ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 2425 จู่โจมหัวใจ + ตอนที่ 2426 บุญคุณความแค้นในอดีต
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- บทที่ 2425 จู่โจมหัวใจ + ตอนที่ 2426 บุญคุณความแค้นในอดีต
ตอนที่ 2425 จู่โจมหัวใจ
เหมยเหมยถึงค่อยสบายใจหน่อย เธอจุ๊บแก้มเล่อเล่อทีหนึ่งแล้วพูดเสียงอ่อนโยนว่า “ลูกรัก พ่อเขาช่วยหนูจัดการพวกคนเลวแล้วนะ ไม่มีใครกล้ามาทำร้ายเล่อเล่อแล้ว!”
“แอ๊ะ…”
เล่อเล่อหมุนกลอกตาลูกตาอย่างรวดเร็วแล้วหูตั้งผึ่ง
มีคนร้ายอยู่ไหน?
ไม่ต้องให้คุณพ่อลงมือเธอก็จัดการเองได้!
จะตีให้ตายเลย!
พอเหยียนหมิงซุ่นเห็นสีหน้าของลูกสาวมีหลากหลายอารมณ์ก็เดาใจของเธอได้จึงยิ้มเอ่ย “เล่อเล่อจะถูกคนร้ายรังแกได้อย่างไร? เธอไม่รังแกคนอื่นก็ไม่เลวแล้ว!”
นักฆ่ามือฉกาจสามคนยังทำอะไรลูกสาวตัวอ้วนของเขาไม่ได้ อนาคตโตขึ้นไปเกรงว่าจะซนยิ่งกว่าลิง!
เทียบกับการถูกคนร้ายรังแก เขากลับกังวลว่าต้องคอยตามเช็ดตามล้างให้ลูกสาวมากกว่า!
“แอ๊ะ…”
เล่อเล่อส่งเสียงร้องอย่างดีใจแล้วพยักหน้าศีรษะไม่หยุด พ่อของเธอฉลาด แม่จอมซื่อบื้อมักคิดว่าเธอเป็นกระต่ายตัวน้อยอยู่เรื่อย
เหอะ!
เธอเป็นถึงจักรพรรดินีเชียวนะ!
หลังจากเหยียนหมิงซุ่นนอนหลับเต็มอิ่มที่บ้านตื่นหนึ่งเช้าวันรุ่งขึ้นก็ออกไปอีกแล้ว
แม้จะจับตัวสวีหล่างได้สำเร็จแต่เรื่องราวยังไม่จบ สวีหล่างเป็นเพียงคนนำทีมประจำเมืองหลวงตัวเล็ก ๆคนหนึ่งของหัตถ์พระเจ้าเท่านั้น เขาได้ให้เหยียนหมิงต๋าติดต่อกับตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศไปแล้ว จากนั้นก็ตามรอยของสวีหล่างเพื่อตามหาสำนักงานใหญ่ของหัตถ์พระเจ้า
เนื่องจากหัตถ์พระเจ้าได้ก่อคดีไว้ทั่วโลกทำให้ตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศอยากกำจัดก้อนมะเร็งนี้ทิ้งตั้งนานแล้ว เพียงแต่หัตถ์พระเจ้าทำงานลึกลับซับซ้อนจนกระทั่งตอนนี้ก็สืบเสาะหาความคืบหน้าไม่ได้สักนิด คราวนี้สาขาของหัตถ์พระเจ้าที่ฮวาเซี่ยถูกชำระล้างไปแล้วซึ่งบอกได้เลยว่าเป็นผลเก็บเกี่ยวที่สำคัญที่สุดในหลายปีมานี้เลย
สิ่งที่เหยียนหมิงซุ่นจะทำในตอนนี้ก็คือง้างปากของสวีหล่างเพื่อเค้นข้อมูลของหัตถ์พระเจ้ามากกว่านี้
ขณะเดียวกันเขาก็อยากรู้ว่าทำไมเมื่อสิบปีก่อนสวีหล่างต้องฆ่าเหอฮุยด้วย?
