ลืมรักเลือนใจ - ตอนที่ 617 ชอบเธอได้ยังไงกัน ตอนที่ 618 หลุดคาเรคเตอร์แฟนสาวไม่ได้
- Home
- ลืมรักเลือนใจ
- ตอนที่ 617 ชอบเธอได้ยังไงกัน ตอนที่ 618 หลุดคาเรคเตอร์แฟนสาวไม่ได้
ตอนที่ 617 ชอบเธอได้ยังไงกัน?
ขณะที่ฝ่ามือเย็นๆ วางอยู่บนต้นขาอย่างกะทันหัน หลินเยียนตกใจจนขนลุกทั้งตัว เธอมองไปทางเผยอวี้เฉิงที่อยู่ข้างๆ ด้วยความตกใจ
ยังดีที่แสงไฟภายในห้องไม่สว่างนัก อีกทั้งยังมีโต๊ะบังอยู่ ทำให้ไม่มีใครเห็นมือของเผยอวี้เฉิง
หัวใจของหลินเยียนเกือบจะทะลุอกออกมา เธอไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรงและไม่กล้าขยับแม้แต่นิดเดียว
ถ้าคนอื่นเห็นเข้า ฐานะแฟนหนุ่มของเธอก็จะกลายเป็นที่รู้กันแล้วสิ…
เผยอวี้เฉิงเห็นสีหน้าระมัดระวังของหลินเยียนในขณะนี้
“ไปไหน?” เผยอวี้เฉิงยังคงวางมือไว้บนต้นขาหลินเยียน นั่งพิงอยู่บนโซฟา เบี่ยงหน้ามาเล็กน้อย ใช้น้ำเสียงที่มีแค่คนสองคนได้ยินพลันพูดขึ้น
หลินเยียนน้ำตาตกใน สังเกตคนที่อยู่รอบๆ แล้วรีบพูดขึ้นด้วยเสียงเบา “แฮ่ก ไม่…ไม่หนิคะ…ไม่ได้ไปไหน…ฉันไม่ได้จะไปไหนเลย…คุณเผยอยู่ไหนฉันก็อยู่ตรงนั้นแหละ! ฉันไม่คิดจะไปไหนเลย!”
เผยอวี้เฉิงไม่ได้ว่าอะไร เขาเอ่ยปากถามขึ้นเบาๆ “ทำไมไม่ตอบข้อความ”
“หืม? ข้อความ…” หลินเยียนรีบอธิบาย “คุณส่งข้อความมาให้ฉันเหรอ? ขอโทษค่ะ! ฉันคงไม่ทันได้สังเกตเห็นน่ะค่ะ!”
เผยอวี้เฉิง “ช่วงนี้ยุ่งเหรอ?”
หลินเยียน “เอ่อ…ก็พอตัวค่ะ ช่วงนี้ได้รับงานพาร์ทไทม์เป็นล่าม ก็เลยไปทำงานบ้างค่ะ…”
เผยอวี้เฉิง “งั้นเหรอ? บริษัทอะไร?”
หลินเยียน “เอ่อ…”
ขณะนี้หลินเยียนเกือบจะร้องไห้จริงๆ
ป๋าคะ ได้โปรดอย่าคุยกับฉันอีกเลย! ถ้าคุยต่อไปคงจะความแตกแน่!
แต่หลินเยียนไม่กล้าที่จะไม่ตอบด้วย เผยอวี้เฉิงถามและเธอตอบอย่างระมัดระวัง ขณะเดียวกันได้มองไปทางเผยหนานซวี่ด้วยสายตาอ้อนวอนขอความช่วยเหลือ
ช่วยด้วยจ้า!
เผยหนานซวี่อยู่ใกล้แค่เอื้อมมือ แน่นอนว่าต้องได้ยินสิ่งที่พี่ใหญ่ตัวเองพูด หลังจากได้รับสายตาอ้อนวอนจากหลินเยียนแล้ว เผยหนานซวี่หันหน้าหนี…อย่างเด็ดขาด หลบตาหลินเยียนโดยสิ้นเชิง…
หลินเยียน “…???”
