ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 104 จิ้นเฟิงเฉินดื่มเมาแล้ว
ทที่ 104 จิ้นเฟิงเฉินดื่มเมาแล้ว
มาถึงในงานแล้วเจอลูกค้าบางคน หลายคนก็ร่วมรับประทานอาหารกันอย่างสนุกสนาน และลูกค้านั้นก็ชอบดื่ม จิ้นเฟิงเฉินก็ดื่มกับเขาไปไม่น้อย
จิ้นเฟิงเหราก็อยู่ข้าง ๆ ก็ชงให้จิ้นเฟิงเฉินดื่มจนเมา
เหล้าในงานนี้มีแต่ดีกรีสูง ๆ ดื่มไปหลายแก้ว จิ้นเฟิงเฉินรู้สึกเมาเล็กน้อย ในหัวก็เริ่มหนัก ๆ
จนเมื่องานใกล้เลิก จิ้นเฟิงเฉินนั้นก็เกือบจะเมาแล้ว
เขาไปที่ห้องน้ำ จิ้นเฟินเหราก็ไปรับโทรศัพท์ ก็ไม่ทันได้สังเกตุเหตุการณ์ข้างในงาน
ซูชิงหยินหยุดเป็นพัก ๆ แล้วก็เดินตามไปทางห้องน้ำ
ตอนที่เธอเดินอยู่ที่ระเบียงทางเดิน หลังจากที่จิ้นเฟิงเฉินเดินออกมาจากห้องน้ำ ซูชิงหยินก็เดินเข้าไปตรงหน้าและพูดว่า “เฟิงเฉิน คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
จิ้นเฟิงเฉินไม่ได้ตอบว่าอะไร
ซูชิงหยินเดินเข้าไปเพื่อจะประคองเขา แต่กลับถูกผลักออก
มือเธอถูกสะบัดออก ไม่คิดว่าจิ้นเฟิงเฉินที่ดื่มจนเมาแล้ว ยังไม่ให้เธอแตะต้องตัวเขา เขาเกลียดเธอขนาดนี้เลยหรือ
ผิดหวังส่วนผิดหวัง แต่ว่าซูชิงหยินยังยิ้มและพูดว่า “เฟิงเฉิน ก็ให้เฟิงเหราดูแลข้างในต่อ! ฉันส่งคุณกลับไปก่อน หรือจะเปิดห้องที่คลับเพื่อที่คุณจะได้พักก่อนไหม ?”
ซูชิงหยินนั้นแน่นอนว่ามีเจตนาอื่น จิ้นเฟิงเฉินตอนนี้เมาแล้ว ถ้าหากอยู่กันสองคน ไม่แน่อาจจะมีอะไรเกิดขึ้นก็ได้
ในตอนนี้เอง ที่จิ้นเฟิงเหราออกมาจากในห้องงานเลี้ยง
“พี่ ผมได้บอกทางคุณหลี่ไว้แล้ว ไปเถอะ เรากลับกันก่อน”
พูดแล้ว จิ้นเฟิงเหราก็เดินเข้ามาประคองจิ้นเฟิงเฉิน เขายังไม่วายที่จะมองไปทางซูชิงหยิน ยังดีที่เขามาไว ไม่อย่างนั้นพี่ชายคงโดนผู้หญิงคนนี้ทำมิดีมิร้ายแล้ว
ซูชิงหยินเดินตามมาด้านหลัง สายตาเธอแสดงออกแวบหนึ่งว่าไม่พอใจ แต่ว่าก็ไม่ได้พูดอะไร
ออกมาจากในงาน จิ้นเฟิงเหราประคองจิ้นเฟิงเฉินขึ้นรถ แล้วก็พูดว่า “พี่ชิงหยิน ผมส่งคุณกลับก่อนเลยละกัน!”
