ลืมรักเลือนใจ - ตอนที่ 581 เลี้ยงฉันแค่นี้ ตอนที่ 582 วิกฤต
ตอนที่ 581 เลี้ยงฉันแค่นี้?
ตอนที่ออกมาจากที่จัดงานก็เป็นเวลาช่วงบ่ายแล้ว
จ้าวหงหลิงที่อยู่ข้างๆ อยู่ในสภาพเหม่อลอยมาโดยตลอด สายตาคอยมองไปทางหลินเยียนไม่หยุด
“หลินเยียน เธอได้บทตัวละครเยวาได้ยังไงเนี่ย?”
ผ่านไปพักใหญ่ จ้าวหงหลิงอดถามขึ้นไม่ได้
ตอนแรกจ้าวหงหลิงคิดว่าที่หลินเยียนไปออดิชันที่กองถ่ายเลเจนด์นั้น แค่ได้บทตัวละครสมทบทั่วไปคนหนึ่งก็ไม่ธรรมดาแล้ว
แต่แล้วเมื่อมาถึงงานแถลงข่าว จ้าวหงหลิงพบว่าหลินเยียนได้บทของเยวามาซะอย่างงั้น
ถึงแม้เยวาจะมีซีนในภาพยนตร์เรื่องเลเจนด์ไม่มาก แค่ปรากฎตัวก่อนซีนจบเท่านั้น แต่ตัวละครอย่างเยวาถือว่ามีน้ำหนักในภาพยนตร์เรื่องเลเจนด์ไม่เบาเลยทีเดียว
ความสำคัญของตัวละครนี้มีมากกว่านางเอกและพระเอกด้วยซ้ำไป
พูดกันจริงๆ แล้ว เยวาที่มีซีนไม่เยอะนั้นถือว่าเป็นหัวใจหลักของภาพยนตร์เรื่องเลเจนด์
จ้าวหงหลิงเผยสีหน้าประหลาดใจ เพราะเธอรู้ว่าทีมงานเลเจนด์มองหลินเยียนด้วยสายตาแบบไหน โดยเฉพาะช่วงที่ผ่านมา เรื่องในแง่ลบของหลินเยียนพุ่งทะยานสูงกว่าแต่ก่อน จนกระทั่งมาถึงจุดพีคแล้วด้วย
ตามหลักแล้ว ทีมงานเลเจนด์ไม่มีทางมอบตัวละครที่เป็นดั่งจิตวิญญาณของเรื่องเช่นนี้ให้กับหลินเยียนแน่นอน
ขณะเดียวกัน สายตาหลินเยียนมองไปทางจ้าวหงหลิง เธอครุ่นคิดสักพักแล้วเผยยิ้มให้จ้าวหงหลิง พลันพูดขึ้น “พี่หลิงคะ อาจจะเป็นเพราะว่าฝีมือการแสดงของฉันดีกว่าน่ะ”
จ้าวหงหลิง “…”
ฝีมือการแสดงของหลินเยียนได้พิสูจน์ผ่านเรื่องคู่ปรับมหากาฬแล้ว ก็ถือว่าไม่แย่
แต่สำหรับตัวละครอย่างเยวาแล้ว แค่มีฝีมือการแสดงยังไม่พอ อีกอย่างฝีมือการแสดงของหลินซูหย่าก็ไม่ถือว่าแย่ พิจารณารวมๆ แล้ว ทีมงานเลเจนด์เลือกหลินซูหย่าถึงจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง
…
ขณะนี้ หลินซูหย่ากลับไปยังบริษัทแล้วนั่งอยู่บนโซฟาด้วยสีหน้าบึ้งตึง
เธอไม่เข้าใจจริงๆ ผู้กำกับของเลเจนด์แล้วก็โจวเฉียวนั่น สมองเป็นอะไรหรือเปล่า ให้บทตัวละครเยวากับยัยหลินเยียนนั่นซะงั้น!
ไม่ว่าจะพิจารณาจากด้านไหน หลินเยียนก็ไม่มีทางได้บทนี้แน่นอน!
