ลืมรักเลือนใจ - ตอนที่ 593 บอส ฉันมาแล้ว! ตอนที่ 594 เธออยากลงจากรถ
ตอนที่ 593 บอส ฉันมาแล้ว!
หลังจากอ่านคอมเมนต์แล้ว หลินเยียนมักจะใช้แอคหลุมตัวเองไปเมนต์สักหน่อย
“หลินเยียนเยี่ยมที่สุด หลินเยียนสู้ๆ เลิฟนะ!”
หลังจากคอมเมนต์เสร็จแล้ว หลินเยียนปิดกระทู้ลง
การเผชิญหน้ากับคอมเมนต์แบบนี้ หลินเยียนชินตั้งนานแล้ว
สิ่งที่หลินเยียนคาดหวังที่สุดในตอนนี้คือ ต้องมีสักวันที่ชาวเน็ตด่าตัวเองในทางใหม่ๆ เปลี่ยนเวย์ด่าบ้างก็ได้…
เช่น ‘หล่อนก็แค่มีเงินแค่นั้นแหละ เก่งตรงไหนวะ!’
ส่วนทางหลินซูหย่าที่ต้องเผชิญกับคอมเมนต์ถล่มทลายแบบนี้ หลินซูหย่าเลือกที่จะเงียบอย่างฉลาด เหมือนเห็นด้วยกับความเห็นเหล่านั้นโดยปริยาย ซึ่งก็อยู่ในการคาดเดาของหลินเยียน
แต่ถ้ามีคนเผยแพร่แชทของเยวากับผู้กำกับเลเจนด์ออกไปล่ะก็…
หลินเยียนไม่ได้คิดอะไรต่อไป เมื่อพักผ่อนสักพักแล้วเธอขับรถมุ่งหน้าไปที่สนามซ้อมตระกูลเฮ่อทันที
ช่วงนี้ทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อฝึกหนักมาก แมตซ์ควอลิฟายกำลังจะเริ่มขึ้น มั่วซูอวิ๋นอยู่ในโหมดตึงเครียดระดับสูงสุด ไม่กล้าชะล่าใจแต่อย่างไร
ถ้ารับมือกับสงครามในครั้งนี้ไม่ดี อีกไม่นานทีมรถแข่งตระกูลเฮ่ออาจจะหายไปจริงๆ ก็ได้
เนื่องจากการฟอร์มทีมใหม่ ทีมรถแข่งตระกูลเฮ่ออาจจะต้องเลือกชื่อทีมใหม่ แต่ทุกอย่างล้วนต้องผลัดไปคุยกันหลังแมตซ์ควอลิฟาย
ช่วงที่ผ่านมา หลินเยียนว่างเมื่อไหร่ก็จะไปที่ทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อ เนื่องจากโปรแกรมฝึกซ้อมของมั่วซูอวิ๋นถือว่าพอใช้ได้ ดังนั้นหลินเยียนจึงไม่ได้ก้าวก่าย แค่ทำหน้าที่ให้กำลังใจและให้คำแนะนำกับมั่วซูอวิ๋นบ้างเล็กน้อย
ช่วงกลางวันหลินเยียนสวมหมวกหญ้าลาเฟียจ้องมองไปทางสนามฝึกซ้อมด้วยสายตาเคร่งเครียดใต้แสงแดดเจิดจ้า
ต้องยอมรับว่าการฝึกซ้อมของมั่วซูอวิ๋นได้ผลจริงๆ ดีกว่าที่เธอเห็นในสนามซ้อมวันแรกเยอะเลยล่ะ
ผ่านไปไม่นานเสียงมือถือดังขึ้น มีข้อความใหม่เข้ามา
เซียว : [ว่างไหม]
ฝนโปรย ณ เมืองเยียนยามโพล้เพล้ : [ทำไมเหรอคะบอส มีภารกิจเหรอ!]
เซียว : [เดี๋ยวส่งโลเคชั่นให้ มาทำเรื่องบรรจุพนักงาน]
ฝนโปรย ณ เมืองเยียนยามโพล้เพล้ : [รับทราบ ไปเดี๋ยวนี้ค่ะ!]
ตอนนี้สนามซ้อมตระกูลเฮ่อไม่ต้องการตัวเองอีกแล้ว หลังจากหลินเยียนทักทายมั่วซูอวิ๋นเสร็จ เธอขับรถจ้าวหงหลิงออกจากสนามซ้อม
ผ่านไปประมาณชั่วโมงครึ่ง ในที่สุดหลินเยียนมาถึงจุดมุ่งหมาย
หลังจอดรถเสร็จแล้ว หลินเยียนเดินมาข้างๆ อาคารตามโลเคชั่นที่ส่งมา
‘บริษัทวิจัยและพัฒนาโลกเสมือนจริง’
หลินเยียนมองดูป้ายโฆษณาใหญ่โตตรงหน้าด้วยสีหน้าตะลึง เธอดูที่อยู่ผิดหรือเปล่า?
