ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ - ตอนที่ 36
ตอนที่ 36 ผู้เชี่ยวชาญ
หวาเหวินมองเหรียญทองแดงที่อยู่ในมือพ่อค้าเร่ พลันยิ้มขึ้นมา
พ่อค้าเร่ผู้นั้นเห็นว่าพอมีหวัง จึงรีบกระตุ้นต่อมทันที “แม่สาวน้อย ดูเหมือนเธออายุยังน้อย คาดว่าเธอคงไม่ทราบถึงประโยชน์เหรียญหวู่ตี้หรอกใช่ไหม?”
หวาเหวินเกิดความสนใจ “อ้อ งั้นคุณเล่าให้ฉันฟังหน่อยได้ไหมคะ?”
พ่อค้าเร่คนนั้นจงใจกดเสียงต่ำลง กล่าวด้วยน้ำเสียงอันลึกลับ “จะบอกให้ฟัง เหรียญหวู่ตี้นี่เจ๋งมาก สามารถกวักเงินกวักทองความมั่งคั่ง หากนักเล่นการพนันพกไว้ตราบใดที่พนันก็จะชนะรู้หรือไม่? ที่บ้านมีคนเล่นพนันหรือไม่ ถ้าซื้อไปให้หนึ่งชุดจะต้องชนะได้เงินแน่นอน หรือถ้าแม่หนูจะพกไว้เองแล้วซื้อลอตเตอรี่ก็อาจจะถูกรางวัล เชื่อเถอะว่าฉันพูดไม่ผิด”
“อ้อ งั้นหรือ? ถ้าอย่างนั้นทำไมคุณถึงไม่ซื้อลอตเตอรี่เองล่ะคะ?”
หวาเหวินถามเช่นนี้ แถมยังถามซะอยู่หมัด พ่อค้าเร่วัยสี่สิบปีกว่าจึงหัวเราะอย่างประหม่า “ฉัน…ฉันไม่มีวาสนานี่นา คำพังเพยกล่าวไว้ว่า ฉันคนนี้ฟ้าลิขิตให้ชีวิตยากจน ถูกกำหนดอยู่ในชะตากรรม ไม่สามารถฝืนได้ ยังจะซื้อสลากเสี่ยงโชคอะไรได้อีก แต่แม่หนูน่ะไม่เหมือนกัน แม่หนูเธอน่ะดูคล้ายมีลักษณะร่ำรวยทีเดียว”
หวาเหวินยื่นมือไปสัมผัสเหรียญหวู่ตี้ พลางถามเขา “เช่นนั้นคุณรู้หรือเปล่าว่าเหรียญหวู่ตี้นี้เป็นเหรียญทองหวู่ตี้ใหญ่หรือเหรียญทองหวู่ตี้เล็ก?”
“อ๋า ?” คนถูกถามชะงัก
“เหรียญหวู่ตี้มีคุณด้านโชคลาภ ที่คุณพูดมันก็ไม่ผิด ทว่ายังสามารถขับไล่สิ่ง
อัปมงคล ปัดเป่าความชั่วร้าย แก้ไขชี่พิฆาต สรรพคุณหลากหลายยิ่ง”
พ่อค้าเร่ตบมือดังเผาะ “แม่หนู ที่แท้ก็เป็นผู้เชี่ยวชาญนี่เอง เช่นนั้นก็กล้ายินดี ฉันจะยอมขายให้แม่หนูที่รู้จักสินค้าประเภทนี้ แม่หนูลองดูเหรียญทองหวู่ตีทั้งหมดนี้สิ ทั้งซุ่นจื้อ คังซี ยงเจิ้ง เฉียนหลง เจียคัง ไม่ขาดไม่น้อยไปแม้แต่อันเดียว หนึ่งเหรียญหนึ่งร้อยหยวน ห้าเหรียญก็ห้าร้อยหยวน ฉันจะบอกหนูให้ วันนี้พวกเราทั้งคู่มีวาสนา ถ้าไม่เช่นนั้นหากเป็นคนอื่น อย่างน้อยที่สุดต้องหนึ่งพันห้าร้อยหยวนนะฉันจึงจะขาย”
ชุนเถากับหยินซิ่งไม่พูดไม่จา เพียงแค่กำลังยิ้มเงียบๆ
ในใจเกือบจะโพล่งออกไปแล้วว่า แกยังกล้ามาพูดจาไร้สาระกับคุณหนู แล้วยังพูดสิ่งเหล่านี้ต่อหน้าคุณหูพวกเรา ช่างเป็นการรำขวานต่อหน้าหลู่ปันเสียจริง (อวดแสดงฝีมือต่อหน้าผู้ชำนาญ)
หวาเหวินพยักศีรษะ “หากเป็นเหรียญทองหวู่ตี้เล็กอย่างว่า หนึ่งร้อยหยวนต่อหนึ่งอัน นับว่าไม่แพงเลย”
“ใช่ไหมล่ะ แล้วแม่หนูต้องการเท่าไหร่ ฉันจะห่อให้เลยไหม?”
