ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 2981 ไม่มีสัตว์ + ตอนที่ 2982 อันที่จริงก็เป็นแค่ค่ายกล
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- บทที่ 2981 ไม่มีสัตว์ + ตอนที่ 2982 อันที่จริงก็เป็นแค่ค่ายกล
ตอนที่ 2981 ไม่มีสัตว์
“ดอกไม้ต้องคำสาปงั้นเหรอ? จริงหรือเนี่ย?” เล่อเล่อมุ่นคิ้ว คำสาป…ฟังแล้วรู้สึกไม่ดีจัง อีกอย่างดอกไม้สีดำมักให้ความรู้สึกไม่เป็นมงคลเท่าไหร่ด้วย
“เป็นเรื่องจริง ดอกลิลลี่สีดำถูกสื่อในแง่คำสาปจริง ๆ”
เสี่ยวจูยื่นคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กประมาณหนึ่งฝ่ามือซึ่งใหญ่กว่าโทรศัพท์มือถือเล็กน้อยมาให้ นี่เป็นคอมพิวเตอร์ที่เขาประกอบขึ้นเองและฟังก์ชั่นต่าง ๆประสิทธิภาพดีกว่าสิบเท่า ไม่เพียงแต่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ได้เท่านั้น สิ่งที่วิเศษกว่านั้นก็คือคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กนี่ติดตั้งอุปกรณ์เปลี่ยนถ่ายพลังงานไว้ด้วย
ขอแค่ร่างกายอยู่ในระหว่างการเคลื่อนไหว อุปกรณ์เปลี่ยนถ่ายพลังงานก็จะแปรเปลี่ยนพลังงานมาเป็นแบตพลังงานไฟฟ้า ถ้าแม้พลังงานจะไม่มากนักแต่ก็เพียงพอให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้
คอมพิวเตอร์ขนาดเล็กเครื่องนี้เหมือนดาวเทียมระบุตำแหน่ง แถมเสี่ยวจูยังผูกติดกับดาวเทียมที่สุดยอดที่สุดไว้อีก ต่อให้เขาโผล่ไปขั้วโลกเหนือก็จะมีภาพถ่ายระหว่างเขากับหมีขั้วโลกเหนือ อีกทั้งยังส่งไปทุกประเทศทั่วโลกเพียงระยะอันสั้นด้วย
ดังนั้น…ถึงแม้จะอยู่ในป่าลึก เสี่ยวจูก็ยังคงใช้ไป๋ตู้ค้นหาสารพัดสิ่งได้อยู่ดี
เล่อเล่อรับคอมพิวเตอร์มา พอเห็นคำอธิบายของดอกลิลลี่สีดำด้านหน้า ฉับพลันอารมณ์ก็เปลี่ยนไปกลายเป็นเศร้าใจแทน
“หนิงเฉินเซวียนปลูกดอกลิลลี่สีดำพวกนี้หมายความว่าไงกันแน่? ดูท่าคงเป็นเรื่องเศร้าใจแฮะ!”