‘บริษัทวีอาร์เกมมิ่งเดเวลอป’
หลินเยียนเปิดดูโลเคชั่นอีกครั้ง ตรวจสอบย้ำๆ แล้ว เห็นว่าที่อยู่ไม่มีผิด ที่นี่นั่นแหละ
เซียว : [ชั้นบนสุด]
หลังจากหลินเยียนเห็นข้อความแล้ว เผยสีหน้าตะลึงขึ้น ที่นี่จริงๆ ด้วยงั้นเหรอ?
สรุปว่าผู้ชายคนนั้นทำงานในบริษัทวิจัยและพัฒนาเกมโลกเสมือนจริงที่ว่านั่นจริงๆ เหรอ?
แต่หลินเยียนไม่เข้าใจว่าบริษัทใหญ่โตขนาดนี้จะไม่มีล่ามเลยเหรอ? ลงทุนมหาศาลขนาดนี้ ดันมาจ้างคนติงต๊องอย่างเธอซะงั้น…
หลินเยียนเดินเข้าลิฟต์และขึ้นไปยังชั้นบนสุดด้วยคำถามมากมายในใจ
ตอนแรกหลินเยียนคิดว่าบริษัทใหญ่โตขนาดนี้ต้องตกแต่งอย่างหรูหราแน่นอน
แต่หลังจากมาถึงชั้นบนสุดแล้ว หลินเยียนพบว่าตัวเองคิดผิด ที่นี่ไม่มีความเป็นบริษัทเลย…เงาคนยังไม่เห็นสักเงาเลย
การตกแต่งอย่างเรียบง่าย มีโต๊ะเก้าอี้และโซฟาเยอะแยะ แล้วก็มีคอมพิวเตอร์ไว้ทำงานอีกจำนวนมาก พื้นที่กว้างใหญ่ขนาดนี้แลดูเคว้งคว้างแปลกๆ
หลังจากผลักประตูกระจกเข้าไปแล้ว หลินเยียนเห็นผู้ชายกำลังนั่งคิดอะไรบางอย่างอยู่บนโซฟา
“มาแล้วเหรอ”
หลินเยียนเพิ่งจะผลักประตูเข้ามา เสียงเรียบนิ่งของผู้ชายก็ดังขึ้นมาทันที
“บอส ฉันมาแล้วค่ะ!” หลินเยียนเดินไปข้างๆ ผู้ชายแล้วเอ่ยปากขึ้น
“ทำความคุ้นเคยกับที่นี่หน่อย ที่นี่คือบริษัทของพวกเรา” ผู้ชายลืมตาขึ้น นัยน์ตาสีมรกตแฝงไปด้วยความลึกลับบางอย่าง
หลินเยียน : “…” ยังต้องทำความคุ้นเคยอีกเหรอ?
…
ตอนที่ 594 เธออยากลงจากรถ
ถึงแม้จะไม่เห็นภาพรวมทั้งหมด เพราะมองไปก็มีแต่โต๊ะและเก้าอี้อะไรพวกนั้น
“บอส เพื่อนร่วมงานคนอื่นล่ะ?” หลินเยียนเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย
“มีคุณคนเดียว” ผู้ชายเอ่ยปากขึ้น
หลังจากชายหนุ่มพูดจบ หลินเยียนชะงักอยู่กับที่
จะบอกว่าบริษัทใหญ่โตขนาดนี้มีแค่เราสองคน อีกอย่างตัวเองเป็นพนักงานเพียงคนเดียวงั้นเหรอ!
หลินเยียนรู้สึกว่าตัวเองควรอยู่คนเดียวเพื่อสงบจิตใจหน่อย ตำแหน่งงานของตัวเองน่าจะเป็นล่ามไม่ใช่เหรอ บริษัทเกมนี้ดันไม่มีพนักงานที่เกี่ยวข้องกับเกมเลย…
“อาคารนี้เพิ่งซื้อ บริษัทเพิ่งเปิดน่ะ” เหมือนสังเกตเห็นถึงความสงสัยของหลินเยียน ชายหนุ่มพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
หลินเยียน “…”
ตอนนี้หลินเยียนมั่นใจได้แล้วว่าผู้ชายที่อยู่ตรงหน้านี้เป็นเศรษฐีจริงๆ
ยังไม่มีพนักงานก็ซื้ออาคารก่อนแล้ว อีกทั้งยังเปิดบริษัทเกมโลกเสมือนจริง
“บอสคะ บริษัทเราเป็นบริษัทแบบไหนกันแน่?” หลินเยียนมองไปยังชายหนุ่มอย่างเก้อๆ กังๆ
“เกม” ชายหนุ่มพูดขึ้น
“แล้ว…เกมล่ะ?” หลินเยียนเผยสีหน้าประหลาดใจ
“ยังไม่ได้ทำ” ชายหนุ่มตอบ
หลินเยียน “…” เยี่ยมไปเลยบอส!