หลินซูหย่าโทรหาโจวเฉียวทันที
“คุณซูหย่า มีอะไรหรือเปล่าครับ” เสียงโจวเฉียวดังขึ้น
“คุณโจวเฉียวคะ ฉันอยากจะขอถามหน่อยว่าทำไมถึงเอาบทของเยวาให้หลินเยียนไป…ฉันไม่ได้มีเจตนาอื่นนะคะ แค่อยากรู้เฉยๆ ค่ะ” หลินซูหย่าข่มความโกรธในใจแล้วพูดขึ้นพร้อมหัวเราะเบาๆ
“อ้อ เรื่องนี้น่ะเหรอ เพราะว่าทีมงานคิดว่าหลินเยียนน่าจะเหมาะกว่า คุณซูหย่าน่าจะรู้ว่าที่พวกเรามาประเทศนี้ก็เพื่อมาค้นหานักแสดงที่เหมาะกับตัวละครเยวา ดังนั้น ไม่ว่าจะเลือกใครถ้ายังไม่ถึงวินาทีสุดท้ายก็คงยังไม่แน่นอน”
หลังจากวางสายแล้ว ความเย็นยะเยือกปรากฎขึ้นในแววตาหลินซูหย่า
เมื่อผ่านไปสักพัก หลินซูหย่าเผยรอยยิ้มประหลาดขึ้นอย่างกะทันหัน
ถ้าเธอได้ตัวละครอย่างเยวา จะยิ่งส่งเสริมให้การงานของเธอไปไกลกว่าเดิม แต่แล้วหลินเยียนเป็นคนได้บทตัวละครนี้ ซึ่งไม่ใช่บทที่หลินเยียนสามารถตีบทแตกได้
หลินเยียนมีแต่เรื่องเชิงลบตั้งแต่หัวจรดเท้า เมื่อหลินเยียนเป็นคนรับบทเยวาแล้ว ไม่ว่าเธอจะแสดงออกมาเป็นยังไง แฟนคลับมหาศาลของเยวาก็คงไม่ยอมรับ ซึ่งไม่ต่างอะไรกับพาหลินเยียนไปเชือดเลย
เธอจะรอดูว่าคนที่พึ่งโชคพึ่งใบบุญอย่างหลินเยียนจะฝืนได้ถึงเมื่อไหร่กัน
…
ณ ร้านอาหาร
“อิ่มหรือยัง”
หลินเยียนมองไปทางจ้าวหงหลิงแล้วหัวเราะขึ้น
จ้าวหงหลิงเหลือบมองหลินเยียน “เธอบอกจะเลี้ยงมื้อใหญ่ฉัน เลี้ยงฉันแค่นี้น่ะเหรอ?”
ตอนที่ 582 วิกฤต
มันฝรั่งสองรส เนื้อผัดพริกหยวก มะเขือเทศผัดไข่ และข้าวเปล่าสองถ้วย
“พี่หลิง แค่พวกเราสองคน สั่งเยอะไปเดี๋ยวกินไม่หมดก็เสียดายแย่เลยสิ” หลินเยียนพูดขึ้น
เจ้าหงหลิง “…”
เจ้าหงหลิงแอบลำบากใจเล็กน้อย เธอเคยเจอคนขี้เหนียว แต่ไม่เคยเจอคนขี้เหนี๊ยวเหนียวอย่างหลินเยียนมาก่อน
อย่างน้อยก็ถือว่าเป็นบุคคลสาธารณะ อีกทั้งยังเข้าทำงานในกองถ่ายระดับสากลอย่างเลเจนด์ ทำแบบนี้มันได้เหรอ
ที่ผ่านมา เจ้าหงหลิงคิดว่าหลินเยียนเป็นพวกแม่ศรีเรือนที่ประหยัดและไม่สิ้นเปลืองใดๆ แต่ตอนนี้เธอดูไม่ออกจริงๆ ว่าหลินเยียนประหยัดหรือว่าขี้เหนียวกันแน่…
“เธอจะห่อมันฝรั่งที่เหลืออยู่นิดหน่อยนั่นกลับบ้านด้วยไหม” เจ้าหงหลิงมองไปทางหลินเยียนแล้วพูดขึ้น
เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลินเยียนเผยยิ้มบางๆ เหมือนจะเอ่ยปากพูดอะไรบางอย่าง แต่สีหน้าเธอเปลี่ยนไปเล็กน้อยและมองไปทางพวกลูกค้าใหม่ที่อยู่ห่างจากพวกเธอ
หลินเยียนครุ่นคิดสักพักแล้วถึงพูดขึ้นกับเจ้าหงหลิง “พี่หลิงกลับบ้านไปก่อนนะ ฉันยังมีธุระนิดหน่อย”
ได้ยินที่หลินเยียนพูดแล้ว เจ้าหงหลิงพยักหน้าตอบรับ “ได้”
“เดี๋ยวก่อน…พี่หลิง ขอยืมรถหน่อยได้ไหม” หลินเยียนพูดขึ้น