เฮ้ย! เรียกป๋ามายังว่าไปอย่าง แต่นี่ก็ใกล้จะสิ้นลมอยู่แล้วยังไม่ช่วยอีก…
ภาพลักษณ์ไอดอลที่สมบูรณ์ไร้ที่ตินั้น เกิดรอยแตกร้าวขึ้นมาทันที…
ขณะที่เผยอวี้เฉิงกำลังครุ่นคิดอยู่ เขาจะใช้นิ้วเคาะกับบางอย่างตามความคุ้นเคย ดังนั้นในตอนนี้นิ้วของเขากำลังเคาะอยู่บนขาหลินเยียน
หลินเยียนรู้สึกว่าทุกครั้งที่นิ้วเผยอวี้เฉิงเคาะแต่ละที หัวใจของเธอจะหยุดชะงักไปด้วย
ตอนแรกทุกคนที่อยู่ในห้องวีไอพีต่างดูเกร็งๆ กันเล็กน้อย แต่หลังจากดื่มแอลกอฮอล์ลงคอบ้างแล้ว ถึงค่อยดูสบายๆ ขึ้นมาบ้าง
จู่ๆ เสียงอ่อนหวานของหญิงสาวคนหนึ่งดังขึ้น
“คุณ…คุณเผย สวัสดีค่ะ ฉันชื่อจงเสว่หนิง เป็นดาราของพินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์”
หญิงสาวที่เข้ามาคุยด้วยนั้นเป็นดาราสาวแนวหน้าคนหนึ่ง หญิงสาวโฉมหน้างดงามสวมชุดเดรสสั่งทำจากแบรนด์ ซี เผยไหปลาร้าและส่วนโค้งเว้าช่วงเอวได้อย่างเหมาะสม ดูไร้เดียงสาและเซ็กซี่พร้อมๆ กัน
หญิงสาวที่อยู่ข้างๆ สวมเดรสสีขาวเป็นสาวผมลอนคนหนึ่ง จงเสี่ยวเวย ซึ่งเป็นดาราดังในขณะนี้เหมือนกัน เป็นน้องสาวจงเสว่หนิงที่เข้าสู่วงการพร้อมกัน
เมื่อเทียบกับพี่สาวจงเสว่หนิงแล้ว จงเสี่ยวเวยแลดูมีชีวิตชีวามากกว่า
คนหนึ่งอ่อนโยนไร้เดียงสา อีกคนน่ารักมีชีวิตชีวา สองพี่น้องคู่นี้ยืนอยู่ด้วยกัน ทำให้หัวใจเบิกบานเลยล่ะ
สองพี่น้องนี่ช่างเป็นความฝันของผู้ชายจริงๆ …
หลินเยียนเห็นแล้วยังอึ้ง สมกับที่เป็นดาราของพินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์จริงๆ ดาราสาวแต่ละคนดูดีซะขนาดนี้ ขนาดเธอในฐานะผู้หญิงด้วยกันยังหวั่นไหว!
ฐานะอย่างเผยอวี้เฉิงคิดว่าคงจะมีสาวงามแบบนี้เข้าหาบ่อยๆ
ดังนั้นคำถามคือ ในกรณีที่บรรทัดฐานทางความงามถูกยกระดับขึ้นสูงขนาดนี้แล้ว เผยอวี้เฉิงมาชอบเธอได้ยังไงกัน?
ตอนที่ 618 หลุดคาเรคเตอร์แฟนสาวไม่ได้
เห็นสองพี่น้องเดินตรงเข้ามาอย่างกะทันหัน หลินเยียนเกร็งจนอกแทบแตก
ถึงแม้แสงไฟมืดสลัว อีกทั้งยังมีโต๊ะอำพรางตัวอยู่ แต่ถ้าตั้งใจมองดูดีๆ ยังพอสังเกตเห็นได้ แค่เผลอนิดเดียวก็จะรู้ว่าทั้งสองคนกำลังทำอะไรอยู่
ขณะนี้เผยอวี้เฉิงเสยสายตาขึ้น กวาดมองหญิงสาวทั้งสองคนด้วยสายตาเรียบนิ่ง ทำให้หญิงสาวทั้งสองคนตื่นเต้นจนหน้าแดงระเรื่อ
น้องสาวจงเสี่ยวเวยชำเลืองหางตามองหลินเยียนที่นั่งอยู่ข้างๆ เผยอวี้เฉิง สายตาดูรังเกียจและไม่แยแส แต่กลับเผยยิ้มอยู่บนหน้า ก่อนจะเอ่ยปากขึ้น
“หลินเยียน รบกวนขยับไปหน่อย”
หลินเยียนที่โดนเรียกชื่อกะทันหัน “…”
อย่าว่าแต่ขยับไปหน่อยเลย เอาที่นั่งตรงนั้นไปเลยก็ได้!
เธอนั่งอยู่ตรงนั้นจนจะร้องไห้หาแม่แล้ว!
หลินเยียนเกือบหลุดปากตอบตกลงไป จนกระทั่งรับรู้ถึงน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นจากปลายนิ้วอันเรียวยาวของชายหนุ่มที่วางอยู่บนหน้าขาตัวเอง…
บ้าเอ้ย!