เน่าเน่าไม่สนใจเรื่องนี้สักนิด เขาวิ่งไปขุดเอาดอกลิลลี่มาอีกกำหนึ่งโดยไม่แม้แต่จะเอาดินออกแล้วโยนเข้าไปในกองไฟ “จะคิดอะไรเยอะแยะ ฉันหิวจะตายอยู่แล้ว กินให้อิ่มท้องก่อนสำคัญที่สุด”
“พี่เน่าเน่า ฉันยังมีแฮมกระป๋องอยู่ ฉันเอาให้พี่กินนะ” สือเอ้อร์หยิบแฮมกระป๋องมาจากกระเป๋าแล้วส่งให้เน่าเน่าพร้อมยิ้มหวาน
“อันนี้ดีเลย พวกเรากินด้วยกัน” เน่าเน่าดวงตาลุกวาว แค่มีเนื้อก็พอแล้ว
เสี่ยวเป่าเผาหัวดอกลิลลี่อย่างช้า ๆเหมือนเผามันเทศป่าก็ไม่ปาน เขาโยนมันเข้ากองไฟรอจนสุกทั่วก็เป็นอันใช้ได้ ในหัวของดอกลิลลี่อุดมไปด้วยแป้ง อีกทั้งยังเป็นอาหารเติมพลังที่ได้ผลไม่เลวด้วย
จากนั้นเขาก็เอาหม้อมาต้มน้ำ ถึงแม้ในหุบเขาแห่งนี้จะไม่มีสัตว์แต่กลับมีลำธารใสสะอาด เสี่ยวจูลองทดสอบดูแล้วว่าวางใจนำมาใช้ดื่มได้
“น่าแปลกแฮะ…มีน้ำมีหญ้า แล้วทำไมถึงไม่มีสัตว์ล่ะ? อย่างน้อยก็ต้องมีกระต่ายสักตัวสิ!” เน่าเน่าทำสีหน้าฉงนไม่เข้าใจเลยจริง ๆ
เมื่อครู่เขาห้ามใจไม่อยู่เลยคว้าเอาหัวดอกลิลลี่ที่เผาสุกแล้วมาทานก่อน สีขาวนิ่มรสชาติใช้ได้ทีเดียว แต่สำหรับเน่าเน่าแล้วต่อให้อาหารมังสวิรัตินี้จะอร่อยขนาดไหนก็เทียบรสชาติอันโอชะของน่องไก่ชิ้นโตไม่ได้อยู่ดี
ตอนนี้เขาแค่อยากจับกระต่ายมาย่างให้สุกสักตัวแล้วทานอย่างเอร็ดอร่อยสักมื้อ
เน่าเน่ากัดไปแค่ครึ่งหนึ่งก็ทานไม่ลงแล้ว “ในปากรสชาติจืดชืดไปหมด ไม่ได้การล่ะ ฉันออกไปหาด้านนอกดูสักหน่อย ตอนมาฉันยังเห็นไก่ป่ากระต่ายป่าอยู่เลย อย่างมากก็แค่เดินมากหน่อยเท่านั้นเอง”
ส่วนครึ่งอันที่เหลือ ฉาฉาที่นิ่งสงบอยู่บนข้อมือเสี่ยวจูก็พุ่งตัวออกมาอย่างรวดเร็วพร้อมเขมือบกินมันหมดในคำเดียว ทั้ง ๆที่ชิ้นที่เหลือขนาดใหญ่กว่าหัวของฉาฉาไม่รู้กี่เท่า แต่เจ้านี่กลับไม่เปลืองแรงเขมือบกลืนกินมันเลยสักนิด
ร่างสีเขียวอ่อนพองใหญ่ขึ้นเหมือนมีไข่ลูกใหญ่อยู่ในตัวก็ไม่ปาน แต่แค่ไหลจากปากลงท้องก็กลับเล็กลงเรื่อย ๆ ยังไม่ทันไหลไปถึงหาง เจ้าหัวดอกลิลลี่นี่ก็หายวับไปแล้ว
ฉาฉาแลบลิ้นสองแฉกอย่างน่ารักด้วยความดีอกดีใจ หัวของมันกวาดตามองไปรอบด้าน ครั้นไม่เห็นของอร่อยมันก็หดตัวมุดเข้าไปในแขนเสื้อของเสี่ยวจู
“เอ๊ะ…เจ้างูน้อยตัวนี้น่ารักจัง พี่เสี่ยวจู นี่สัตว์เลี้ยงใหม่ของพี่เหรอ? ราคาเท่าไหร่?” สือเอ้อร์สนใจในตัวฉาฉาไม่น้อย
เสี่ยวจูมองเธออย่างเย็นชาแวบหนึ่ง “ไม่มีสิ่งล้ำค่าใดเทียบได้ เพราะฉาฉาเป็นคู่หูของฉัน”
สือเอ้อร์เบะปากใส่พร้อมเหลือบมองแขนเสื้อของเสี่ยวจูเป็นระยะ ๆ จนถึงตอนนี้เธอยังไม่เคยเลี้ยงสัตว์เลยเพราะหาตัวที่เหมาะสมไม่ได้สักที ถ้าสัตว์ตัวไหนธรรมดาเกินไปก็ไม่เข้าตาเธอ สือเอ้อร์เหลือบมองเสวี่ยเอ๋อร์แวบหนึ่งอย่างไม่สบอารมณ์นัก ทำไมสัตว์วิเศษถึงไปโผล่บ้านตระกูลเหยียนหมดนะ?
