ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ - ตอนที่ 52
ตอนที่ 52 มีคนฟ้อง
ประโยคที่ว่าเซิงเซิง ทำให้หวาเหวินคลื่นไส้แทบอ้วก
เธอปล่อยไป ไม่สนใจเขา
แซ่จื๋อจ้วนรู้สึกน่าสนใจ แต่ก็ไม่ได้กระบิดกระบวน รับเงินหนึ่งหมื่นจากมือของหยินซิ่งมา
และสัมผัสได้ว่า เงินนี้เป็นของหวาเหวิน เงินเหล่านี้ดูดีกว่าเงินอื่น
“ในเมื่อไม่มีอะไรแล้ว เราก็แยกกันตรงนี้เถอะ ฉันยังต้องพาแมวไปฉีดวัคซีนอีก”
“เซิงเซิง เราไม่ทานข้าวด้วยกันก่อนหรือ คุณดูสินี่เที่ยงแล้วนะ?” ดูที่นาฬิกาข้อมือ ตอนนี้ก็เที่ยงครึ่งแล้ว
“ไม่ทานค่ะ เชิญคุณชายแซ่ตามสบายเถอะ”
พูดจบหวาเหวินก็พาหยิงชิ่งเดินจากไป
แซ่จื๋อจ้วนมองตามหลังคนที่เดินจากไป ท่าทีไม่ค่อยดีเท่าไหร่
“พี่สอง ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ?”
ซ่งอานลู่กับคนสนิทของเขามาฉีดยาที่นี่พอดี
พวกเขาต่างก็เป็นคนรักสุนัข เลี้ยงเท็ดดี้อยู่ตัวนึง แต่เวลาเล่นกับลูกหมาทีไรก็มักจะโดนกัดอยู่บ่อยครั้ง
ดังนั้นจึงได้มาโรงพยาบาลในใจกลางเมืองเพื่อฉีดวัคซีน
พอดีซ่งอานลู่เห็นเข้าว่าคล้ายแซ่จื๋อจ้วนพี่ชายสอง เพียงแต่ไม่รู้ว่าผู้หญิงนั้นเป็นใคร?
สวี่ลี่หยงแม่ของซ่งอานลู่กับสวี่ลี่หวาแม่ของแซ่จื๋อจ้วนเป็นพี่น้องกัน
เพราะฉะนั้นความสัมพันธ์สองคนนี้จึงค่อนข้างสนิทกัน เมืองที่บ้านตระกูลซ่งอยู่นั้นก็ค่อนข้างมีชื่อเสียงพอสมควร
“อืม ฉันมาฉีดวัคซีน”
“พี่? พี่ไม่ได้เลี้ยงหมาเลี้ยงแมวไม่ใช่เหรอ?”
“โดนแมวเพื่อนข่วนน่ะสิ”
“พี่สอง ผู้หญิงคนเมื่อกี้คือใครเหรอ สวยดีนี่….หุ่นก็ดี แต่งตัวก็สวย”
ซ่งอานลู่พอเข้าใจพี่สองคนนี้ รู้ว่าเค้าไม่ใช่คนที่จะทำตัวเรียบร้อยอยู่กับที่
เลยเข้าใจว่าเขาได้สาวควงคนใหม่
จะไปรู้ได้ไงว่านั่นคือหวาเหวิน
อีกทั้งแซ่จื๋อจ้วนตั้งใจจะอวด จึงจงใจพูด “ดูดีมะ ตอนแรกฉันก็ไม่รู้เหมือนว่าทำไมตัวเองถึงได้ตาบอด ทำผิดต่อเค้า…..”
“อะไรนะ พี่สอง ทำไมฉันฟังไม่รู้เรื่อง?”
