ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ - ตอนที่ 75
ตอนที่75ที่พักพิงของเธอ
เมื่อเจียงหยู่เอ๋ยปากก็อุดปากของทุกคนไปอย่างเนิบๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อยกเรื่องสินสอดขึ้นมาพูดทั้งหมดต่างก็ปิดปากเงียบ
สินสอดทองหมั้นถูกหวาเจิ้นเยว่ฮุบไปจริงๆแม้แต่เหล่าลูกสาวก็ไม่มีให้
ห้าร้อยล้านไม่ต้องพูดถึงหรอกถึงอย่างไรตระกูลหวาเองก็ให้ที่ดินสาบเซียนหนุมาแล้ว
แต่เมื่อเจียงหยู่อยู่ในตระกูลหวาเขาเป็นคนที่มีน้ำหนักมากเพราะเขาเป็นตัวแทนของตระกูลเจียง
ถ้าล่วงเกินเขาต้องไม่เป็นผลดีแน่ๆ
พูดขนาดนี้ถ้าเจียงหยู่อยากจะกลั่นแกล้งใครมันก็เป็นเรื่องที่ง่ายมาก
ถึงคุณจะเป็นนักเจรจาธุรกิจแต่ประโยคเดียวก็สามารถทำให้คุณล้มเหลวไม่เป็นท่าได้
ดังนั้นพวกเขาจึงค่อนข้างกลัวเจียงหยู่
เห็นได้ชัดว่าประโยคนี้ของเจียงหยู่มีเจตนาปกป้องภรรยาใครจะไปกล้าพูดอะไรได้ละ?
เมื่อเห็นเจียงหยู่พูดแบบนี้หวาผิงจึงยิ้มออกมาจากนั้นก็พูดอย่างประนีประนอมออกไปว่า“ไอหยาพวกเธอแต่ละคนก็ไม่ได้ยากจนข้นแค้นขนาดนั้นจิตคนไม่รู้จักพอเหมือนงูกลืนช้างมากแค่ไหนถึงจะพอละ?หยุดกันได้แล้วมั้ง?น้องห้าเป็นคนที่คุณย่าเลี้ยงดูมาหลายปีมานี้คอยปรนนิบัติดูแลมากกว่าพวกเราด้วยซ้ำได้สมบัติไปย่อมเป็นเรื่องธรรมดา…..เอาละฉันง่วงละขอตัวไปนอนก่อนอาการบาดเจ็บยังไม่ฟื้นตัวไม่อยู่กับพวกพี่ๆที่นี่ละ”
หวาผิงยืนขึ้นพร้อมกับทำท่าง่วงหงาวหาวนอน……
หวาฟ้านก็ตามไปติดๆ“พวกเธอตามสบายเถอะถึงอย่างไรฉันก็ไม่อยากได้อะไรทั้งนั้น”
พูดจบก็เดินจากไปเธอไม่อยากได้ของเหล่านี้จริงๆเธออยากใช้ชีวิตเหมือนคนธรรมดาเท่านั้นเงินทองมากมายสำหรับเธอแล้วเป็นแค่ตัวเลขเท่านั้น
พี่สามและพี่สี่ต่างก็เดินไปแล้วถ้าขืนอยู่พัวพันต่อไปละก็ยังไงก็คงจะคุยกันไม่รู้เรื่อง
หวาซวงและหวาหรุงเองก็ไม่พูดอะไรให้มากความอีก
ทำได้เพียงแค่ยืนขึ้นแล้วหมุนตัวเดินจากไปแต่สามีของหวาซวงหลิวเด๋อข่ายได้สร้างประทับใจแรกให้แก่เจียงหยู่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก
ในฐานะที่เป็นสามีพี่ใหญ่ของตระกูลหวานับว่าเป็นผู้อาวุโสพูดจาบังคับขู่เข็ญได้ขนาดนี้
ย่อมต้องเห็นเงินเป็นพระเจ้านี่ยังไม่ถือว่ารังแกหวาเหวินที่อายุน้อยกว่าอีกเหรอ?