………………………………………………
ตอนที่ 2982 อันที่จริงก็เป็นแค่ค่ายกล
พลันเล่อเล่อก็เห็นสีหน้าสลดใจของหล่อน เธอรู้ว่ายัยเด็กคนนี้อยากมีสัตว์เลี้ยงสักตัวมากมาตั้งแต่เด็กแล้ว แต่คุณอาลี่หามาครึ่งค่อนโลกก็หาตัวที่เหมาะสมให้ไม่ได้กระทั่งคิดวางแผนจะหาคู่ให้เสวี่ยเอ๋อร์
ครั้นพอนึกถึงคุณอาลี่จิ่วที่อุ้มหมาป่าตัวหนึ่งมาบ้านเธอด้วยท่าทีลับ ๆล่อ ๆ เล่อเล่อก็อดนึกขันไม่ได้ ถึงแม้คุณอาลี่จิ่วจะไม่เป็นที่ชื่นชอบนัก แต่หัวใจที่รักลูกสาวกลับร้อนแรงไม่แพ้ใครเลย
คุณอาลี่จิ่วนึกอยากได้ลูกหลานของเสวี่ยเอ๋อร์มาเล่นเป็นเพื่อนสือเอ้อร์สักตัว พอเห็นว่าเสวี่ยเอ๋อร์หาแฟนไม่ได้สักที เขาเลยผันตัวมาเป็นพ่อสื่ออุ้มหมาป่าตัวผู้บึกบึนแวะเวียนมาบ้านเธอไม่เว้นวันด้วยความกระตือรือร้น เพราะอยากจับคู่ให้เสวี่ยเอ๋อร์สักตัว
เพียงแต่สายตาของเสวี่ยเอ๋อร์ไม่ได้สูงธรรมดา หมาป่าเพศผู้ที่คุณอาลี่จิ่วอุ้มมาพวกนั้นไม่เข้าตาเสวี่ยเอ๋อร์เลยสักนิด แถมยังถีบล้มหมดอีกต่างหาก
ดังนั้น…จนถึงตอนนี้ เสวี่ยเอ๋อร์ก็ยังบริสุทธิ์อยู่
“รอจัดการเรื่องขุมสมบัตินี่ได้แล้ว พวกเราค่อยขึ้นไปหาบนเขากัน ไม่แน่อาจจะหาตัวที่เหมาะสมได้ก็ได้นะ” เล่อเล่อเสนอ
สือเอ้อร์ดวงตาเป็นประกาย “อืม ฉันจะหาหมาป่าตัวเมียที่งดงามเหมือนเสวี่ยเอ๋อร์สักตัวนี่แหละ”
เล่อเล่อกลอกตาใส่เธอแวบหนึ่ง “เลิกคิดได้แล้ว ในจักรวาลนี้ไม่มีตัวไหนเหมือนเสวี่ยเอ๋อร์ได้หรอก”
เสวี่ยเอ๋อร์เชิดหน้าด้วยท่าทีหยิ่งผยองพร้อมแผ่รังสีความน่าเกรงขามออกมา แววตาเหลือบมองสือเอ้อร์อย่างดูถูกเล็กน้อย
สือเอ้อร์กลับหัวเราะร่าแล้วลูบหัวเสวี่ยเอ๋อร์หลายที “แกเก่งที่สุดแล้ว…”
เสวี่ยเอ๋อร์แลบลิ้นเลียมือของสือเอ้อร์พร้อมแววตาที่อ่อนโยนลง สือเอ้อร์รั้งเสวี่ยเอ๋อร์มาจุ๊บหลายที “พี่เล่อเล่อ พวกเรารีบหาแฟนให้เสวี่ยเอ๋อร์กันเถอะ มันอัดอั้นมาตั้งสิบกว่าปีแล้ว พวกเราคงไร้ความเป็นมนุษย์ไม่ได้หรอกใช่ไหม!”