ซ่งอานลู่ฟังอย่างมึนงง
“ฮึ่ย นั่นน่ะ ลูกคนห้าของบ้านตระกูลหวา”
แซ่จื๋อจ้วนถอนหายใจ ได้แต่เกลียดตัวเองที่มีตาหามีแววไม่
“ลูกคนที่ห้าของตระกูลหวา? อืม…..พี่จะบอกว่า นั่นคือภรรยาคนใหม่ของพี่เจียงหยู่?”
เวลานี้ ซ่งอานลู่ก็เข้าใจทุกอย่างแล้ว
แซ่จื๋อจ้วนพยักหน้า
“แต่…พี่กับเธอ…ทำไมถึงอยู่ด้วยกันได้ล่ะ?”
ความสัมพันธ์ในตอนนี้ของเขาสองคน มันควรที่จะอึดอัดมากๆและทำไรไม่ถูกสิ?
ทำไมถึงมาที่โรงพยาบาลด้วยกันได้ล่ะ?
แซ่จื๋อจ้วนเป็นคนชอบคุยโวโอ้อวด เขายังพูดไปอีกว่า “เราสองคนมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน อย่างวันนี้เรานัดเจอกัน เธอเลี้ยงแมวอยู่ตัวนึง ไม่ทันระวังมันข่วนฉัน เธอก็รู้สึกไม่สบายใจจะพาฉันมาหาหมอให้ได้เลย เธอคิดดูสิผู้ชายที่แข็งแกร่งอย่างฉัน โดนข่วนนิดเดียวจะเป็นอะไรล่ะ แต่ผู้หญิงอ่ะนะเป็นปัญหาไปซะหมด……ฉันจะไม่มาเธอก็ร้องห่มร้องไห้บอกว่ากังวลฉัน ยังไม่พอ ยังให้เงินฉันไว้หมื่นนึง บอกให้ฉันซื้ออะไรอร่อยๆกิน ”
แซ่จื๋อจ้วนคุยอวดยกใหญ่ พอให้ตัวเองได้หนำใจ
แต่ซ่งอานลู่ฟังจบกลับรู้สึกอีกอย่างหนึ่ง
“ผู้หญิงคนนี้ดูไม่ใช่ว่าดูไม่มีราคาล่ะ? แต่งงานกับเจียงหยู่แล้ว ยังจะมาอ่อยพี่อีก….พี่สองฉันว่าผู้หญิงคนนี้ดูจะสร้างแต่ปัญหาให้คนอื่น พี่อย่าตามน้ำไปกับเธอนะ ”
เดิมทีก็มองว่าหวาเหวินไม่ค่อยดีอยู่แล้ว พอฟังแซ่จื๋อจ้วนพูดอย่างนี้
“พูดอะไรมั่วซั่ว เธอไม่เข้าใจ”
แซ่จื๋อจ้วนไม่ชอบฟัง น้องสาวของเขาคนนี้พูดถึงหวาเหวินไม่ถูก
“เอาเถอะ งั้นพี่ก็ระวังหน่อยละกัน ค่อยๆดูดีๆละกัน ฉันมีธุระอื่นอีกต้องไปก่อนนะ”
พอได้ข้อมูล ซ่งอานลู่ก็ออกมาจากโรงพยาบาล ก็รีบไปที่สำนักงานใหญ่ธนาคารส่วนบุคคลของตระกูลเจียง
ช่างบังเอิญอีก เจอเจียงหยู่หน้าประตูกำลังเดินเข้ามา
“พี่เจียงหยู่” ซ่งอานลู่ตรงไปหาเขา
เจียงหยู่มองไปที่เธอ “มีอะไรเหรอ?”
“ฉันมีเรื่องสำคัญจะบอกพี่” ซ่งอานลู่ตั้งใจทำท่าทางลับๆล่อๆ
“พูดมาเถอะ”
“พูดที่นี่ไม่สะดวก เราเปลี่ยนสถานที่ปะ?”เธอตั้งใจใช้เสียงทุ้มต่ำ ใบหน้าที่แสดงออกไม่ค่อยดีเท่าไหร่