ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ - ตอนที่ 321
ตอนที่ 321 กลัวความสุข
เป็นเพราะข้อมือของหวาเหวินได้รับบาดเจ็บ จึงทำให้การกระทำของเธอนั้นช้าลงเล็กน้อย เจียงหยู่ก็ยังคงรอเธอด้วยความใจเย็น
ทั้งสองคนเล่นไปสามตา แต่ผลมันก็ออกมาเสมอกัน ซึ่งเป็นอะไรที่พบได้น้อยมาก
หวาเหวินที่คิดว่าการเล่นหมากรุกของตัวเองนั้นเก่งกาจมาก แต่พอได้พบกับเจียงหยู่แล้ว เธอถึงรู้ว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า ที่แท้บนโลกใบนี้ยังคงมีคนที่ฉลาดและมีพรสวรรค์แบบเธอ
“นายเก่งมากเลย”หวาเหวินเงยหน้าขึ้น
“ ให้ตายสิ ถ้ายังคงเสมอกันก็ไม่มีความหมายอะไร แกล้งแพ้เธอเสียดีกว่า ยังได้จูบเธอด้วย”
“นายอย่ามาเยอะ”ใบหน้าของหวาเหวินแดงระเรื่อ
ในเวลาเที่ยงวัน ทั้งสองคนกินก๋วยเตี๋ยวที่คุณน้าทำให้ ในชามก๋วยเตี๋ยวมีมะเขือเทศและผักหลายชนิด อร่อยมากเลย
หลังจากที่กินเสร็จ หวาเหวินก็รู้สึกง่วงเล็กน้อย จึงเดินไปที่โซฟาอย่างสะลึมสะลือ จากนั้นก็นอนหลับไป
ตอนที่หลับ ในมือก็ยังคงถือพัดไว้
เจียงหยู่ไปหยิบผ้าห่มข้างๆ แล้วมาห่มให้เธอ
เสียงของคุณน้าดังขึ้นจากด้านหลัง “พัดที่อยู่ในมือของคุณหนูอาเหวิน เป็นพัดที่คุณนายชอบที่สุดในตอนที่ท่านยังอยู่ค่ะ”
“มิน่าล่ะ……..” เจียงหยู่เข้าใจในทันที
มิน่าล่ะ หวาเหวินถึงไม่ยอมปล่อยมือ กอดไว้ตลอด ที่แท้เธอก็คิดถึงคุณย่านี่เอง
คุณน้าพูดขึ้นอีกว่า “อาเขย คุณหนูของบ้านเราเป็นคนลึกซึ้ง แม้เธอจะมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ไม่ค่อยดีนัก แต่เธอก็เป็นคนดีนะคะ ตอนที่คุณนายยังอยู่ ท่านรักและเอ็นดูคุณน้องห้ามากเลยค่ะ ร่างกายของคุณน้องห้าไม่ค่อยแข็งแรงมาตั้งแต่เด็ก ถึงหน้าหนาวทีไรก็จะป่วยทุกที คุณนายก็จะทุ่มเงินซื้อเตาถ่านมาให้ ทำให้อากาศภายในบ้านอบอุ่น หลังจากที่คุณหนูนอนจนเหงื่อท่วมตัว คุณนายก็จะถือพัดมานั่งข้างๆ แล้วพัดให้เธอ สำหรับคุณหนูแล้ว เรื่องราวเหล่านี้ถือว่าเป็นความทรงจำที่มีค่ามากเลยล่ะค่ะ”
“คุณย่าเป็นคนที่รักอาเหวินที่สุดแล้วสินะครับ”เจียงหยู่ถอนหายใจเบาๆ
หญิงชราคนนั้น เขาก็เคยเห็นแค่ไม่กี่ครั้ง ก่อนที่ท่านจะจากไปยังบอกเขาว่า ให้เขาดูแลอาเหวินดีๆ