“ไม่เป็นไร ส่งพี่ชายคุณกลับไปก่อน ฉันจะไปด้วย ไม่อย่างนั้นไม่มีใครดูแลเขา”
ได้ยินแล้ว จิ้นเฟิงเหราก็มีรอยยิ้มบนใบหน้า พูดว่า “ทำไมจะไม่มีคนดูแล มีแน่นอน”
ซูชิงหยินมองจิ้นเฟิงเหราอย่างสงสัย แล้วก็รู้สึกว่าคำพูดนี้มีอะไรแปลก ๆ แต่ว่าเธอก็ไม่รู้ว่าคืออะไร
จิ้นเฟิงเหราจึงพูดอีกว่า “ที่บ้านยังมีคนรับใช้ และก็ผม! แต่ทางพี่ชิงหยินสิ ดึกขนาดนี้ยังไม่กลับบ้าน คนที่บ้านคงเป็นห่วง ไปเถอะ ๆ ผมส่งพี่กลับไปก่อน”
ได้ยินแล้ว ซูชิงหยินแม้จะไม่พอใจ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก
เหล้าออกฤทธิ์แล้ว เมื่อไปถึงที่บ้านซู จิ้นเฟิงเฉินก็หลับไปบนรถแล้ว
คืนนี้เป็นโอกาสที่จะได้ใช้เวลาร่วมกันสองคนแล้วเชียว กลับถูกจิ้นเฟินเหรามาทำลาย ในใจของซูชิงหยินนั้นก็มีขุ่นเคืองอยู่บ้าง แต่ก็ยังเอ่ยปากพูดว่า “ขับรถดีดีนะ ดูแลพี่ชายเธอดีดีล่ะ!” จิ้นเฟิงเหราพยักหน้าหงึก ๆ ตอบว่า “สบายใจได้ พี่ชิงหยิน”
ตอนที่พูดในใจก็คิดว่า ไม่ได้เป็นแฟนเธอซะหน่อย จะมาเป็นห่วงเป็นใยอะไรกัน!
หลังรถออกจากบ้านซู จิ้นเฟิงเหราก็ขับรถพาจิ้นเฟิงเฉินที่กำลังเมาอยู่มุ่งหน้าไปทางบ้านของเจียงสื้อสื้อ
ในฐานะน้องชาย เขาจะทนนั่งดูพี่ชายและพี่สะใภ้เป็นแบบนี้ไม่ได้ ไม่อย่างนั้นหากวันไหนความสัมพันธ์ของทั้งคู่มีปัญหาขึ้นมา แล้วพี่ชายเขาก็กลายเป็นผู้ชายบ้าคลั่ง คนที่ต้องรับกรรมก็ต้องเป็นเขาและพนักงานของจิ้นกรุ๊ป
คิดแล้ว จิ้นเฟิงเหราก็เร่งความเร็วรถ มาถึงใต้ตึกบ้านเจียงสื้อสื้อ ก็พยุงจิ้นเฟิงเฉินขึ้นไป
ตอนนี้เจียงสื้อสื้อที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ กำลังดูเอกสารที่จัดทำเมื่อช่วงกลางวัน ในตอนนี้เอง ก็ได้ยินเสียงกริ่งที่ประตูดังขึ้น
เจียงสื้อสื้อชะงักไป ดึกขนาดนี้เป็นใครกัน เธอลุกขึ้นมาที่ประตูและมองจากตาแมวออกไป ก็ไม่เห็นว่ามีใคร
สงสัยเลยเปิดประตู จากนั้นก็มีคนล้มใส่เธอมาทั้งตัว
“จิ้น…… จื้นเฟิงเฉิน”
เจียงสื้อสื้อตกใจ ได้กลิ่นเหล้าคละคลุ้ง เธอถึงรู้ว่าผู้ชายตรงหน้านั้นดื่มจนเมาแล้ว
มองไปตามระเบียงก็ไม่เห็นมีใครนอกจากเขา เจียงสื้อสื้อคิดว่าเขามาเอง เธอจึงเรียกอีกครั้งว่า จิ้นเฟิงเฉิน
ชายหนุ่มก็ไม่ได้สนใจเธอ นี่ดื่มไปมากเท่าไหร่เนี่ย เมาขนาดนี้ เจียงสื้อสื้อขมวดคิ้ว รู้สึกเอ็นดูสงสาร
เธอพยุงเขาเข้ามาในห้อง วางเขาลงบนโซฟา
จิ้นเฟิงเฉินพิงอยู่ที่โซฟา เขาหลับตา ตอนนี้เงียบเหมือนเด็กน้อยก็ไม่ปาน เจียงสื้อสื้อ
มองใบหน้าที่หล่อเหลาจนตะลึงไปชั่วขณะ
ลังเลอยู่สักพัก เธอหยิบโทรศัพท์มา และโทรหาเบอร์ของจิ้นเฟิงเหรา เพราะเธอเองก็ได้รับปากกับแม่จิ้นแล้วว่าจะไม่ข้องเกี่ยวกับจิ้นเฟิงเฉินอีก เจียงสื้อสื้อรู้สึกมาตลอดว่า จะเก็บเขาไว้ที่นี่นั้นไม่ดีเท่าไหร่
หลังจากต่อสายแล้ว เจียงสื้อสื้อเอ่ยปากว่า “คุณชายรองจิ้น พี่ชายคุณดื่มจนเมาแล้วมาที่นี่ คุณมารับเขากลับบ้านได้ไหม?”