หลินเยียนชำเลืองมองเผยอวี้เฉิง แต่สีหน้าเขายังคงไม่เปลี่ยนไปแม้แต่นิดเดียว
เธอรู้สึกว่าหากเผยอวี้เฉิงเข้าวงการบันเทิง คงคว้ารางวัลออสการ์ได้แน่ๆ…
คนทั้งห้องนี้คงไม่มีใครนึกภาพออกว่าป๋าคนนี้ทำอะไรมาบ้าง…
หลินเยียนทำหน้าหงอยแล้วเปลี่ยนประเด็นทันที “ไม่ได้…”
ในฐานะแฟนสาวของเผยอวี้เฉิง เธอจะปล่อยให้ผู้หญิงคนอื่นที่ตั้งใจมาอ่อยแฟนหนุ่มของเธอมานั่งได้ยังไงกันล่ะ!
เธอหลุดคาแรคเตอร์ไม่ได้นะ!
สีหน้าจงเสี่ยวเวยบึ้งตึงไปชั่วขณะ สีหน้าจงเสว่หนิงก็แลดูหมองไปขณะหนึ่ง
แขกในห้องวีไอพีวันนี้มีดาราที่กำลังดังอยู่ไม่น้อย แน่นอนว่าดาราสาวพวกนี้ต่างมีเล่ห์เหลี่ยมกันหมด
เพราะคนที่อยู่ตรงหน้าคือคนใหญ่โตในวงการธุรกิจซึ่งถือว่าอยู่ในระดับเทพอย่างเผยอวี้เฉิงเชียวนะ!
โอกาสแบบนี้หาที่ไหนไม่ได้แล้ว!
ใครๆ ก็อยากลองดูสักหน่อยแหละ
หลินเยียนกับสองพี่น้องอย่างจงเสี่ยวเวยและจงเสว่หนิงสังกัดบริษัทเดียวกัน หลินเยียนถือว่าเป็นรุ่นน้องเพราะเข้าบริษัททีหลัง
ในสถานการณ์อย่างวันนี้ รู้อยู่แล้วว่าสองพี่น้องอยากคว้าโอกาสที่หายากนี้เข้าใกล้เผยอวี้เฉิง คนที่พอรู้หน้าที่ต้องรู้ตัวว่าควรขยับที่ให้สักหน่อย
ใครจะไปรู้ว่าหลินเยียนปฏิเสธดื้อๆ แบบนั้น!
เธอคิดว่าตัวเองเป็นใคร กล้ามานั่งข้างๆ คนอย่างเผยอวี้เฉิงงั้นเหรอ เธอมีสิทธิ์อะไรกัน!
หลินเยียนฝืนใจอธิบาย “ฉันมีแผลที่ขา เจ็บขาน่ะ ขยับไม่ได้”
คำตอบนี้ไม่ฟังไม่ขึ้นเท่าไหร่มั้ง
แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเผยอวี้เฉิงแล้ว ทั้งสองพี่น้องต้องคีพลุคหน่อย จะมากำเริบต่อหน้าคงดูไม่งาม พวกเธอทำได้แค่ฝืนยิ้มตามมารยาท “งั้นเหรอ งั้นช่างมันเถอะ…”
จงเสว่หนิงผู้เป็นพี่สาวพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงหวังดี “หลินเยียน เธอไปหาคุณหยางเถอะ”
แต่หลินเยียนกลับไม่ได้พูดอะไร
จงเสี่ยวเวยบิดนิ้วไปมา โมโหจนกระทืบเท้า “พี่ ยัยนั่นหน้าด้านเกินไปหรือเปล่า! เป็นโชคดีของมันได้มานั่งข้างๆ เผยอวี้เฉิง แต่นี่อะไร ตอนนี้มาเกาะติดหนึบซะอย่างงั้น คนอย่างเธอน่ะเหรอจะมีสิทธิ์มาอ่อยเผยอวี้เฉิงได้”
ดาราสาวที่อยู่ข้างๆ ก็เผยสีหน้าเหยียดหยาม “หมาวัดเห่าเครื่องบินจริงๆ ไม่เอากระจกมาส่องเงาหัวตัวเองซะบ้าง!”
ในขณะเดียวกัน หลินเยว่ทงกำลังประจบประแจงหยางปั๋วฉงอย่างเต็มที่
“คุณหยาง ไม่คิดเลยนะครับว่าคุณจะได้ร่วมงานกับเจเอ็ม คอร์เปอเรชั่นด้วย เหิงต๋า อินเตอร์ มีเดียช่างไม่ธรรมดาจริงๆ!”
ความจริงๆแล้วเหิงต๋า อินเตอร์ยังคงอยู่ในช่วงประมูลอยู่ จะประมูลได้หรือเปล่ายังไม่รู้เลย
แต่เมื่อหลินเยว่ทงพูดแบบนั้น ถือว่าเอาใจหยางปั๋วฉงได้สำเร็จ
“คุณหยางดูสิ ไหนๆ ก็จะเป็นครอบครัวเดียวกันอยู่แล้ว ถ้าคุณได้ร่วมมือกับคุณเผย ถึงตอนนั้นพวกเรามาจัดงานเลี้ยงด้วยกัน…” หลินเยว่ทงยังพูดต่อไม่หยุด