คนผู้นั้นเหลือบมอง แม่สาวคนนี้หลอกง่ายเช่นนี้ ต้องรีบตีเหล็กตอนร้อน
“หนึ่งร้อย หนึ่งอันไม่แพง ที่ฉันพูดถึงนั้นหมายถึงเหรียญทองหวู่ตี้ของจริง แต่ของพวกนี้เห็นได้ชัดว่า….เป็นของปลอม”
เมื่อหวาเหวินพูดว่าสินค้าปลอม ดึงดูดคนเข้ามารุมล้อมไม่น้อย พลางชี้ไม้ชี้มือไปที่พ่อค้าเร่
พ่อค้าเร่ไหนเลยจะรับได้ ณ สถานที่เกิดเหตุเดือดพล่านทันที
“ฉันว่า แม่หนูสร้างข่าวเท็จกันอย่างนี้เลยหรือ? สร้างข่าวเท็จใช่ว่าต้องมีต้นทุนนี่? ฉันเปิดแผงขายทองที่นี่มาหลายปี มีความน่าเชื่อถือดีมากมาตลอด จะขายของปลอมได้อย่างไรกัน เธอไม่รู้ก็อย่ามาพูดจาไร้สาระ ไม่ซื้อก็ไปไกลๆ” เขาไม่อดกลั้น เริ่มรีบขับไล่ไสส่งพวกหวาเหวิน
หวาเหวินไม่ได้ตื่นตูม ยังกล่าวต่ออีกว่า “เหรียญหวู่ตี้แท้หรือปลอมต้องดูกันที่ขนาด ลักษณะเฉพาะของเหรียญหวู่ตี้แท้นั้นอยู่ที่24ถึง28มิลลิเมตร เหรียญนี้ของคุณกะด้วยสายตาอย่างน้อยที่สุดก็35มิลฯแล้ว อย่างที่สองต้องดุความหนา ความหนาของเหรียญหวู่ตี้แท้จะต้องไม่เกิน4มิลลิเมตร แต่ของคุณมันเกือบจะ10มิลลิเมตรอยู่แล้ว พูดให้ชัดก็คือเป็นของยอดแย่ แม้กระทั่งเลียนแบบขั้นสูงก็ยังไม่อาจนับได้ อย่างที่สามต้องดูตัวอักษร เหรียญหวู่ตี้คือเหรียญจักรพรรดิห้ายุคสมัยที่สืบทอดกันมา ตัวอักษรแต่ละยุคสมัยมีลักษณะเฉพาะตัวของตน แต่รูปแบบอักษรคุณล้วนเหมือนกันทุกอัน อธิบายให้ชัดเจนก็คือเป็นรูปแบบตัวอักษรในคอมฯ อย่างสุดท้ายสีของคุณมันสว่างเกินไป ทองเหลืองของแท้ไม่สามารถสว่างได้ขนาดนี้ ของเหล่านี้ของคุณต้นทุนหนึ่งอันไม่ควรเกินสามหยวนด้วยซ้ำ คุณกลับขายอันละร้อย ลงทุนน้อยกำไรบานเบอะแล้ว”
“เธอ…..เธอจะมาพังการค้าหรือไงกัน?” พ่อค้าเร่ถูกหวาเหวินกล่าวเช่นนั้น ที่สุดก็เก็บสีหน้าไว้ไม่อยู่