“อย่างนั้นหรือ? พี่ชายผมดื่มจนเมาแล้วไปหาคุณหรือ คุณเจียง ต้องขอโทษด้วยจริง ๆ ผมติดธุระอยู่ ไม่สามารถไปได้ คุณช่วยดูแลเขาหน่อยละกันนะ !”
เจียงสื้อสื้อขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “แต่ว่า คุณจะหาเวลามาหน่อยไม่ได้เลยหรือ หรือว่าให้ใครมารับได้ไหม?”
“คุณเจียง ผมไปไม่ได้จริง ๆ ครับ ตรงนี้ก็ไม่มีคนที่จะไปได้ คุณก็ช่วยกรุณาดูแลเขาเถอะนะครับ ขอร้องล่ะ ผมต้องไปทำธุระต่อแล้วครับ บ๊าย บาย”
พูดจบ จิ้นเฟิงเหราก็วางเสียเลย
เขาเป็นคนส่งไปเอง จะให้เขาไปรับกลับมาได้ยังไงกัน
จิ้นเฟิงเหราขับรถ นัยย์ตาก็มีรอยยิ้ม ชายหญิงอยู่ในห้องกันตามลำพัง พี่ชายเองก็ยังดื่มจนเมาอีก ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
คุณชายรองจิ้นก็เริ่มฮำเพลง ก็ขับรถตะลอนออกไปด้วยอย่างอารมณ์์ดี
……
ทางด้านเจียงสื้อสื้อ หลังจากวางสายเธอก็สุดจะพูดอะไร มันต้องยุ่งเรื่องอะไรกันขนาดคุณชายรองจิ้นยังไม่สนใจแม้แต่พี่ชายตัวเองขนาดนี้
เจียงสื้อสื้อถอนหายใจ แล้วก็โทรหากู้เนี่ยน
กู้เนี่ยนฟังแล้ว ก็พูดว่า “ขอโทษนะ คุณเจียง ตอนนี้แม่ป่วยอยู่ ต้องอยู่ดูแลท่าน ไม่สามารถไปได้”
กู้เนี่ยนนั้นย่อมบอกกับเจียงสื้อสื้อไม่ได้ว่าตัวเองนั้นได้รับคำสั่งมาจากคุณชายรองจิ้น
อยู่ก่อนแล้ว ไม่ว่าจะยังไง ก็ห้ามไปรับจิ้นเฟิงเฉิน
ดังนั้นต่อให้เธอกล้าแค่ไหน ก็ไม่กล้าไปรับหรอก
เจียงสื้อสื้ออยากจะร้องไห้ ทำไมต่างก็มีธุระกันหมดนะ เธอถอนหายใจอีกครั้ง ตัวเธอเองก็จะปล่อยเขาทิ้งไว้ด้านนอกไม่สนใจก็คงจะไม่ได้
ช่างเถอะ ช่างเถอะ ก็แค่ให้เขานอนที่นี่ไปสักคืน
ต่อให้แม่จิ้นรู้เข้าก็จะมาโทษเธอไม่ได้
เจียงสื้อสื้อได้แต่ยอมรับชะตากรรม ตอนแรกเธอกะจะให้จิ้นเฟิงเฉินนอนที่โซฟา แต่ว่าโซฟาแคบเกินไป ขาเขายาวจนติดโซฟา ดูแล้วอึดอัด เจียงสื้อสื้อทนไม่ได้ จึงต้องลากเขาเข้าไปที่เตียงในห้องนอน
เธอต้องใช้แรงอย่างมาก ถึงจะพยุงเขาเข้าไปในห้องได้
หลังจากจิ้นเฟิงเฉินล้มตัวลงไปแล้ว โดยตามธรรมชาติแล้วเธอเองก็ล้มลงไปด้วย ตัวเธอทั้งตัวก็ทับอยู่บนหน้าอกเขา
เจียงสื้อสื้อหายใจให้หายเหนื่อย ตอนที่กำลังจะลุกขึ้นนั้น จิ้นเฟิงเฉินก็ตื่นมาพอดี ชายหนุ่มลืมตาทั้งสองข้าง มองเจียงสื้อสื้ออย่างสะลึมสะลือ
จิ้นเฟิงเฉินเหมือนตกอยู่ในภวังค์ เขาคิดว่าตัวเองกำลังฝันอยู่
หญิงสาวตรงหน้า ใบหน้าแดงระเรื่อ เหมือนเธอเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จ มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ คละคลุ้งทั่วร่าง ตอนนี้ดวงตาทั้งคู่ก็จ้องมองมาที่ตัวเอง