“บอสคะ ตำแหน่งของฉันคือล่ามถูกไหม ฉันสร้างเกมไม่เป็นหรอกนะ” หลินเยียนถามขึ้น
“เล่นเกมเป็นไหม” ชายหนุ่มมองไปทางหลินเยียน
สิ้นเสียงชายหนุ่ม หลินเยียนมีแรงขึ้นมาทันที “บอส ไม่ว่าจะเป็นเกมแบบไหน แค่สามวันฉันก็เริ่มคุ้นมือ อาทิตย์หนึ่งชำนาญ ครึ่งเดือนเป็นมือโปรเลย!”
“ดีเหมือนกัน บริษัทเกม ต่อให้เป็นล่ามก็ต้องเล่มเกมเป็น” ชายหนุ่มพูดขึ้น
หลินเยียนพูดขึ้นด้วยความมั่นใจ “บอสไม่ต้องห่วง ฉันเล่นเกมเป็นงานหลักได้ บอสคะ แล้วเกมล่ะ จะลองเล่นเลยไหม?”
ชายหนุ่มเอ่ยปากขึ้น “ยังไม่ได้ทำ”
หลินเยียน “…”
“กินข้าวหรือยัง” ผ่านไปครู่หนึ่ง ชายหนุ่มมองไปทางหลินเยียน
“ยังเลย” หลินเยียนส่ายหน้าตามสัญชาตญาณ
“เซ็นสัญญาว่าจ้างก่อน แล้วค่อยไปกินอาหารพนักงาน”
ได้ยินที่พูดแล้ว หลินเยียนเริ่มสงสัยขึ้นมา บริษัทนี้มีแค่สองคน ใครจะไปทำกับข้าวพนักงานให้
หลังเซ็นสัญญาเสร็จ ชายหนุ่มพาหลินเยียนไปที่ลานจอดรถใต้ดิน
“ขึ้นรถ” ชายหนุ่มเปิดประตูรถ
หลังจากหลินเยียนขึ้นรถแล้ว ชายหนุ่มเหยียบคันเร่งทันที หลินเยียนรับรู้ถึงการสั่นคลอนอย่างรุนแรงของตัวรถ ยังดีที่ตัวเองคาดเข็มขัดนิรภัยไว้ ไม่งั้นโดนช็อตเมื่อกี้ไป ตัวเธอคงโดนสะบัดออกจากนอกรถไปทันทีแน่ๆ
“ผมสตาร์ทรถเป็นไงบ้าง” ชายหนุ่มเอ่ยปากพูดขึ้น
หลินเยียน “…” เธออยากลงจากรถ
“บอส ใช้ได้เลยนะ สตาร์ทได้ทรงพลังมาก ถ้าฉันมีฝีมือขับรถแบบนี้น่าจะดีเลยนะ!” หลินเยียนครุ่นคิดสักครู่แล้วพูดออกมาอย่างผิดจรรยาบรรณของตัวเอง
“ถ้าคุณมีเทคนิคการขับรถแบบนี้ ครั้งที่แล้วก็คงไม่ชนรถผม” ชายหนุ่มเอ่ยปากด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง
หลินเยียน “…” บ้าเอ้ย ดาบใหญ่สี่สิบเมตรของเธออยู่ไหน!
“ใช่ค่ะบอส ฉันจะตั้งใจเรียนรู้ฝีมือการขับรถกับบอสแน่นอน” มุมปากหลินเยียนกระตุกเล็กน้อย
หลังจากออกมาจากลานจอดรถแล้ว ชายหนุ่มเปิดระบบจีพีเอสบนรถ จุดมุ่งหมายคือโรงแรมที่มีระดับไม่เบา
อาหารพนักงานที่ว่าล่ะ ทำไมถึงเป็นห้องอาหารของโรงแรมไฮคลาสล่ะ!
หรือว่าทำงานที่บริษัทเศรษฐีแบบนี้จะได้กินอาหารหรูๆ แบบนี้ตลอด?
“แมพบรายด์แมนจะทำการชี้นำเส้นทางของคุณต่อไป ด้านหน้าจำกัดความเร็วอยู่ที่ เจ็ดสิบ ความเร็วรถปัจจุบัน เจ็ดสิบ กรุณาเลี้ยวขวาค่ะ”
สิ้นเสียงการนำทางของจีพีเอส หลินเยียนจ้องไปยังพวงมาลัยที่ชายหนุ่มกำลังจับอยู่ หลินเยียนสาบานได้เลยว่าผู้ชายคนนี้กำลังเลี้ยวซ้ายอยู่…
“บอสคะ เลี้ยวขวาค่ะ” หลินเยียนอดพูดขึ้นไม่ได้
ชายหนุ่มสงสัยขึ้น “นี่ก็ขวาไม่ใช่เหรอ”
หลินเยียน “…”
ผู้ชายคนนี้ไม่ได้มีแค่ฝีมือขับรถอันห่วยแตกจนน่าทึ่ง แต่เขายังแยกซ้ายขวาไม่ออกอีกด้วย!