สรุปว่าเรื่องนี้ฉันตั้งใจไว้แล้ว เธอก็ช่วยฉันออกความคิดหน่อย ว่าฉันควรจะชิงหวาเหวินกลับมาอย่างไรดี?”
“เต๊าะสาวไม่งานทางถนัดของพี่หรอ? ฮ่าๆ ยังกล้ามาถามฉัน” เซี่ยหลิงรู้สึกขำสิ้นดี
“ครั้งนี้ไม่เหมือนกัน ฉันจริงจัง เธอคิดให้หน่อย เร็วๆ นาฬิกาข้อมืออ่ะจะเอาไหม?”
ยัง ยังยกเรื่องนาฬิกามาข่มขู่….
เซี่ยกลอกลูกตาวาวเมื่อแรงบันดาลใจมา
เธอกล่าว “พี่ ฉันเห็นบนแอปTikTokช่วงนี้ สารภาพรักก็ค่อนข้างนอกกรอบดี ที่ค่อนข้างสร้างสรรค์.. ถ้าไม่อย่างนั้น…….พี่จุดดอกไม้ไฟให้เธอดีไหมล่ะ?
“วิธีนี้ไม่เลว ผู้หญิงน่าจะชอบความโรแมนติก โอเค ถ้างั้นฉันลองดูก่อน”
หลังจากวางสาย เซี่ยจื๋อจ้วนก็โทรหาพรรคพวกอย่างรวดเร็ว
“ฉันต้องการพลุดอกไม้ไฟ เอาใหญ่ๆ สวยๆ ยิ่งเยอะยิ่งดี จะดีที่สุดถ้าแบบที่จุดได้หลายชั่วโมง”
ช่วงเวลาตีหนึ่งในค่ำคืนนั้น
ณ ประตูหลักของย่านเฟิงหวาหลี มีการจุดพลุดอกไม้ไฟขึ้นอย่างกะทันหัน
โทรศัพท์มือถือของหวาเหวินได้รับข้อความฉบับหนึ่ง….หวาเหวิน ผมเซี่ยจื๋อจ้วน พลุดอกไม้ไฟนี้สำหรับคุณคนเดียวเท่านั้น นี่คือคำขอโทษของผมสำหรับคุณ
หวาเหวินนวดขมับ พลางเปิดม่านออก ก็พบเสียงดอกไม้ไฟที่ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ห้าวินาทีต่อมา หวาเหวินก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์โทร
หลังจากนั้นเอ่ยด้วยความราบเรียบ “ฮัลโหล สถานีตำรวจใช่ไหมคะ? ที่ทางเข้าที่พักของฉันมีคนบ้าจุดดอกไม้ไฟจำนวนมากเป็นการรบกวน คุณช่วยกรุณารีบมาจัดการทันทีเลยนะคะ”