ลืมรักเลือนใจ - ตอนที่ 583 หน้าตาก็ดีมาไถเงินชาวบ้านซะงั้น ตอนที่ 584 หมายังขับดีกว่าอีก
- Home
- ลืมรักเลือนใจ
- ตอนที่ 583 หน้าตาก็ดีมาไถเงินชาวบ้านซะงั้น ตอนที่ 584 หมายังขับดีกว่าอีก
ตอนที่ 583 หน้าตาก็ดีมาไถเงินชาวบ้านซะงั้น
“บ้าเอ้ย…”
ผ่านไปสักพัก หลินเยียนสังเกตการณ์ผ่านกระจกหลัง ตอนแรกยังคิดว่าจะรอไฟแดงซะหน่อย แต่รถที่อยู่ข้างหลังเมินกติกาจราจรโดยสิ้นเชิง ฝ่าไฟแดงอย่างไม่ลังเล
เนื่องจากถูกสถานการณ์บีบบังคับ ทำให้หลินเยียนต้องฝืนฝ่าไฟแดงไปหลายจุด
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง หลินเยียนขับรถไปยังบริเวณชานเมือง
แถวนั้นมีรถไม่มาก สภาพถนนซับซ้อน ทำให้หลินเยียนสามารถปลดปล่อยฝีมือขับรถของตัวเองได้เต็มที่ ถึงแม้ตัวเองจะขับรถที่แรงม้าไม่เพียงพอและเป็นรถที่เหมาะกับสุภาพสตรี แต่แค่ไม่ให้รถคันหลังตามทันก็ไม่น่าใช่ปัญหาใหญ่โตอะไร
และแล้วก็เป็นไปเหมือนที่คิด ถนนหนทางบริเวณนั้นไม่ได้ขับกันง่ายๆ เนื่องจากว่ารถที่อยู่ด้านหลังนั้นมาด้วยความเร็วสูง เมื่อขับผ่านถนนที่นูนขึ้นมานั้นเกือบจะรถคว่ำเลยทีเดียว
เมื่อเห็นเช่นนั้น หลินเยียนแสยะยิ้มเล็กน้อย เผยรอยยิ้มพิลึกขึ้น
ไม่รู้เหรอว่าเธอเป็นใคร?
กล้าแข่งรถกับเธองั้นเหรอ?!
แต่แล้ว วินาทีต่อมา รอยยิ้มบนหน้าหลินเยียนถึงกับต้องชะงักทันที เธอขมวดคิ้วเข้มขึ้น
สิ่งที่อยู่ตรงหน้าคือรถจิ๊ปหรูหราคันหนึ่งกำลังพุ่งตรงมายังรถที่หลินเยียนขับอยู่
ทันใดนั้นหลินเยียนหมุนพวงมาลัยในทิศทางตรงข้ามเพื่อหลีกเลี่ยง
สิ่งที่ทำให้หลินเยียนคาดไม่ถึงคือรถจิ๊ปหรูราที่อยู่ตรงหน้านี้เป็นเหมือนแม่เหล็ก ไม่ว่ารถตัวเองจะมุ่งไปทางไหน มันก็จะมุ่งไปทางนั้น ขนาดโจรยังไม่ทำกันแบบนี้เลย
ถนนที่อยู่ตรงด้านหน้าค่อนข้างแคบ มีเทคนิคควบคุมรถไม่มาก รวมถึงรถจิ๊ปที่อยู่ตรงหน้าพุ่งตัวมาหาตัวเองอย่างไม่ห่วงชีวิต ทำให้หลินเยียนต้องเบรกกะทันหัน
‘ปั้ง!’
หลินเยียนเพิ่งจะเบรกรถไว้ รถจิ๊ปหรูก็พุ่งชนเข้ามาทันที
ขณะเดียวกัน หลินเยียนปวดใจจนมุมปากกระตุก นี่มันรถใหม่ที่พี่หลิงเพิ่งถอยมาเลยนะ…
ตอนนี้นิยมขับรถหรูมารีดไถเงินกันแบบนี้เหรอ?!
รถที่ตัวเองขับได้หยุดนิ่งแล้ว เพราะมันพุ่งเข้าหาอย่างไม่ลังเล!