“ใช่ค่ะ ท่านมักจะร้องไห้แล้วพูดบ่อยๆว่าชีวิตของคุณหนูนั้นช่างอาภัพนัก เกิดมาก็ไม่ได้รับความรักจากพ่อแม่ แถมยังถูกส่งมาที่นี่อีก ใช้ชีวิตราวกับแม่ชี……จืดชืด ไม่สามารถไปเรียนหรือใช้ชีวิตปกติได้เหมือนคุณหนูคนอื่นๆ”
“ไม่เป็นไรครับ ต่อไปนี้เธอจะได้ใช้ชีวิตที่มีความสุขที่สุด”เมื่อเจียงหยู่ได้ยินเรื่องราวความขมขื่นในวัยเด็กที่ของหวาเหวินแล้ว ก็รู้สึกเจ็บปวดหัวใจเล็กน้อย
หลังจากที่หวาเหวินตื่นขึ้นมา ทั้งสองคนก็นั่งเล่นบนภูเขาสักพัก ถ่ายวิวทิวทัศน์ที่ปกคลุมด้วยหิมะมากมาย แล้วค่อยลงจากภูเขา
ในตอนที่ลงจากภูเขา เนื่องจากบันไดสูงและลื่น เจียงหยู่ไม่สนใจการคัดค้านของหวาเหวิน บังคับให้เธอขี่หลังแล้วลงจากภูเขา
ระมัดระวังทุกย่างก้าว………..
“เจียงหยู่นายปล่อยฉันลงเลยนะ แบบนี้มันอันตรายมาก”
“ ไม่เป็นไร ถึงตายก็ตายไปด้วยกัน เธอจะกลัวอะไร? “
“นายอย่ามาพูดมั่วเรื่องที่ไม่เป็นมงคลแบบนี้นะ”หวาเหวินรู้สึกเอือมระอาจนทุกไปที่หลังของเขา
เจียงหยู่ทำเพียงยิ้มและไม่ได้พูดอะไรออกมา……..
“อาเหวินฉันชอบให้เธอขี่หลังของฉัน และฉันก็หวังว่าตัวเองจะสามารถให้เธอทีหลังจนถึงอายุแปดสิบ ขอแค่ฉันยังเดินได้ ฉันก็จะให้เธอขี่หลังไปเรื่อยๆ………”
ทันใดนั้น หวาเหวินก็รู้สึกอยากจะร้องไห้ บางที นอกจากคุณย่า เจียงหยู่ก็เป็นคนที่ดีกับเธอมากที่สุดในโลกนี้แล้ว
แต่ทำไมเธอถึงยังกังวลใจนักล่ะ?
บางทีอาจจะเป็นเพราะเธอเจอเรื่องราวที่ไม่ค่อยดีมาตั้งแต่เด็ก จึงทำให้เธอไม่กล้าคิดว่า สักวันตัวเองนั้นจะได้พบกับความสุข
เธอกลัวว่าช่วงเวลาแห่งความสุขนั้นจะสั้นเกินไป ราวกับว่าความสุขนั้นมีปีกและสามารถบินออกไปจากตัวได้……….
“ทำไมเงียบไปล่ะ?”เจียงหยู่ถามคนที่ขี่หลังตัวเองอยู่
“ตอนอายุแปดสิบ ตัวนายเองก็ต้องใช้ไม้เท้าในการทรงตัวแล้ว จะมีแรงให้ฉันมาขี่หลังได้ยังไง อย่ามาเพ้อเจ้อ”
“ฮ่าๆๆๆ ไม่เป็นไร เราสามารถมีลูกด้วยกันเยอะๆได้ ถึงเวลานั้นแล้วค่อยขี่หลังลูกๆของเราก็ได้”
“ใครจะไปมีลูกกับนายกัน?”ถึงแม้ปากของหวาเหวินจะพูดอย่างนั้น แต่ในใจของเธอนั้นมีความหวานและความเขินอายอยู่เล็กน้อย
“อาเหวิน เธอชอบลูกชายหรือว่าลูกสาว?”จู่ๆเจียงหยู่ก็เริ่มสนใจขึ้นมา แล้วถามเธอ