เล่อเล่อเองก็กลุ้มใจเช่นกัน “เธอคิดว่าฉันไม่อยากหาหรือไง พ่อฉันหามาไม่รู้กี่สิบตัวแล้วแต่เสวี่ยเอ๋อร์ไม่เข้าตาเลยสักตัว แต่เจ้าสัตว์พวกนั้นถ้าเป็นฉันก็คงไม่เข้าตาเหมือนกันแหละ แค่เจอเสวี่ยเอ๋อร์เข้าหน่อยก็ขาอ่อนกันหมด แล้วแบบนั้นจะมาขอแต่งเมียอะไรอีกได้!”
เสวี่ยเอ๋อร์ร้องหงิง ๆอยู่หลายที ก็ใช่น่ะสิ เจ้าพวกนั้นแค่เจออุ้งมือมันหน่อยก็ล้มเกลี้ยงแล้ว แบบนี้ยังคิดจะมาเป็นสามีของมันอีกเหรอ?
เหอะ…ฝันไปเถอะ!
เสี่ยวเป่าเขี่ยหัวดอกลิลลี่ที่เผาสุกแล้วออกมา หลังจากเย็นลงก็ยื่นส่งให้เล่อเล่อ “ปอกเปลือกออกก็กินได้แล้ว”
เล่อเล่อปอกเปลือกที่เผาจนเกรียมออกเผยให้เห็นเนื้อขาวด้านในซึ่งเหมือนมันเทศป่ามากทีเดียว แต่มันเทศป่าจะขาวเป็นเนื้อทรายมากกว่าหน่อย เล่อเล่อกัดคำหนึ่งแล้วมุ่นคิ้วแน่น จากนั้นก็ล้วงหยิบผงพริกไทยออกมาจากกระเป๋าโรยลงไปแล้วกัดอีกที รสชาติดีขึ้นมากทีเดียว
“แต่เนื้อสัตว์ก็อร่อยกว่าอยู่ดี ทำไมพี่เน่าเน่ายังไม่กลับมาอีกนะ!” สือเอ้อร์ทานไปชิ้นนึกก็หมดความอยากอาหารไปแล้วมองทิวทัศน์รอบด้านด้วยสีหน้าขมขื่น
สายลมพัดเอื่อย ๆ ดอกลิลลี่สีละลานตาโอนเอนไปตามสายลมราวกับทะเลดอกไม้ ในอากาศมีกลิ่นดอกไม้อ่อน ๆ ทว่ากลับไม่มีผึ้งไปดูดเกสรดอกไม้สักตัว
“ฉันไม่ชอบกลิ่นหอมแบบนี้ ฉันไม่ชอบที่แบบนี้เลย พวกเรารีบจัดการให้จบ ๆแล้วออกไปจากที่นี่กันเถอะ” สือเอ้อร์ขมวดคิ้วแน่น
“แปลกจัง ที่นี่ก็ออกจะสวย แต่ทำไมฉันก็ไม่ชอบเหมือนกันนะ” เล่อเล่อเองก็แปลกใจ ตอนเธอเห็นหุบเขาดอกไม้แวบแรกก็รู้สึกไม่ดีเช่นกัน แถมยังความรู้สึกตงิดใจแปลก ๆด้วย
เสี่ยวจูยัดหัวดอกลิลลี่เข้าปากอย่างรวดเร็วแล้วเอ่ย “เพราะหุบเขาดอกไม้แห่งนี้จริง ๆแล้วคือค่ายกล ดังนั้นเลยทำให้แรงดึงดูดของที่นี่ไม่เหมือนที่อื่น”
“ค่ายกลอะไรกัน? นายว่ามาให้ชัดเจนเลยนะ อย่ามาพูดครึ่ง ๆกลาง ๆ” เล่อเล่อเอ่ยเสียงแหลม
เสี่ยวเป่าขมวดคิ้วแน่น เขาเองไม่ค่อยเข้าใจเรื่องอภิปรัชญาอะไรทำนองนี้นัก การเรียนรู้เรื่องพวกนี้ไม่เกี่ยวกับไอคิวหรอก เขาไม่มีพรสวรรค์ด้านนี้แต่เสี่ยวจูมี ในสายตาคนอื่นคงเหมือนตำราปรัชญาอี้จิงแห่งสวรรค์ ทว่าสำหรับเสี่ยวจูแล้วกลับเหมือนอ่านหนังสือการ์ตูน ไม่ต้องให้พวกผู้ใหญ่อธิบายก็เข้าใจได้
……………………………………………….