แต่หลินเยียนเองก็ไม่มั่นใจว่ารถจิ๊ปหรูคันนี้ขับรถห่วยแตกเกินไปหรือว่าเป็นพวกเดียวกันกับแก๊งรถข้างหลังกันแน่
ผ่านไปหลายวิ ประตูรถจิ๊ปหรูถูกเปิดออก หลินเยียนเห็นผู้ชายสีหน้าเย็นชาคนหนึ่งค่อยๆ เดินลงมาจากรถแล้วเดินตรงเข้ามาข้างๆ รถที่หลินเยียนเป็นคนขับ
นัยน์ตาของชายหนุ่มแลดูไม่ค่อยเหมือนคนทั่วไป สีตาออกสีมรกต รวมถึงสีหน้าเย็นชาของเขา ทำให้รู้สึกหวาดระแวงอย่างอธิบายไม่ได้
ผ่านไปไม่นาน ชายหนุ่มคนนั้นเคาะฝากระโปรงรถของหลินเยียน
ทันใดนั้นหลินเยียนลดหน้าต่างรถเล็กน้อย
“คุณ…ชนรถผม” ชายหนุ่มจ้องมายังหลินเยียน พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาราวกับไม่มีความรู้สึกใดๆ
สิ้นเสียงของชายหนุ่ม หลินเยียนถึงกับงงอยู่กับที่
ผู้ชายคนนี้พูดว่าอะไรนะ?
เขาบอกว่าเธอชนรถเขางั้นเหรอ?
ใครไปชนเขาวะ มีกล้องอยู่บนรถจะเปิดภาพดูไหมว่าใครชนใครกันแน่?
หน้าตาก็ดีแต่ดันมาฉวยโอกาสรีดไถเงินกับชาวบ้านแบบนี้เหรอ?!
เธอจอดรถไว้นิ่งๆ แล้ว แต่รถของผู้ชายคนนี้ต่างหากที่พุ่งตัวเข้ามาเอง ตอนนี้มากลายเป็นว่าเธอชนรถเขาซะงั้น…
“นายเป็นคนกลุ่มเดียวกับพวกนั้นเหรอ?” หลินเยียนจ้องไปยังชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าแล้วขมวดคิ้วขึ้น
หน้าตาและบุคลิกแบบนี้ไม่เหมือนมาไถเงินเลยนะ…
“หมายความว่าไง” ชายหนุ่มมองไปทางหลินเยียนพร้อมเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง
หลินเยียน “…”
มีคนเคยพูดว่าอย่าตัดสินคนที่หน้าตา ดูเหมือนว่าเขามาไถเงินจริงๆ ด้วย แต่ตอนนี้ไม่ใช่จังหวะไถเงินเลย
“คุณขับรถเป็นไหม”
ชายหนุ่มจ้องไปยังหลินเยียนและดึงประเด็นกลับมาเรื่องรถอีกครั้ง
ได้ยินเช่นนั้น มุมปากหลินเยียนกระตุกเล็กน้อยแล้วถอนหายใจด้วยความลำบากใจ “ฉันมีกล้องติดบนรถ นายรีบไปเถอะ”
ตอนที่ 584 หมายังขับดีกว่าอีก
แต่แล้วหลังจากหลินเยียนพูดจบ ความเย็นยะเยือกปรากฏขึ้นในแววตาชายหนุ่ม “คุณหาว่าผมมาหลอกไถเงินงั้นเหรอ”
หลินเยียนเผยยิ้มบางๆ ถือว่ายังรู้ตัวอยู่นี่นา แต่นี่มันก็หลอกไถเงินกันชัดๆ ไม่ใช่เหรอ
“ขอดูกล้องบนรถหน่อย” ชายหนุ่มพูดขึ้น
ในขณะที่หลินเยียนยังไม่ทันได้พูดอะไรก็มีเสียงดังกระหึ่มของเครื่องยนต์ดังขึ้นจากด้านหลัง
สีหน้าหลินเยียนเปลี่ยนไปเล็กน้อย… สุดท้ายก็ไล่ตามมาจนได้
ผ่านไปไม่นาน มีชายหนุ่มหกคนลงมาจากรถ
“ผู้ชายคนนี้เป็นผู้ช่วยของเธอเหรอ” ผู้ชายหัวรองทรงที่เป็นคนนำเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ทันใดนั้น หนึ่งในผู้ชายในกลุ่มก็มองไปทางผู้ชายนัยน์ตาสีมรกตนั้น “นายกับเธอเป็นอะไรกัน”
แต่เหมือนผู้ชายคนนี้จะฟังภาษาต่างประเทศที่พวกนั้นพูดไม่ออก จึงมองมาทางหลินเยียน “พวกเขาคุยกับผมอยู่เหรอ”
หลินเยียน “ไม่งั้นจะใครล่ะ”
