ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ - ตอนที่ 46
ตอนที่ 46 ของปลอมราคาเหยียดฟ้า
“เจียงหยู่? เจียงหยู่?”
คุณหญิงเจียงเรียกถึงสองครั้ง ลูกชายเขาถึงหลุดจากภวังค์
“หา? แม่พูดต่อเลยครับ” เจียงหยู่ใจไม่อยู่กับตัว อยากจะดูรายการสดของss
ที่แม่ของเขาพูดไปเมื่อครู่นี้ เขาไม่ได้ฟังเลยสักคำเดียว
“แม่ว่า เธอสองคนถ้าอยู่อย่างนี้ต่อไปไม่ใช่วิธีที่ดีนักนะ พูดได้ดีนะ แต่ไม่อยากฟัง”
“อืมอืม งั้นตอนนี้ก็อยู่ไปก่อนละกันครับ รอให้เธอท้องก่อน พอมีลูกแล้วเราค่อยย้ายมาที่หมู่บ้านตงชิงดีไหม?” เจียงหยู่ไม่อยากแข็งข้อใส่แม่เขา จึงพูดในลักษณะปรึกษาหารือแทน
เมื่อได้ยินถึงการมีลูก สีหน้าของคุณหญิงเจียงก็เปลี่ยนดีขึ้นทันที
“อย่างนั้นก็ได้ งั้นแม่จะพูดเรื่องต่อไป วันนี้เมียลูกดังในเฟสบุ๊คใหญ่แล้ว ลูกรู้รึป่าว? แม่ดูในเฟสเห็นหญิงสาม บ้านตระกูลหวาที่เป็นดาราน่ะโพสรูปเมียลูกเหรอ?”
“อา สองพี่น้องเค้าเล่นกันน่ะครับแม่” เจียงหยู่รู้เรื่องอยู่แล้ว
คุณหญิงเจียงหน้านิ่ง “อย่างนี้ไม่ได้นะ ตอนนี้หวาเหวินไม่ใช่แค่ลูกสาวบ้านตระกูลหวา แต่ก็เป็นสะใภ้ของบ้านตระกูลเจียงด้วย บ้านเราไม่ชอบให้สะใภ้ปรากฎตัวในแวดวงสังคม นี่ดีนะไม่ได้รูปที่ดูเวอร์เกินไป ลูกกลับไปของเมียลูกด้วย ให้เธอระวังหน่อย”
“อ่า ครับ ผมกลับไปบอกกับเธอ”
จริงๆแล้วเจียงหยู่ขี้เกียจต่อล้อกับแม่ จึงรับปากไปส่งๆ ถึงเวลานั้นจะบอกหรือไม่บอก ใครจะรู้?
อีกอย่าง หวาเหวินก็ไม่โอเคอยู่แล้วด้วย รูปถ่ายนั้นหวาผิงเป็นคนถ่าย ไม่ใช่เพราะเธอต้องการสักหน่อย
คุณหญิงเจียงอยากจะพูดต่อ แต่เจียงหยู่เห็นข่าวเด้งมาว่าใกล้จะถ่ายทอดสดแล้ว
จึงรีบอ้างว่ามีงาน จากนั้นก็ขึ้นไปข้างบนบ้านห้องเดิมของเขา
แล้วเปิดโทรศัพท์เชื่อมอินเทอร์เน็ต เข้าดูรายการสด
ตอนไม่เข้าไปก็ยังดีอยู่ พอได้เข้าดูถึงกลับต้องตกใจ เจียงหยู่เหลือบเห็นที่มุมขวาบน พบว่าคนที่เข้ามาดูอยู่ที่เจ็ดร้านกว่าคน
ช่องรายการสดนี้เป็นช่องที่ใหญ่ที่สุดในโลก สำนักงานใหญ่อยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์ ถ่ายทอดเพียงเดือนละหนึ่งครั้งเท่านั้น
ทุกครั้งที่ประเมินราคาวัตถุ ได้มูลค่าแล้วก็จะนำไปขาย พอได้คนซื้อแล้วก็ขายทันทีเลย
รายการสดนี้ ได้รับผลตอบแทนเป็น0.01ของวัตถุ แต่ล้วนเป็นผู้ถือหุ้นระดับสูง ถ้าคิดเป็น0.01ก็ถือว่าไม่น้อยเลย
และผู้ประเมินราคา ได้รับผลตอบแทนเป็น0.05ของวัตถุ ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่เปิดเผยออกมาแล้ว
ก็คือเอาแจกันลายครามฟ้าขาวเดือนที่แล้วมาคิด ราคาสุดท้ายที่ดีลกันอยู่ที่ชิ้นละร้อยกว่าล้าน รายการทอดสดได้ไปล้านกว่า
และผู้เชี่ยวชาญการประเมินแจกันลายครามฟ้าขาวได้ค่าแรงไปห้าแสนกว่าบาท น่าดูจริงๆ
เจียงหยู่เข้ามาถึง การประเมินก็เริ่มขึ้นแล้ว สร้อยคอและเจ้าของสร้อยอยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์ และผู้เชี่ยวชาญมูลค่าอยู่อีกประเทศนึง
ถ้าเป็นคนอื่นคงทำไม่ได้ แต่ผู้นี้ทำได้ เธอไม่เคยประเมินมูลค่าวัตถุด้วยการสัมผัสของจริง เพียงแค่ขยายให้ใหญ่เพื่อดูรายละเอียดก็สามารถวิเคราะห์ได้แล้ว และไม่เคยพลาดเลยสักครั้งเดียว
พิธีกรดำเนินรายการใช้ภาษาอังกฤษอย่างคล่องแคล่วในการอธิบาย “นี่เป็นสร้อยคอโบราณรูปหัวใจสีชมพูที่เจ้าหญิงเปอร์เซียใส่เมื่อ700ปีมาแล้ว เป็นสร้อยที่องค์จักรพรรดิมอบให้ลูกสาวเป็นของขวัญในวันแต่งงาน ตามตำนานเป็นงานฝีมือที่สุดยอดมาก ทำขึ้นโดยช่างฝีมือที่เก่งที่สุดในราชวงศ์หมิง เพชรชมพูข้างในมีอยู่เจ็ดกะรัต ในเวลานั้นก็ถือว่าหายากแล้ว หลังผ่านลมผ่านฝนมาเจ็ดร้อยกว่าปี ตอนนี้ก็ยังคงสวยงามไร้ที่ติ แวววาววิบวับ คุ้มค่าต่อการสะสม สร้อยเส้นนี้ได้มาจากคนคนนึงในฝรั่งเศส ได้ยินว่าเขาได้ซื้อมาจากคนพื้นที่เมื่อครั้งที่เขาไปเที่ยวอิหร่านเมื่อ30ปีก่อน จ่ายไปหนึ่งแสนห้าหมื่นดอลลาร์ ถ้ารู้ว่า30ปีที่แล้วแสนห้าดอลลาร์ก็ถือว่าราคาสูงมาก เอาล่ะ ต่อไปเราจะให้ผู้เชี่ยวชาญประเมินมูลค่า ss มาบอกเราถึงราคาสร้อยหัวใจสีชมพูชิ้นนี้กัน”
พิธีกรกล่าวจบภาพจอก็โฟกัสที่ตัวss
เจียงมองดูผู้หญิงใส่หน้ากากสีเงิน สวมโค้ชสีทองโลหะ ดูเท่ห์มาก
“สร้อยคอนี้ เป็นของปลอม” ssพูดด้วยน้ำเสียงอันเบา โดยใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษากลางในการสื่อสาร ในห้องส่งต่างก็เดือดพล่านกันไปหมด