ปริศนาข้อนี้ตามรังควานเขาไม่เลิก หากไม่ถามให้รู้เรื่องเขาคงไม่มีวันสบายใจ
สวีหล่างมีร่างกายที่สูงใหญ่กำยำแขนยาวขายาว เป็นคุณสมบัติเฉพาะตัวของนักกีฬาว่ายน้ำ
เพียงแต่ใบหน้าของเขาออกจะดูขัดไปสักนิด เหยียนหมิงซุ่นเคยเห็นรูปถ่ายเก่า ๆของเขา ในอดีตเขามีหน้าตาซื่อ ๆไม่เป็นที่เตะตาเท่าไร ไม่มีความโดดเด่นเมื่อยืนอยู่ท่ามกลางผู้คนอย่างแน่นอน
แต่ตอนนี้สวีหล่างกลับคิ้วเข้มตาคม จมูกโด่งเป็นสัน รูปหน้าทรงเหลี่ยมที่หล่อเหลาเอาการอย่างมาก เพียงแต่บุคลิกของเขากลับดูห่อเหี่ยวไม่เข้ากับหน้าตาที่แสนดูดีของเขาเลย
สวีหล่างถูกขังอยู่ในห้องเดี่ยวที่ดูเงียบสงบ พอเห็นเหยียนหมิงซุ่นก็ไม่แม้แต่จะเชยตาขึ้นมอง
“ยังจำครูฝึกทังได้ไหม?” เหยียนหมิงซุ่นถามขึ้นกะทันหัน
ร่างกายของสวีหล่างสั่นเทิ้มเล็กน้อย เหยียนหมิงซุ่นยิ้มร่าในใจ เขาเดาไว้ไม่มีผิด ต่อให้เป็นคนที่ชั่วร้ายเลวทรามเพียงใดก็มักมีคนที่สนใจในมุมหนึ่งของหัวใจเสมอ
ครูฝึกทังก็คือคนที่สวีหล่างให้ความสนใจ
เพราะสวีหล่างสูญเสียคุณพ่อไปตั้งแต่เด็ก ที่บ้านมีพี่น้องอยู่หลายคนอีกทั้งเขายังมีหน้าตาเรียบ ๆไม่โดดเด่นและไม่มีไหวพริบอะไรจึงไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบของคุณแม่จนมักถูกมองข้ามเสมอ หากไม่ใช่เพราะเขาบังเอิญถูกโรงเรียนกีฬาประจำเมืองคัดเข้าเรียน ไม่แน่เขาอาจจะใช้ชีวิตธรรมดาแสนลำเค็ญเหมือนชายส่วนมากในหมู่บ้านเดียวกัน
สวีหล่างถูกคัดเข้าโรงเรียนกีฬาประจำเมืองตั้งแต่อายุเก้าขวบ อายุสิบสองปีก็ได้ถูกคัดเข้าทีมประจำเมืองเป็นข้อกรณียกเว้นเพราะผลการสอบที่ยอดเยี่ยม ครูฝึกทังก็คือครูฝึกของเขาในขณะนั้นพอดีจึงดูแลสวีหล่างตั้งแต่อายุสิบสอบปีจนถึงอายุสิบเก้าปี
ภายในใจสวีหล่างครูฝึกทังเปรียบดั่งคุณพ่อที่ยึดครองตำแหน่งสำคัญสูงสุด
เพียงแต่สวีหล่างเจ้าเล่ห์ เขาจึงยังไม่ปริเสียงใด ๆ
เหยียนหมิงซุ่นหยิบรูปถ่ายช่วงนี้ของครูฝึกทังออกมาจากกระเป๋า ชายวัยกลางคนจากแผ่นดินทางเหนือที่อายุเพิ่งจะผ่านครึ่งร้อยแต่กลับดูแก่เฒ่ากว่าคนวัยเดียวกันมากโข ผมขาวไปเกือบครึ่งศีรษะและหลังที่ดูค่อมไปแล้ว รวมถึงหน้าตาที่ดูขี้โรคด้วย
สวีหล่างใจกระตุก ครูฝึกในความทรงจำที่มักดูเต็มไปด้วยชีวิตชีวาและมีพลังเต็มเปี่ยมอยู่เสมอ นี่เพิ่งผ่านไปสิบปีทำไมครูฝึกถึงได้แก่ลงขนาดนี้?
