ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ - ตอนที่ 34
ตอนที่ 34 พวกเราต้องคุยกัน
หวาเหวินเป็นคนหลับตื้นมาก ตราบใดที่มีเสียงก็จะตื่นทุกครั้ง
ดังนั้นช่วงที่ได้รับข้อความตอนตีสอง เรียวคิ้วจึงขมวดมุ่น
เมื่อเปิดอ่านดู เธอพลันบ่นออกมา คนประสาท
หลังจากนั้นจึงกดเบอร์ของเซี่ยจื๋อจ้วน ลากเข้ารายชื่อแบล็คลิสท์
ผู้ชายคนนี้ไม่ยอมให้คนสงบสุขเลยจริงๆ….
ยังดีคนที่แต่งด้วยไม่ใช่เขา ถ้าไม่อย่างนั้นล่ะก็…..ไม่ใช่ว่าจะปราศจากคืนวันอันแสนสงบเลยงั้นหรือ?
รุ่งเช้าวันถัดมา
เช้าหกโมงครึ่ง หวาเหวินเปลี่ยนเป็นชุดเดรสสีฟ้าน้ำทะเลสาบ ปรากฏตัวที่ห้องรับประทานอาหารตรงเวลา
เพิ่งจะหย่อนกายนั่งเก้าอี้ เจียงหยู่ก็เดินลงมา
“อรุณสวัสดิ์” เขาทักทาย
หวาเหวินค้อมศีรษะ “อรุณสวัสดิ์”
“เมื่อคืนหลับสบายดีไหม” เขาจงใจถามคำนี้ออกมา
หวาเหวินเองก็รู้ว่าเขาจงใจ ดังนั้นจึงตอบออกไปอย่างไม่ใส่ใจ “ธรรมดา”
ในเวลานี้ ชุนเถากับหยินซิ่งยกอาหารเช้าเข้ามาเสิร์ฟ ยังคงอุดมพรั่งพร้อมหาใดเปรียบ
เจียงหยู่ทานโจ๊กไปได้หนึ่งคำก็เงยหน้าขึ้นมามองหวาเหวิน “ถ้าหากคุณรู้สึกว่าการอยู่บ้านมันน่าเบื่อ จะกลับบ้านใหญ่ก็ได้นะ เล่นไพ่นกกระจอกกับแม่ผมอะไรทำนองนั้น”
“ไม่สนใจค่ะ”
เจียงหยู่มองเธอตอบกลับอย่างเฉยชาก็ไม่ได้พูดอะไรมาก ไม่แม้แต่จะโมโห
กลับเป็นหวาเหวินที่ฉุกคิดอะไรบางอย่าง จึงวางชาดำมะนาวในมือลง
กล่าวด้วยสีหน้าปกติ “ฉันได้ยินคนที่บ้านบอกมาว่า วันนี้จะยกที่ดินผืนนั้นให้กับตระกูลเจียงของคุณ”
“ที่ดินตรงไหน?” เจียงหยู่กลับไร้ปฏิกิริยา
หวาเหวินจ้องดวงตาของเขา พบว่าเขาไม่คล้ายโกหก
“ก็ที่ดินตรงทะเลสาบเซียนหนี่ว์ตระกูลฉันไง ก่อนหน้านี้คุยกันไว้ในฐานะที่เป็นสินสอดติดตัว เดิมทีต้องยกให้กับตระกูลเซี่ย แต่ตอนนี้ฉันแต่งกับคุณ เงินพวกนั้นตระกูลคุณก็เป็นคนออก ที่ดินก็ควรจะเป็นของตระกูลคุณสิคะ”
“อ่า นี่คุณพูดถึงที่ดินข้างทะเลสาบเซียนหนี่ว์นี่เอง ไม่เป็นไร ถึงคุณไม่มีสินสอดเจ้าสาวผมก็ไม่รังเกียจคุณหรอก”
หวาเหวินกลับกล่าวด้วยเหตุผลและความถูกต้อง “คุณเจียง มันเป็นเรื่องที่ต้องแยกแยะ คุณให้เงินทุนหมุนเวียนตระกูลหวา เป็นธรรมดาที่ตระกูลหวาต้องตอบแทนบ้าง วันนี้พี่ใหญ่จะโอนให้กับคุณ”
