ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ - ตอนที่ 65
ตอนที่ 65 หวาผิงได้รับบาดเจ็บ
เจียงหยู่ไม่ได้พูดอะไร แต่ค่อยๆเข้าไปใกล้ๆหวาเหวิน
และเขาก็ได้ค่อยๆยืนไหล่เข้าหาเธอ
หวาเหวินกอดรองเท้าที่ยายทำไว้แน่น เอาศีรษะไปซบลงบนไหล่เจียงหยู่และร้องไห้ออกมาเงียบๆ
ช่วงเวลานี้ ใจของเจียงหยู่รู้สึกเจ็บปวด
เพราะเขารู้ได้ว่าหวาเหวินพยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเองอยู่ ตกลงเธอผ่านเรื่องราวอะไรมากันแน่นะ?
ทำไมแม้แต่ร้องไห้ยังต้องข่มอารมณ์ไว้
“ที่จริง…เธอร้องไห้ปล่อยเสียงมาก็ได้นะ ฉันไม่หัวเราะเยาะคุณหรอก” เธอกล่าว
หวาเหวินยังคงไร้ซึ่งเสียง แต่เสื้อเขาเปียกโชกไปด้วยน้ำตา
3นาทีผ่านไป หวาเหวินเงยหน้าขึ้น
เจี่ยงหยู่ส่งทิชชู่ให้เธอ
หวาเหวินเช็ดคราบน้ำตาบนใบหน้า “ไม่อยากให้ใครเห็น แล้วก็ไม่อยากให้คุณยายได้ยินด้วย”
เธอพูดจบ ทำให้เขายิ่งปวดใจ
ค่ำคืนนี้ หวาเหวินและเจียงหยู่ยังไม่กลับไป
สองคนอยู่เป็นเพื่อนคุณหญิงทั้งคืน จนฟ้าสางเห็นว่าคุณหญิงท่านอาการดีขึ้น
หวาเหวินจึงวางใจและกลับไป ก่อนกลับเธอยังคงดูคุณหญิงท่านทานโจ๊กอยู่2-3คำ
เจียงหยู่ขับรถพาหวาเหวินมาส่งที่สุ่ยยู่เก๋อที่เฟิงหวานลี่
จากนั้นตัวเองก็ไปทำงาน
“คุณหนู คุณหญิงท่านเป็นอย่างไรบ้างคะ”ชุนเถาและหยินซิ่งต่างก็กังวลใจ
“อาการไม่สู้ดีเท่าไหร่นัก แต่….ยังดีที่ดีขึ้นมาแล้ว หมอบอกว่าอาการตอนนี้ถือว่าคงที่อยู่…….”
“สีหน้าคุณหนูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ อดนอนทั้งคืนคงเหนื่อยแย่ คุณหนูทานอะไรก่อนแล้วพักผ่อนนะคะ”
สองคน คนนึงเตรียมน้ำอุ่นให้หวาเหวินไว้อาบ
ส่วนอีกคนทำซุปพุทราลำใยไปส่งให้ในห้องของเธอ
หวาเหวินหลับไปพักนึง
ช่วงประมาณ11โมงเช้าก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นปลุกเธอ
เป็นสายของหวาเซียงพี่ใหญ่ ตอนเธอรับโทรศัพท์ใจของเธอเต้นแรง
กลัวว่าจะเป็นข่าวร้ายของคุณยายที่สุด
“น้องห้า พี่สามเธอเกิดเรื่องแล้ว”
“ฮะ?”
หวาเหวินคิดไม่ถึง
เมื่อคืนหวาผิงยังมาดูคุณยายอยู่เลย ทำไมวันนี้ถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้?
“พี่ใหญ่ เกิดอะไรขึ้นกับพี่สามเหรอ?” ถึงแม้ว่าไม่ค่อยมีสัมพันธ์ที่กันซักเท่าไหร่นัก แต่เป็นพี่น้องท้องเดียวกัน เธอก็ยังเป็นกังวลอยู่มาก
“ช่วงเช้าวันนี้มีฉากขี่ม้า นางล่วงจากม้า ซี่โครงหักสองซี่ ตอนนี้รักษาตัวอยู่โรงพยาบาล”
“เอ่อ…….”
หวาเหวินถอนหายใจ คลื่นลูกเก่ายังไม่ทันสงบ คลื่นลูกใหม่มาอีกแล้ว ปีนี้ถือได้ว่าเป็นปีที่แย่จริงๆสำหรับตระกูลหวา
ธุรกิจก็ไม่ค่อยดี รวมถึงคุณหญิงท่านก็ป่วย แล้วหวาผิงยังจะตกม้าอีก เรื่องราวอะไรก็ช่างมารวมกันทีเดียวเลย
“ทุกคนไปโรงพยาบาลหมดแล้ว แม่ให้ถามว่าเธอจะมามั้ย?”
หวาเซียงรู้ดีว่าแต่ละคนอยู่ไม่ไกลนัก ถึงได้ไม่มั่นใจว่าเธอจะมาหรือไม่
แต่ยังไงก็ต้องแจ้งข่าวสารให้ทราบ ไม่มีเหตุผลอื่น เป็นเพราะตอนนี้เธอมีศักดิ์เป็นคุณนายของบ้านตระกูลเจียง
หลังมีศักดิ์นี้ขึ้น ฐานะหวาเหวินที่อยู่บ้านตระกูลหวาก็สูงขึ้นมากกว่าเดิม
หวาเหวินเองก็รู้ดี เพราะยังไงก็ต้องรักษาหน้าตาของบ้านเจียง
“ขอดูสถานการณ์ก่อนนะ”
ลักษณะคำพูดก็ไม่ได้รุนแรงอะไร และหวาเหวินเองก็ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าไปหรือไม่ไป
ไม่ใช่เพราะสัมพันธไมตรีระหว่างพี่-น้องดีหรือไม่ดี หวาผิงกับหวาเหวินไม่ค่อยได้มีอะไรต่อกับไม่ดีเท่าไหร่
ที่เธอคิดอยู่คือหวาผิงเป็นดารา พอได้รับบาดเจ็บ โรงพยาบาลเปิดตลอด24ชั่วโมง ยังไงก็ต้องมีปาปารัสซี่แอบซุ่มอยู่แน่
อีกอย่างคนที่ไปเยือนก็คงจะมากหน้าหลายตา แฟนคลับบ้างล่ะ ผู้จัดบ้างล่ะ แล้วก็พวกเพื่อนในวงการบันเทิงอีก
พอนึกถึงตรงนี้แล้ว หวาเหวินก็ไม่แน่ใจแล้ว
ตกบ่ายของวัน
แซ่จื๋อจ้วนไปเยี่ยมหวาผิงที่โรงพยาบาล อีกทั้งยังเอาช่อดอกไม้พร้อมกระเช้าผลไม้ด้วยความจริงใจอันเต็มเปี่ยม
แต่ประเด็นคือหวาผิงกับแซ่จื๋อจ้วนไม่เคยสนิทสนมกันมาก่อน คุยกันแค่ไม่กี่ประโยค
พอได้เห็นแซ่จื๋อจ้วน หวาผิงก็รู้สึกประหลาดใจอย่างมาก
“นี่ลมที่ไหนพัดคุณชายแซ่มาถึงนี่ล่ะเนี่ย?” หวาผิงเอียงศีรษะมองแซ่จื๋อจ้วนยิ้มๆ