ไม่คิดถึงครอบครัวสักนิดคนประเภทนี้หลังจากนี้ไม่ต้องสนใจน่าจะดีที่สุด
ทุกคนเดินกลับออกไปเกือบหมดแล้วเหลือเพียงหวาเหวินเจียงหยู่แล้วก็สามีภรรยาตระกูลหวาเท่านั้น
หวาเหวินจึงเอ๋ยปากขึ้นทันใด“รถเบนท์ลีย์ของคุณย่าหนูให้พ่อนะคะ”
หวาเจิ้นเยว่โปรดปรานของเหล่านี้เป็นที่สุดถึงอย่างไรมันก็เป็นแค่รถราคาหลายล้าน
จากนั้นหวาเหวินก็มองไปทางแม่ก่อนจะพูดขึ้นว่า“ส่วนเครื่องเพชรของคุณย่าแม่รับไว้เถอะหนูไม่ต้องการบางส่วนก็รุ่นเก่าไปแล้ว”
“อื้อได้ๆ”คุณนายหวาตาประกายทันทีทันใดมันง่ายขนาดนี้เลยเหรอ?
เมื่อสักครู่บีบบังคับแทบตายเธอก็ไม่ยอมยกให้?
ตอนนี้กลับเอ๋ยปากให้ซะเองหมายความว่าอย่างไร?
พวกพี่บังคับฉันฉันว่ามันไม่ยุติธรรมฉันต้องเป็นฝ่ายยินยอมเองถึงจะถูกต้องพูดให้ชัดก็คือหวาเหวินรู้สึกโมโหจริงแต่ก็ไม่ใช่เด็กอมมืออ่อนข้อแต่อย่างใด
ถ้าเมื่อสักครู่ถูกพวกเธอบีบบังคับเอาไปพวกเขาก็จะคิดว่าสมเหตุสมผลแล้ว
แต่ตอนนี้มันกลับแตกต่างหวาเหวินเอ๋ยปากให้เองพวกเขาก็ต้องซาบซึ้งในพระคุณอย่างยิ่งดังนั้นพูดได้ว่าคนเราเป็นสิ่งมีชีวิตที่มหัศจรรย์มากจริงๆ
เครื่องเพชรสองกล่องรถเบนท์ลีย์ต่างก็ให้พวกเขาไปหมดแล้วหวาเหวินไม่ได้แคร์มากมายนัก
แต่เธอต้องได้อยู่ในวิลล่าภูเขาจงชุ่ยต่อนั้นเป็นสถานที่แห่งเดียวที่ทำให้เธอสามารถระลึกถึงคุณย่าได้และก็เป็นสถานที่ที่เธออยู่มาตั้งแต่เด็กๆจนเติบใหญ่
เมื่อกลับไปพักผ่อนก็เป็นเวลา5ทุ่มครึ่งแล้ว
ตระกูลหวาได้เตรียมห้องไว้เพียงห้องเดียวเจียงหยู่และหวาเหวินต้องอยู่ในห้องพักแขกสองต่อสอง
“วันนี้ขอบคุณมากนะ”เธอมองไปทางเขาแล้วพูดขึ้นด้วยความจริงใจ
เจียงหยู่มองไปทางเธอด้วยสายตาที่อบอุ่น
เขาพูดว่า“เหวินเหวินไม่ต้องกลัวนะถึงคุณย่าจะไม่อยู่แล้วแต่หลังจากวันนี้เป็นต้นไปฉันจะเป็นที่พักพิงของเธอเอง”
หวาเหวินนึกไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบนี้จึงไม่รู้ว่าต้องทำตัวอย่างไร
เพราะตั้งแต่เล็กจนโตไม่เคยมีผู้ชายมาพูดจาอบอุ่นกับเธอแบบนี้มาก่อน
และอีกอย่างสิ่งที่เธอไม่กล้าคิดด้วยก็คือตระกูลหวาที่มีความสัมพันธ์กันทางสายเลือดกับตัวเองล้วนแต่ทำท่าทางเย็นชาทั้งนั้นแต่เจียงหยู่คนที่ไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับเธอแต่อย่างใดคนนี้กลับยอมเป็นที่พักพิงให้เธอไปตลอดชีวิตอย่างนั้นเหรอ?