“ครับ ผมทราบแล้ว”
เห็นว่าหวาเหวินใส่ใจเรื่องนี้มาก เจียงหยู่จึงพยักศีรษะ
เขารู้ว่าเธอไม่ต้องการติดค้างเขามากเกินไป ไม่ต้องการรู้สึกว่าที่เขายกเงินให้ห้าร้อยล้านคล้ายกับเป็นการขายเธอให้กับเขา
ที่ดินผืนนั้นของตระกูลหวา ถึงแม้ไม่คุ้มค่ากับห้าร้อยล้าน แต่ก็ประเมินค่ามิได้ ภายใต้สถานการณ์ที่ดินของเมืองในปัจจุบันนั้นตึงเครียดถึงที่สุด
ที่ดินตรงทะเลสาบเซียนหนี่ว์ที่ตระกูลหวาครองอยู่นั้น แท้จริงแล้วเป็นโอกาสใหญ่ในภายภาคหน้า เมื่อมาอยู่ในกำมือ ไม่ว่าจะปลูกสร้างอาคารหรืออะไรก็ตาม ล้วนเป็นเงินเป็นทองทั้งสิ้น
“ฉันทานเรียบร้อยแล้ว คุณค่อยๆทานแล้วกัน”
หวาเหวินที่รับประทานอย่างรวดเร็ว หลังทานเสร็จก็ผินร่างขึ้นชั้นบน
“ภรรยา พวกเราเพิ่มวีแชทกันหน่อยนะ”
ความต้องการของเจียงหยู่ทำให้หวาเหวินรู้สึกเหนือความคาดหมายอยู่บ้าง
เธอหันร่างกลับมามองด้วยความตกตื่น
“มองผมทำไมกัน? คุณอย่าบอกผมนะว่าคุณไม่มี?” เขายิ้ม
“เปล่าค่ะ”
หวาเหวินหยิบโทรศัพท์มือถือเปิดบาร์โค้ด แล้วเดินเข้าไป
เจียงหยู่ชำเลืองมองชื่อวีแชทของเธอ จึงยิ้มขึ้นมา “ทั้งชีวิตมีเธอ ชื่อนี้ไม่เลว”
หวาเหวินนิ่งเงียบ……
หลังจากที่เขาเพิ่มเพื่อน ยังกำชับเธอด้วยว่า “อย่าลืมกดรับยืนยัน”
หวาเหวินยังคงไม่กล่าวอะไร หันร่างกลับขึ้นชั้นบน
เขาพูดกับตนเอง “อายุก็ไม่น้อยแล้ว นิสัยเข้าถึงยากจริงๆ”
ทว่าเขาไม่กลัว
หลังจากที่เจียงหยู่ไปบริษัทแล้ว หวาเหวินก็ไม่ใช่คนที่ต้องเฝ้าบ้านทุกวี่วัน
หลังจากเธอทานมื้อกลางวัน ก็นั่งรถออกไปข้างนอกโดยที่ยังสวมชุดเดรสสีฟ้าน้ำทะเลสาบของเมื่อเช้า
ไปตลาดของเก่าย่านกลางใจเมือง เธอต้องการจะไปดูว่ามีของดีๆบ้างหรือไม่ จะไปเลือกดูสักหน่อย
รถเป็นรุ่นออดี้A8 สีดำ คนขับคือชุนเถา
หยินซิ่งกับหวาเหวินนั่งที่เบาะหลัง แต่คิดไม่ถึงว่าขับออกจากหลี่หวาเฟิงเพียงไม่นานก็ถูกคนขวาง
“คุณหนูคะ ดูเหมือนจะเป็นคนตระกูลเซี่ยค่ะ” ชุนเถาหันไปบอกเธอ
ไม่รอให้หวาเหวินได้กล่าวคำ เซี่ยจื๋อจ้วนก็เดินมาขนาบข้างตัวรถ พลันตะโกนพูดกับคนเบาะหลัง “คุณหนูห้า ผมมีบางอย่างจะพูดกับคุณ”