ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ - ตอนที่ 54
ตอนที่ 54 หลงจนโงหัวไม่ขึ้น
พูดจบ เจียงหยู่ดื่มชาไปอึกนึง
“ฉันไม่เอา”
นิสัยแบบนี้ของหวาเหวิน เดิมทีการแต่งงานมันก็เป็นเพียงการแลกเปลี่ยนทางธุรกิจ เธอถึงไม่อยากจะเอาของคนอื่นโดยไม่มีเหตุผล
“งั้นก็ถือว่าฉันขายให้เธอละกัน” เจียงหยู่หัวเราะ
“ฉันไม่มีตังค์ซื้อ”
“งั้นให้เธอเช่า”
“เช่าไม่ไหว” หวาเหวินปฏิเสธ
“งั้นก็แล้วแต่เธอละกัน ยังไงรถก็เป็นชื่อเธอ เพิ่งมาส่งให้แล้วเมื่อกี้อยู่ในบ้าน เธอจะขับหรือไม่ขับก็ได้….ถ้ามันรกสายตาจะทุบทิ้งก็ไม่ว่า ไม่เป็นไรหรอก แล้วแต่ความสุขเธอ”
พูดจบ เจียงหยู่ก็ขึ้นบ้านไป
“นาย….”
หวาเหวินถูกทำให้อารมณ์เสีย ผู้ชายคนนี้กลั่นแกล้งเธอ ให้รถเค้า เค้าไม่เอาก็ไม่ได้เหรอ?
“คุณหนู ผมรู้สึกว่าคุณผู้ชายเค้าจริงใจที่จะให้คุณหนูนะครับ ที่จริงในโรงรถก็ยังมีรถสปอร์ต แต่คุณผู้ชายก็ยังซื้อออดี้ให้เหมาะกับบุคลิกคุณหนู พวกเราอย่าท่าทีห่างเหินเป็นพันไมล์กับคุณชายเลยดีไหมครับ?”
นี่เป็นครั้งแรกที่ชุนเถาพูดแทนใจเจียงหยู่ หากพิจารณาแล้วเรื่องนี้หวาเหวินทำเกินไปหน่อย
“ไม่มีคุณความดีก็ไม่ควรได้รับ ช่างเถอะ ค่อยหาเงินคืนเขาละกัน ก็ถือว่าฉันเป็นคนซื้อ” หวาเหวินถอนหายใจ
“คุณหนูคะ ทำไมฉันรู้สึกว่าคุณผู้ชายรู้เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้นะ คุณหนูคิดดูสิ เขารู้ว่าคุณโดนรถชน แล้วจะไม่รู้ว่าใครชนหรือ? แต่คุณผู้ชายก็ไม่ได้ถามนี่นา ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นก็ต้องถามหน่อยสิว่าคุณหนูกับคุณแซ่จื๋อจ้วนมีเรื่องอะไรไม่ใช่เหรอ?” หยินชิ่งนึกพวกนี้ขึ้นมา
“จะสนใจฉันทำไม เราสองคนก็ไม่ได้รักกันจริงซะหน่อย”
หวาเหวินยังรู้สึกว่าเจียงหยู่ไม่จำเป็นจะต้องหึงเลย เดิมทีก็ตกลงกันไว้แล้วว่าไม่ก้าวก่ายซึ่งกันและกันไม่ใช่เหรอ?
อีกอย่างเธอกับแซ่จื๋อจ้วนไม่มีอะไรเลย เค้าก็แค่คนที่ไม่มียางอายคนนึง อยากจะเข้าใกล้เธอ เลยมาลูบแมวเธอ? ไม่งั้นจะมีเรื่องที่เกิดขึ้นตามหลังมาได้ไง?
พอนึกถึงเรื่องนี้ หวาเหวินก็รู้สึกปวดหัว ผู้ชายนี้น่าปวดหัวจริงๆ
ณ วิลล่าส่วนตัวแซ่จื๋อจ้วน
แซ่จื๋อจ้วนโดนแมวข่วนแต่ในใจนั้นกลับรู้สึกดีมีความสุข
ทั้งยังถ่ายรูปเป็นที่ระลึก โพสลงโซเชี่ยลอีกด้วย
รูปมือที่โดนข่วนพร้อมข้อความว่า——เพิ่งจะรู้ว่าแมวเป็นสัตว์ที่น่ารักตัวนึงเลย
ไม่นานนัก โทรศัพท์เค้าก็ดังขึ้น
เป็นแซ่หลิง
“ว้าว พี่สอง นี่สาวที่ไหนข่วนพี่ได้ถึงขนาดนี้เนี่ย? สุดยอดเลย….”
“ผู้หญิงอะไรที่ไหน ไม่ได้ดูที่ฉันโพสหรือไงว่าแมว เป็นแมว”
แซ่หลิงหัวเราะใหญ่ “งั้นแมวนี่ตอนนี้โดนพี่นึ่งหรือว่าโดนตุ๋นแล้วล่ะ?”
“พูดบ้าอะไร ฉันเป็นคนโหดร้ายขนาดนั้นเลยเหรอ? แมวตัวนั้นมันดู….น่ารักมาก”
“ห่ะฮะ? ดูเหมือนไม่ใช่สไตล์พี่เลยนะ…คนโมโหร้ายอย่างพี่เนี่ยนะ ปกติแค่คนเหยียบเท้า ก็ระเบิดแล้ว แมวข่วนขนาดนี้ พี่ทนได้เหรอ?”
ประโยคนี้โดนประเด็นไปเต็มๆ
แซ่จื๋อจ้วนดีอกดีใจ “ถ้าเปลี่ยนเป็นแมวคนอื่น ก็คงทนไม่ได้ แต่ถ้าแมวหวาเหวิน ละเว้นไว้”
“เยสเข้…………….แมวของใครนะ?” แซ่หลิงประหลาดใจ
“แมวของหวาเหวิน”
“พี่สองบ้าไปแล้วเหรอ คือนี่เพราะพี่ไม่ได้เป็นเจ้าของเค้า ก็เลยไปจัดการแมวเค้าเหรอ? จะบอกให้นะ…ทำร้ายสัตว์ตัวน้อย ๆฟ้าไม่อาจทนได้ จะต้องประสบเคราะห์กรรมที่ทำไว้แน่นอน”
“แซ่หลิง แกจะเชื่อไหมถ้าตอนนี้แกอยู่ตรงหน้าฉัน ฉันสามารถอัดแกลอยได้ในครั้งเดียว?”
นี่สมองเป็นอะไรเนี่ย? คือจีบเจ้าของแมวไม่ได้แล้วมาจับแมวเค้าแทน?
เขาเป็นคนแย่ขนาดนั้นเชียว?
“ฮ่าๆๆๆๆๆ” ส่วนแซ่หลิงนั้นก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
“แซ่หลิงแกอย่ามาเกรียน พูดจริงๆ วันนี้ฉัน…กับหวาเหวินเราได้คุยกันแล้ว อืม ผู้หญิงคนนั้นเขามาอยู่ในใจฉัน…นับวันฉันยิ่งรู้สึกว่าเธอคือพรหมลิขิตของฉัน ”
“พี่สอง พี่กำลังหลงจนโงหัวไม่ขึ้นหรือเปล่าเนี่ย? พูดสามประโยคก็ไม่พ้นหวาเหวิน พี่อยากไปพบจิตแพทย์ไหม?”