ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ - ตอนที่ 61
ตอนที่ 61 เขาก็พอใช้ได้อยู่นะ
ที่จริงแล้วในใจของเจียงหยู่นั้นพออกพอใจอยู่ เพียงแต่ภายนอกที่แสดงออกมานิ่งๆเท่านั้น
เขาถือเสื้อคลุมมานั่งตรงหน้าหวาเหวิน “อา ไหนเธอลองบอกมาสิ”
“ฉันอยากจะไปเรียนที่มหาวิทยาลัยเจียงเฉิง แต่เพราะฉันไม่มีคุณสมบัติพอ ทางมหาลัยจึงไม่รับ”
“เดี๋ยวนะ…..เธอลองพูดใหม่ซิ ให้ผมชัดเจนอีกที”
เจียงหยู่นึกว่าตัวเองฟังผิดไป เลยให้หวาเหวินพูดซ้ำอีกครั้งนึง
“ฉันบอกว่า ฉันอยากเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยเจียงเฉิง”
“เธอ…อยากเข้าเรียน?”
“ใช่”
“เธออายุเท่าไหร่แล้ว?”
“22”
“คืออยากจะเข้าเรียนคลาสคนทำงาน?หลักสูตรกลางคืน?”
“ไม่ ฉันอยากเรียนหลักสูตรป.ตรีปกติ”
“อาเหวิน อย่าวุ่นวายเลย…..เธออายุ22แล้วนะ อีกอย่างคุณเองก็ไม่เคยเข้าสอบอะไรต่าง ๆเลยสักครั้ง” เจี่ยงอยู่รู้สึกว่ามันดูไม่มีแก่นสาร
หวาเหวินท่าทีสงบนิ่ง “ก็ประมาณนี้ ฉันถึงบอกว่ามันค่อนข้างยุ่งยาก ถึงอยากให้นายช่วย”
เจียงอยู่อดขำไม่ได้ “อาเหวิน ไหนลองบอกผมมาสิว่าทำไมถึงอยากเรียน?”
“อยู่บ้านเฉยๆน่าเบื่อ เหตุผลนี้ไม่พอเหรอ?” หวาเหวินไม่ค่อยชอบบอกความคิดภายในใจกับใครตรงๆ
ดังนั้นเธอจึงไม่ได้บอกกับเจียงหยู่ไปตามความจริงว่าเพราะอะไรถึงอยากเข้าเรียน
“อืม พอได้ ฉันขอคิดก่อน”
พูดไปพลางยืนขึ้นกดโทรศัพท์
ไม่ถึง10นาที เขาก็เดินกลับมา
“ได้ละ อาทิตย์หน้าเธอเตรียมบัตรประชาชนไปลงทะเบียนที่ห้องทะเบียนได้เลย……แต่ฉันมีเงื่อนไขอยู่ข้อนึง”
“ว่ามา”
หวาเหวินก็นึกว่า เขาจะถือโอกาสนี้คิดหวังผลจากตัวเธอซะอีก
“เธอจะนอนที่หอพักไม่ได้ จะต้องกลับมานอนบ้าน”
หวาเหวินงุนงง นี่ถือว่าเป็นเงื่อนไขเหรอ?
เธอก็ไม่คิดว่าจะพักที่หอพักอยู่แล้วนี่นา?
อยู่บ้านสบายขนาดนี้ ทำไมจะไม่อยู่ล่ะ อยู่อัดกับคนอื่นตั้งสี่คนในห้องเดียวกัน มันไม่ใช่นิสัยเธอซะหน่อย
แต่เธอก็ไม่อยากให้เจียงหยู่รับรู้ในสิ่งที่เธอคิด
จึงได้แต่ทำทีพยักหน้านิ่ง “ได้สิ”
“งั้นก็ไปเถอะ ยังไงที่บ้านก็มีรถ ฉันคิดว่าชุนเถาขับรถไม่เลวเลยนะ ไปรับ-ส่งเธอคงไม่มีปัญหาอะไร….ค่าเรียนอะไรเธอก็ไม่ต้องจ่าย ฉันจะจัดการเอง”
“ฉันจัดการเองดีกว่า”
“บอกแล้วไงว่าเธอไม่ต้องยุ่ง ท่านผอ.เขาเคยได้รับการช่วยเหลือบริจาคของบ้านเจียงเรา ทั้งหอสมุดเอย โรงหนังเอยล้วนแต่เป็นเงินที่ตระกูลเราบริจาคทั้งสิ้น กับแค่ภรรยาฉันไปเรียน เขาจะยังจะเก็บเงินอีกเหรอ?”
หวาเหวินใจชื่นขึ้น ปลื้มใจเป็นนิจ
ถึงแม้ว่าเรื่องนี้จะเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยก็เถอะ แต่เจียงหยู่ยินดีช่วยเธออย่างนี้ เธอคงต้องจดจำน้ำใจเขาที่มีต่อเธอไว้
เจียงหยู่ก้มมองดูนาฬิกาบนข้อมือตัวเอง “วางใจได้แล้วล่ะสิ รีบขึ้นนอนเถอะ ดึกแล้ว”
“ได้ นายก็พักผ่อนเร็วๆนะ”
หวาเหวินรู้สึกเกรงใจหน่อยๆ เธอลูกขึ้นและเดินขึ้นบ้านไป
เจียงหยู่หยิบคอมพิวเตอร์โน็ตบุคออกมา ยังคงทำงานต่อในห้องรับแขก
“หยินซิ่ง”
“คุณหนูว่าไงคะ”
“ทำน้ำเมล็ดบัวให้คุณผู้ชายด้วยนะ”
“ค่ะ หุหุ คุณหนูดูนับวันยิ่งใส่ใจคุณผู้ชายนะคะเนี่ย” หยินซิ่งพูดเล่นติดตลก
“อย่าพูดไปเรื่อย เป็นเพราะเขาช่วยฉันต่างหาก” หวาเหวินท่าทีเขินอาย
“รู้แล้วรู้แล้ว คุณไม่ต้องอธิบายค่า”
หวาเหวินไม่ได้พูดอะไรเยอะ บอกให้หยินซิ่งเอาของหวานไปเสิร์ฟ
หลังจากเธอเอนตัวนอนบนเตียง เธอยังคงนึกถึงเรื่องนี้อยู่
เจียงหยู่เขาก็เป็นคนดีอยู่นะ….อืม ก็ไม่เลว อย่างน้อยก็ดีกว่าแซ่จื๋อจ้วนปัญญาอ่อนนั้นหลายร้อยเท่านะ
โชคดีนะที่นายนั่นหนีงานแต่ง เธอถึงได้มาเจอกับเจียงหยู่
ทำให้หวาเหวินเต็มไปความปิติและผล็อยหลับไปอย่างสบายใจ
เช้าตรู่อีกวัน
เธอตื่นมาสายนิดหน่อย พอลงมาด้านล่างก็หกโมงห้าสิบไปแล้ว
เจียงหยู่ออกไปทำงานแล้ว
หวาเหวินนั่งทานอาหารเช้าเงียบๆอยู่คนเดียว
วีแชทของเจียงหยู่ก็เด้งขึ้นมา “อาเหวิน เมื่อวานฉันช่วยเธอแล้ว เธอจะตอบแทนฉันยังไงดี?”