ลืมรักเลือนใจ - ตอนที่ 595 ตกกระไดพลอยโจน ตอนที่ 596 อย่าทำอะไรมั่วๆ
ตอนที่ 595 ตกกระไดพลอยโจน
ขณะนี้ หลินเยียนที่นั่งอยู่ฝั่งคนนั่งเผยสีหน้าลำบากใจอย่างไม่สามารถอธิบายได้
ฝีมือการขับรถแบบนี้ รวมถึงไม่สามารถแยกแยะทิศทางได้ หลินเยียนรู้ตัวว่าตัวเองคิดผิด จู่ๆ เริ่มคิดถึงเฮ่อเล่อเฟิงขึ้นมาทันที
เมื่อเทียบกับเฮ่อเล่อเฟิงแล้ว เฮ่อเล่อเฟิงถือว่าเปล่งออร่าอย่างเจิดจ้า
ชายหนุ่มขับรถผิดเพี้ยนจากเส้นทางของระบบนำทางไปโดยสิ้นเชิง ผ่านไปประมาณสิบห้านาที เขามองไปรอบๆ ด้วยสายตาสงสัย
ผ่านไปไม่นาน สายตาชายหนุ่มมองไปทางหลินเยียนแล้วพูดขึ้นเสียงเบา “นี่คือที่ไหนเหรอ”
หลินเยียนมองไปทางผู้ชายด้วยความอึดอัด เขาถามด้วยความหน้าด้านแบบนี้ได้ยังไง คนที่พาเธอไปกินอาหารพนักงานก็คือเขาเองไม่ใช่เหรอ
“เมืองเป่ยซื่อ” สุดท้ายหลินเยียนเอ่ยปากพูดขึ้น
ชายหนุ่มไม่ได้พูดอะไรขึ้น เขาจอดรถไว้ข้างๆ ร้านอาหารแห่งหนึ่ง “ที่นี่แหละ”
ได้ยินเช่นนั้นแล้ว มุมปากหลินเยียนกระตุกเล็กน้อย เขาขับผิดแล้วก็เลยตกกระไดพลอยโจนน่ะสิ
ตำแหน่งที่เขาเซ็ทไว้ในตอนแรกคือเมืองหนานซื่อ แต่เขาขับมาถึงเมืองเป่ยซื่อซะงั้น แล้วยังมีหน้ามาบอกว่าที่นี่แหละอีกเหรอ?
สรุปว่าผู้ชายตรงหน้านี้ไม่ได้แค่มีฝีมือขับรถที่ห่วยแตก แยกแยะซ้ายขวาไม่ได้ อีกทั้งยังเป็นคนไม่รู้ทางอีกด้วย…
นอกจากนั้นแล้วผู้ชายคนนี้ยังมีอีโก้ที่ถึงขั้นน่าทึ่งอีกด้วย เขาไม่สามารถยอมรับข้อสงสัยจากผู้อื่นได้
หลังจากเข้ามาในร้านอาหารแล้ว ชายหนุ่มพาหลินเยียนเข้าไปในห้องวีไอพีที่ตกแต่งอย่างละเมียดละไม
“บอส ไหนเมื่อกี้บอกว่ากินอาหารพนักงานไม่ใช่เหรอ?” หลินเยียนมองไปทางชายหนุ่มด้วยความสงสัย
“เหมือนกันนั่นแหละ” ชายหนุ่มพูดขึ้น
หลินเยียน “…”
“อ้อ บอสบริษัทพวกเราเป็นบริษัทแบบไหนกันเหรอ?” หลินเยียนรีบโยงไปประเด็นอื่น
“เกม” ผู้ชายหนุ่มมองไปทางหลินเยียนอยู่พักใหญ่เพิ่งจะเอ่ยปากขึ้น
ไม่รู้ทำไม หลินเยียนรู้สึกสงสัยในคำพูดของเขาอย่างรุนแรง ไม่ว่าจะมองจากทางไหน ผู้ชายตรงหน้านี้ไม่เหมือนคนผลิตเกมแต่อย่างไร
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ภายนอกเป็นบริษัทเกม แต่ในบริษัทไม่มีเกมอะไรเลย รวมถึงไม่มีคนอยู่ที่นั่นแม้แต่สักคน
“โฮโลกราฟฟิค วีอาร์” ชายหนุ่มเอ่ยปากขึ้น
หลังจากเขาพูดจบ หลินเยียนเผยสีหน้าตะลึง
เกมโฮโลกราฟฟิค?
จริงหรือเปล่าเนี่ย ล้อเล่นกันหรือเปล่า?
ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ หลินเยียนเริ่มสนใจเกมโฮโรกราฟฟิคระดับหนึ่ง อีกทั้งยังฝันว่าสักวันหนึ่งจะได้เข้าไปในท่องโลกของเกมเหมือนที่เขาบรรยายเอาไว้
ตอนที่อยู่เมืองนอก หลินเยียนพอจำได้ว่าตัวเองเหมือนเคยเล่นเกมโฮโลกราฟฟิคจริงๆ แต่ด้วยความทรงจำท่อนนี้ หลินเยียนแยกไม่ออกว่าเป็นความฝันหรือความจริงกันแน่
ชายหนุ่มก้มหน้ากินไม่หยุด เหมือนไม่มีวี่แววจะพูดคุยกับหลินเยียน
ผ่านไปพักใหญ่เขาถึงวางตะเกียบในมือลง นัยน์ตาสีมรกตนั้นมองไปทางหลินเยียน “คุณสนใจเกมโฮโลกราฟฟิคเหรอ”
ได้ยินเช่นนั้นแล้ว หลินเยียนพยักหน้าติดๆ “สนใจสิ มีใครบ้างที่ไม่สนใจล่ะ”
ชายหนุ่มยังไม่ทันพูด อาหารก็มาเสิร์ฟแล้ว
หลินเยียนมองดูปูอลาสก้าที่อยู่เต็มโต๊ะไปหมด เธอเผยสีหน้าตกใจเล็กน้อย
“สวัสดีค่ะ อาหารเสิร์ฟครบแล้วนะคะ ไม่ทราบว่าต้องการอะไรเพิ่มเติมไหมคะ” สาวเสิร์ฟมองไปทางหลินเยียนและชายหนุ่ม
“ไม่แล้ว” ชายหนุ่มพูดขึ้น
หลินเยียน “…” ทำไมมีแต่ปูล่ะ
“บอสคะ ฉันอยากได้ข้าวเปล่าค่ะ!” หลินเยียนมองไปทางชายหนุ่มแล้วพูดขึ้น
“เอาข้าวให้เธอถ้วยหนึ่ง” ชายหนุ่มพูดขึ้น
ผ่านไปไม่นาน เด็กเสิร์ฟเอาข้าวมาเสิร์ฟตามที่สั่งไป
หลินเยียน “…” คนนี้ซื่อบื้อเกินไปหรือเปล่า?
เธอจะกินข้าว เขาก็เลยให้เด็กเสิร์ฟเอาข้าวมาเสิร์ฟแค่ถ้วยหนึ่ง?
“กินข้าว” ชายหนุ่มเห็นหลินเยียนไม่ยอมกินสักที จึงเอ่ยปากพูดขึ้น
หลินเยียน “…”
ตอนที่ 596 อย่าทำอะไรมั่วๆ
ในขณะเดียวกัน ณ อีกฟากของซีกโลก
ในออฟฟิศแสนจะกว้างใหญ่ มีผู้ชายนั่งอยู่ข้างโต๊ะด้วยสีหน้าเย็นชา เหลือบมองไปทางกองเอกสารที่อยู่ตรงหน้า
“ท่านเผย การประชุมจะเริ่มตอนห้าโมงเย็นครับ” เฉิงมั่วก้มหน้าพลันเอ่ยปากขึ้นอยู่ข้างๆ
“อื้ม” เผยอวี้เฉิงตอบรับทั้งที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมา เขาเคาะนิ้วอยู่บนโต๊ะอย่างเป็นจังหวะ
หลังจากลูกน้องออกไปแล้ว เผยอวี้เฉิงวางเอกสารไว้บนโต๊ะ ในขณะเดียวกันได้ส่งข้อความให้หลินเยียน
“ทำอะไรอยู่”
แต่ หลังจากข้อความส่งออกไปพักใหญ่ก็ไม่มีการตอบกลับมา
ชายหนุ่มขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย เขาวางมือถือลง
และแล้ววินาทีต่อมา ความวิงเวียนที่คุ้นเคยก็ลุกลามไปทั่วทั้งตัว…
……
ณ ร้านอาหาร
หลินเยียนมองไปยังข้าวร้อนๆ ที่วางอยู่ตรงหน้าตัวเองแล้ว หันไปมองปูอลาสก้าที่เต็มโต๊ะไปหมด จู่ๆ เธอก็รู้สึกว่ากินปูก็ไม่แย่เหมือนกันหนิ เพราะมันแพงนี่นา
หลินเยียนเมินข้าวไปดื้อๆ แล้วคว้าหยิบปูด้านหน้าชายหนุ่มมาตัวหนึ่ง
หลินเยียนยังไม่ทันทำอะไรต่อ จู่ๆ ร่างกายชักเกร็งขึ้นมา ความรู้สึกคุ้นเคยที่เธอต่อต้านถาโถมเข้ามาอีกครั้ง
“บ้าเอ๊ย…ไม่หรอกมั้ง!”