“คุณฟังที่พวกเขาพูดออกเหรอ” ผู้ชายเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบง่าย
หลินเยียนไม่อยากดึงคนที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาพัวพันด้วย ได้แต่แปลไปว่า “พวกเขาบอกว่าฝีมือการขับรถของนายน่ะ อย่าขับรถออกมาเลย กลับบ้านไปขับรถตู้รับส่งเด็กอนุบาลเถอะ ถ้าครั้งหน้าเห็นนายขับรถอีกครั้ง เจอครั้งหนึ่งก็จะตบครั้งหนึ่ง”
“จริงเหรอ คุณแน่ใจเหรอ” ผู้ชายเอ่ยถามขึ้น
หลินเยียนพยักหน้าตอบรับ “ใช่แล้วๆ พูดโหดกว่านี้อีก ฉันแค่ไม่อยากแปลเฉยๆ นายรีบไปเถอะ ไม่งั้นเดี๋ยวคงจะหาเรื่องนายจริงๆ”
“ผมเข้าใจแล้ว”
ผู้ชายบิดคอเบาๆ จากนั้นถอดสูทที่สวมอยู่ออกแล้ววางเสื้อสูทลงบนแขนหลินเยียนภายใต้สายตาประหลาดใจของหลินเยียน “ถือให้ผมหน่อย มันแพงมาก”
หลินเยียน “?” ทำไมเธอต้องถือเสื้อให้เขาด้วย
ในขณะเดียวกัน ผู้ชายที่สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว เขาปลดกระดุมด้านบนออกสองเม็ดแล้วเดินไปทางชายหนุ่มพวกนั้น
“บ้าเอ้ย อย่าบอกว่านาย…”
หลินเยียนอึ้งอยู่กับที่ แบบนี้หมายความว่าอยากไปตายเองงั้นเหรอ
หลินเยียนไม่คิดว่าผู้ชายคนนี้จะมีอารมณ์ฉุนเฉียวแบบนี้ ที่พูดไปเมื่อกี้คืออยากให้เขาออกไปจากตรงนี้
พวกนั้นไม่ใช่คนธรรมดาเลย แต่ละคนดูแข็งแกร่งมากมาย อีกอย่างถึงแม้จะเป็นคนธรรมดา ผู้ชายคนนี้ก็คงสู้ไม่ได้อยู่ดี ตัวคนเดียวจะสู้กับหกคนงั้นเหรอ
แต่ในขณะที่หลินเยียนกำลังคิดอยู่ กลับได้ยินเสียง ‘ปัง’ ดังสนั่นขึ้น
วินาทีนั้น สีหน้าหลินเยียนเปลี่ยนไปทันที
ผู้ชายเสียบมือไว้ในกระเป๋ากางเกงสูททั้งสองข้าง ขาขวาสะบัดออกทันที ผู้ชายหัวรองทรงที่เป็นผู้นำยังไม่ทันตั้งตัวก็โดนผู้ชายเตะเข้าจังๆ
ภายใต้ความแรงเช่นนี้ ทำให้ชายหัวรองทรงโก่งตัวทันที เขาพยายามจะเงยหน้าขึ้น แต่ขาของผู้ชายคนนั้นยังคงกดอยู่บนคอเขา ทำให้เขาไม่สามารถทำอะไรได้เลย
“อ้อ…ไม่ใช่คนธรรมดา” ภายในแววตาผู้ชายนั้นไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ เขาจ้องไปทางชายหัวรองทรงแล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
“นาย…นายเป็นใครกันแน่ พวกเราจะจับเธอ ไม่ได้เกี่ยวกับนายเลย!” ผู้ชายอีกคนที่อยู่ข้างๆ ชายหัวรองทรงตะคอกขึ้นด้วยเสียงแข็ง
“แปล” ผู้ชายเอ่ยปากด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง
หลินเยียน “…”
“เขา…เขา…เขาบอกว่าเขาโยนเศษกระดูกบนพวงมาลัย บนเบาะนั่งมีหมาอยู่ตัวหนึ่ง…”
“หมายังขับดีกว่าผม…หมายความว่างั้นเหรอ” น้ำเสียงผู้ชายเย็นชาลงเรื่อยๆ
“เอ่อ…เขาบอกอีกว่าให้นายกลับบ้านไปขับรถรับส่งเด็กอนุบาลแล้วนายไม่เชื่อฟัง อีกทั้งยังต่อยพี่ใหญ่พวกเขาอีก พวกเขาไม่ยอมปล่อยนายไปแน่ๆ นายต้องตายแน่ๆ” หลินเยียนพูดต่อ
หลินเยียนมองไปทางผู้ชายคนนั้นด้วยท่าทางเก้อๆ กังๆ เธอแปลด้วยความจริงจังขนาดนี้ เขาน่าจะเชื่อสินะ