“รู้ไหมว่าทำไมครูฝึกถึงแก่ขนาดนี้?” เหยียนหมิงซุ่นจงใจถาม
………………………
ตอนที่ 2426 บุญคุณความแค้นในอดีต
ถึงสวีหล่างไม่ได้พูดอะไรแต่สายตาของเขากลับสื่อความหมายว่าเขาอยากรู้
“เพราะเรื่องที่แกทำไว้เมื่อสิบปีก่อน ตอนนั้นแกหนีไปทั้งอย่างนั้น ครูฝึกทังเลยถูกโรงเรียนกีฬาประจำเมืองไล่ออกโทษฐานดูแลนักเรียนไม่ดี พอเสียงานไปเขาก็ต้องไปทำงานชั่วคราว เงินที่หาได้พอจะประทังชีวิตได้แต่บวกกับความรู้สึกผิดที่เขาไม่ได้ดูแลแกกับเหอฮุยให้ดีทำให้สภาพจิตใจแย่ทรมานมาตลอดสิบปี แล้วจะไม่แก่ลงได้อย่างไร?”
เหยียนหมิงซุ่นมองเขาด้วยสายตายเย็นชา
เขาไม่ได้โกหก ตอนนั้นเกิดผลกระทบในระดับนานาชาติด้วย พอตามจับสวีหล่างไม่ได้ทางเมือง f ก็ระบายความโกรธที่ครูฝึกทัง ไล่เขาออกโดยไม่เกริ่นนำอะไรทั้งนั้น
ครูฝึกทังต้องทำงานชั่วคราวเพื่อหาเงินเลี้ยงครอบครัวทั้งเจียดเงินส่งให้ครอบครัวเหอฮุย เพราะเขาคิดว่าเขาอบรมสั่งสอนสวีหล่างไม่ดีพอถึงทำให้ครอบครัวเหอสูญเสียลูกชายคนหนึ่งไป
ด้วยความกดดันในชีวิตบวกกับสภาพจิตใจที่ทุกข์ทรมานทำให้ชายวัยกลางคนผู้นี้สุขภาพทรุดลงอย่างรวดเร็ว
“ฉันจะบอกแกอีกว่าปีที่แล้วครูฝึกทังตรวจเจอว่าเป็นโรคมะเร็งกระเพาะระยะสุดท้าย แต่เขาไม่มีเงินรักษาเลยได้แต่รอความตาย เมื่อสามวันก่อนครูฝึกทังเสียชีวิตคาบ้าน ก่อนตายเขาฝากฉันถามแกว่าเหตุผลที่แท้จริงที่แกฆ่าเหอฮุยคืออะไร แบบนี้เขาถึงจะตายตาหลับ!”
สวีหล่างกล้ามเนื้อบนใบหน้ากระตุกไม่หยุด ความรู้สึกในใจพลั่งพรูออกมา
เขาไม่เชื่อคำพูดของเหยียนหมิงซุ่นอยู่แล้ว ร่างกายของครูฝึกทังแข็งแรงยิ่งกว่าวัว มื้อหนึ่งกินข้าวได้ตั้งสามชามใหญ่แล้วจะป่วยเป็นโรคมะเร็งกระเพาะได้อย่างไร?
ต้องหลอกเขาแน่ ๆ!
เหยียนหมิงซุ่นเอาผลตรวจของครูฝึกทังจากกระเป๋าออกมาแล้วยื่นส่งไปให้ “แกดูเองแล้วกัน คนอย่างฉันไม่เอาชีวิตคนมาล้อเล่นหรอก”
นอกจากผลตรวจจากทางโรงพยาบาลแล้ว ยังมีจดหมายฉบับหนึ่งที่ครูฝึกทังเขียนเอง ตัวหนังสือบิด ๆเบี้ยว ๆแต่กลับเป็นลายมือที่สวีหล่างคุ้นเคยดี
เขากัดฟันแน่นไม่ให้ตัวเองส่งเสียงร้องออกมา
“ครูฝึกตายแล้วจริงเหรอ?” สวีหล่างอ่านจดหมายจบและในที่สุดก็ปริปากถามด้วยเสียงแหบพร่า
“ใช่ เมื่อสามวันก่อน เผาศพเอาเถ้ากระดูกไปฝังแล้ว”
เหยียนหมิงซุ่นไม่ได้บีบบังคับสวีหล่าง หมอนี่เจ้าเล่ห์ปานสุนัขจิ้งจอก จะไล่ต้อนเกินไปไม่ได้ ฉะนั้นต้องค่อย ๆรอไป
ผ่านไปครู่ใหญ่สวีหล่างก็ยังไม่ได้ปริปากเอ่ยอะไร ภายในห้องมีเพียงเสียงลมหายใจของพวกเขาทั้งคู่
……
“ตลอดเวลาที่ผ่านมาความฝันของฉันก็คือได้แข่งขันระดับโลกเพื่อเอาเหรียญรางวัลมาให้ประเทศ นำเกียรติยศมาให้ครูฝึก ให้แม่ทึ่งในตัวฉัน!”