หลินเยียนรู้สึกลนลานขึ้นมา ไอ้บ้านั่นมาอีกแล้วเหรอ? แต่…ทำไมมาตอนนี้ล่ะ!
สิ่งที่ทำให้หลินเยียนหวาดกลัวที่สุดคือ ตอนนี้เธอกำลังกินข้าวกับบอสอยู่ อีกทั้งบอสของเธอจัดอยู่ในประเภทอร่อยน่าทานแน่นอน ไอ้หื่นกามนั่นจะทำอะไรสกปรกหรือเปล่า!
บอสจะไล่เธอออกเพราะโดน ‘เธอ’ คุกคามหรือเปล่า!
แต่หลินเยียนยังไม่ทันได้คิดอะไรต่อ จิตใต้สำนึกของเธอเริ่มเลือนลางไปเรื่อยๆ เธอไม่สามารถต้านทานไว้ได้
ผ่านไปสักพัก ‘หลินเยียน’ ลืมตาขึ้น
นัยน์ตาของ ‘หญิงสาว’ ปรากฏความเย็นยะเยือกขึ้น ซึ่งแตกต่างกันไปโดยสิ้นเชิง
ผู้ชายที่อยู่ข้างๆ ดึงดูดความสนใจของ ‘หลินเยียน’ ไปทันที
‘หลินเยียน’ กวาดสายตามองไปรอบๆ พบว่าตัวเองอยู่ในห้องวีไอพีในร้านอาหารอยู่ ซึ่งมีแค่เธอและผู้ชายที่มีนัยน์ตาสีมรกตอยู่
‘หลินเยียน’ มองไปทางผู้ชาย ประกายในแววตาเธอแลดูเย็นชาไปจากเดิม ราวกับว่าอุณหภูมิในห้องก็ลดลงไปด้วย
“สายตาคุณดูไม่เป็นมิตรเลย”
ผู้ชายที่อยู่ตรงข้ามหลินเยียนเหมือนจะสังเกตเห็นถึงความต่างของหญิงสาว เขาหยิบกระดาษขึ้นมาเช็ดมืออย่างไม่ตั้งใจ นัยน์ตาสีมรกตคู่นั้นมองไปทาง ‘หลินเยียน’
“งั้นเหรอ”
‘หลินเยียน’ พูดขึ้นด้วยเสียงเบา
“ผมไม่ชอบ” ชายหนุ่มพูดขึ้น
“คุณจะชอบหรือไม่ สำคัญเหรอ”
น้ำเสียง ‘หลินเยียน’ เย็นชาอย่างประหลาด
ทันใดนั้น ชายหนุ่มมองดู ‘หลินเยียน’ ด้วยความสนใจ ไม่ว่าจะเป็นคำพูด ท่าทาง หรือบุคลิกนั้นล้วนเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน เหมือนไม่ใช่คนเดียวกันกับที่ผ่านมา
อีกอย่าง ผู้ชายสามารถรับรู้ถึงความรู้สึกความเย็นชาที่ ‘หลินเยียน’ มีต่อเขาอย่างชัดเจน
“ผมสงสัยว่าทำไมคุณถึงแสดงความรู้สึกไม่เป็นมิตรกับผม พนักงานควรให้เกียรติบอสตัวเองไม่ใช่เหรอ” ผู้ชายพูดขึ้น
“บอส…”
สิ้นเสียงผู้ชาย แววตา ‘หลินเยียน’ เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นเล็กน้อย
เขาไม่รู้ว่าผู้ชายตรงหน้านี้เป็นใคร แล้วก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงบอกว่าตัวเองเป็นบอส อีกทั้งยังบอกว่าหลินเยียนเป็นพนักงานของเขา
“กินอิ่มหรือยัง กลับบริษัทไปทำงานได้แล้ว” ผู้ชายลุกขึ้น
“ได้”
‘หลินเยียน’ เอ่ยปากขึ้นด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง
ผ่านไปไม่นาน ‘หลินเยียน’ และชายหนุ่มเดินออกจากร้านอาหาร
หลังจากผู้ชายเปิดประตูแล้วขึ้นรถทันทีจากนั้นได้มองไปทางหลินเยียนพลันพูดขึ้นด้วยเสียงแข็ง “คุณรอให้ผมเปิดประตูให้อยู่เหรอ”
‘หลินเยียน’ ไม่ได้พูดอะไร เธอเปิดประตูฝั่งคนนั่งแล้วขึ้นไปนั่ง