เจ้าหงหลิงไม่ได้คิดอะไรมาก เธอวางกุญแจรถไว้บนโต๊ะ “ขับระวังหน่อยนะ รถใหม่ ฉันเพิ่งถอยมา”
“พี่หลิงกำลังดูถูกฝีมือขับรถของฉันอยู่” หลินเยียนหัวเราะพลันพูดขึ้น
เจ้าหงหลิง “…”
ได้บทเยวามาแล้วคิดว่าตัวเองเป็นเยวาจริงๆ งั้นเหรอ… ฝีมือขับรถบ้าบออะไรกัน
หลังจากเจ้าหงหลิงจากไปแล้ว หลินเยียนค่อยๆ ลุกขึ้นแล้วเดินไปทางเคาน์เตอร์แคชเชียร์ “เท่าไหร่คะ”
“สองร้อยสี่สิบหยวนครับ”
“แค่อาหารไม่กี่อย่างยังสองร้อยสี่สิบเลยเหรอ มันฝรั่งเท่าไหร่น่ะ” หลินเยียนถามขึ้น
“สามสิบแปด”
หลินเยียนมองไปยังชายวัยกลางคน “เถ้าแก่ไปขุดมันฝรั่งในป่าลึกเองเหรอคะ”
หลังจ่ายเงินเสร็จ หลินเยียนคว้ากุญแจรถแล้วเดินไปทางด้านนอก
หลินเยียนเดินไปทางลานจอดรถที่อยู่แถวนั้นแล้วมองไปทางด้านหลังด้วยสีหน้าสงสัยเล็กน้อย
หรือเมื่อกี้เธอจะคิดมากไปเอง?
ตอนที่อยู่ร้านอาหาร หลินเยียนรู้สึกว่าพวกลูกค้าที่เดินเข้าร้านล็อตสุดท้ายดูแปลกๆ ตอนที่พวกนั้นเดินเข้ามาในร้านพวกเขาต่างมองสำรวจมาทางเธอ
ครุ่นคิดสักพักแล้ว จู่ๆ หลินเยียนตบหัวเบาๆ ด้วยความอึดอัด
เธอเพิ่งจะคิดขึ้นได้ว่าอย่างน้อยตัวเองก็เป็นบุคคลสาธารณะ เป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงโด่งดัง เป็นคนที่สร้างกระแสให้ชาวเน็ตก่อสงครามได้ คนอย่างเธอยังดังไม่พออีกเหรอ
แต่แล้วหลินเยียนยังไม่ทันคิดต่อไป พวกผู้ชายที่อยู่ในร้านอาหารเมื่อสักครู่ก็ปรากฎตัวขึ้นในลานจอดรถ
ผู้ชายหนึ่งในนั้นสวมเสื้อโค้ต ไว้ผมรองทรงแล้วมองมาทางหลินเยียน มุมปากเสยขึ้นเล็กน้อยจนกลายเป็นรอยยิ้มที่มีองศาแปลกประหลาด
วินาทีต่อมา หลินเยียนเห็นผู้ชายคนนั้นทำท่าเอานิ้วปาดคอใส่เธอ
“ริมหาดครั้งที่แล้วคือเธอนี่แหละ อย่าให้เธอหนีไปได้”
ผู้ชายหนึ่งในนั้นจ้องมาทางหลินเยียนแล้วเอ่ยปากพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น
บทสนทนาของคนเหล่านี้ล้วนแต่เป็นภาษาต่างประเทศ ไม่ใช่ภาษาจีน แต่หลินเยียนแค่บังเอิญฟังออก
“ริมหาด?”
สิ้นเสียงผู้ชาย หลินเยียนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง
ผ่านไปไม่กี่วินาที ในที่สุดหลินเยียนก็นึกขึ้นได้ ช่วงก่อนหน้านั้นตัวเองโดนคนลึกลับกลุ่มหนึ่งโจมตีที่บ้านตระกูลเฮ่อที่อยู่ชายทะเล
ดังนั้น คนที่อยู่ตรงนี้…
หลินเยียนรีบเปิดประตูรถออกแล้วเหยียบคันเร่งทันทีแบบไม่ต้องลังเล เสียงเครื่องยนต์ดังสนั่น หลินเยียนขับรถพุ่งออกจากลานจอดรถภายในพริบตา
อย่างที่เขาว่ากันว่าคนฉลาดย่อมไม่ยอมเสียเปรียบ สองมือจะไปสู้สี่มือได้อย่างไร อีกอย่างนี่มันหลายมือเลยทีเดียว ต้องรีบเผ่นซะก่อน!
หลินเยียนขับรถด้วยความเร็วสูง แต่รถที่ตัวเองขับอยู่นั้นมีขีดจำกัด แรงม้าไม่ได้แรงเท่าไหร่ ทำให้หลุดพ้นจากการไล่ตามของรถคันหลังไม่ได้สักที