สวีหล่างเล่าอย่างช้า ๆเอ่ยถึงชีวิตการฝึกซ้อมในอดีตของเขา
พอจะดูออกว่าเขาพึงพอใจกับชีวิตในอดีตอย่างมาก มุมปากจุดยิ้มตลอดเวลา ใบหน้าไม่ได้ดูเศร้าอย่างเดิมอีก
“ในเมื่อเป็นเช่นนั้นทำไมแกถึงฆ่าเหอฮุยทำลายอนาคตตัวเองล่ะ? ครูฝึกทังบอกแล้วว่าที่จริงตอนนั้นแกต่างหากที่มีความเป็นไปได้ในการเข้าทีมชาติมากที่สุด” เหยียนหมิงซุ่นถาม
“เพราะมันสมควรตาย!”
สวีหล่างสีหน้าดุดันขึ้นพลางสบถหยาบเบา ๆ
“เหอฮุยทำเรื่องไม่น่าให้อภัยอะไรไว้งั้นเหรอ?” เหยียนหมิงซุ่นแปลกใจและเดาไม่ออกจริง ๆว่ามีความแค้นอะไรที่หนักหนาจนต้องฆ่าแกงกันเลยทีเดียว?
สวีหล่างพูดเสียงคับแค้นใจ “เหอฮุยคิดจะร่วมมือกับเจ้าทานากะนั่นทำร้ายฉัน ฉันแค่ปกป้องตัวเองเท่านั้น”
เหยียนหมิงซุ่นฟังที่สวีหล่างเล่าก็รู้สึกหดหู่ใจเหลือเกิน
ที่แท้ไม่รู้ว่าเหอฮุยไปสมคบคิดกับนักกีฬาชาวญี่ปุ่นคนนั้นได้อย่างไร พวกเขาแอบวางแผนลอบทำร้ายสวีหล่างเพื่อไม่ให้เขาว่ายน้ำได้อีก สวีหล่างรู้ทันแผนชั่วร้ายของพวกเขาจึงทำให้เขาที่มีจิตใจคับแคบเป็นทุนเดิมอยู่แล้วพลั้งมือฆ่าพวกเขาสองคนไปในทันทีภายใต้อารมณ์ชั่ววูบ
จากนั้นก็เริ่มต้นการหนีเอาชีวิตรอดของสวีหล่าง
“แล้วตอนนั้นทำไมแกถึงหนี? แกอธิบายได้นี่นา”
สวีหล่างมองเขาอย่างเย้ยหยัน “แกคิดว่าฉันอธิบายอะไรได้งั้นเหรอ? ถ้าต้องชดใช้ให้ประเทศญี่ปุ่นฉันคงไม่มีทางรอดแน่ ๆ ถ้าไม่หนีเอาตัวรอดแล้วจะให้รอตายหรือไง?”
“ฉะนั้นนี่ก็คือเหตุผลที่แกทำร้ายคนอื่นเหรอ? ผู้หญิงกับเด็กที่ถูกแกทำร้ายเกี่ยวอะไรด้วย!”
“หากฉันไม่ทำร้ายคนอื่น คนอื่นก็ต้องทำร้ายฉัน ฉันแค่ปกป้องตัวเองเท่านั้น อย่าพล่ามนักเลย ในเมื่อตกอยู่ในเงื้อมมือของแกแล้ว ฉันก็ไม่คิดจะมีชีวิตรอดออกไปจากที่นี่ ฆ่าฉันให้จบ ๆไปเลยเถอะ!”
สวีหล่างพูดด้วยสีหน้าเรียบนิ่งที่ดูจะไม่สะทกสะท้านกับความเป็นความตายแล้ว
……………