ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 111 ฉันไม่ชอบเขา
บทที่ 111 ฉันไม่ชอบเขา
หลังจากเจียงสื้อสื้อออกจากบริษัท รถมายบัคสีดำก็จอดอยู่หน้าประตู
ตอนนี้ หัวใจของเขาก็เต้นแรงขึ้น เบาะคนขับลดกระจกลง และใบหน้าอัปมงคลของจิ้นเฟิงเหราก็โผล่ออกมา
“คุณหญิงเจียง” เขายิ้มและเปิดปากทักทาย และจิ้นเฟิงเหราก็เปิดประตูรถเดินลงมา
เธอยังคิดว่าจิ้นเฟิงเฉินมาแล้ว เจียงสื้อสื้อถอนหายใจออกมา ยังแอบด่าตัวเองที่คิดผิด จะมีปฏิกิริยาชัดขนาดนั้นทำไมกัน
เธอเดินมาข้างหน้า ถามว่า “คุณชายรอง คุณมาได้ยังไงคะ?”
“มาหาคุณสิครับ! ไปเถอะ! ไปทานข้าวด้วยกัน”
ทานข้าว? เจียงสื้อสื้ออึดอัดขึ้นมาทันที “ไม่ล่ะคะ คุณชายรอง”
ในใจของเจียงสื้อสื้อรู้จุดประสงค์ที่คุณชายรองมาหาตัวเองอย่างชัดเจน
“คุณไม่ให้เกียรติผมเกินไปแล้ว! เมื่อก่อนผมช่วยคุณตั้งเยอะ ไปเถอะครับ”
พูดไป จิ้นเฟิงเหราก็ไม่ยอมให้เจียงสื้อสื้อปฏิเสธ เขาผลักเธอเข้าไปในรถ
นั่งอยู่บนรถ เจียงสื้อสื้อมองใบหน้าของจิ้นเฟิงเหรา อดไม่ได้ที่จะพูดว่า “คุณชายรองถ้าหากคุณมาเพราะว่าเรื่องพี่ชายของคุณ ก็ไม่จำเป็นหรอกค่ะ”
เธอตัดสินใจเรียบร้อยแล้ว ว่าทั้งสองคนจะไม่ไปมาหาสู่กันอีก
จิ้นเฟิงเหราหันมามองหน้าเธออย่างสงสัย พูดอย่างจริงจังว่า “สนเรื่องของพี่ชายผมที่ไหนล่ะ! ผมนัดคุณอย่างบริสุทธิ์ใจไม่ได้เหรอไง! จะพูดไปพวกเราก็ถือว่าเป็นเพื่อนกัน! คุณวางใจเถอะ! อาหารมื้อนี้จะไม่พูดถึงพี่ชายผมเด็ดขาด” เจียงสื้อสื้อได้ยินแบบนี้ ก็รู้สึกอายทันที ความจริง เมื่อก่อนจิ้นเฟิงเหราก็ช่วยเธอตั้งเยอะ ถ้าเขาไม่ได้มาเพราะจิ้นเฟิงเฉิน เธอก็สบายใจแล้ว
เห็นเจียงสื้อสื้อไม่ได้พูดอะไรต่อ จิ้นเฟิงเหราก็ถอนหายใจออกมา ถือว่าตบตาผ่านไปได้
รถเคลื่อนมาถึงร้านอาหารฝรั่งเศสที่หรูหรา บริเวณรอบๆ ร้านสง่างามและเงียบสงบ จิ้นเฟิงเหรานำเจียงสื้อสื้อไปนั่งโต๊ะที่จองไว้
สั่งอาหารมาเยอะแยะ และจิ้นเฟิงเหรายังสั่งเหล้าที่มีดีกรีแอลกอฮอล์สูง แต่เจียงสื้อสื้อไม่รู้เลย จนถึงตอนที่จิ้นเฟิงเหรารินเหล้าให้เธอ เธอถึงรีบพูดขึ้นว่า” คุณชายรอง ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันไม่ดื่มเหล้า”
จิ้นเฟิงเหราไม่สนใจ และรินเหล้าต่อไป และพูดว่า “ดื่มแค่นิดเดียว แถมเหล้านี้ยังดีกรีไม่เยอะ ไม่เป็นไรหรอก”
สุดท้าย เจียงสื้อสื้อก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ
ขณะกำลังรออาหารอยู่นั้น จิ้นเฟิงเหราก็หาเรื่องชวนคุย
“คุณหญิงเจียง งานยุ่งไหม?”
“ห๊า?” เจียงสื้อสื้อนิ่งอึ้ง หลังจากนั้นก็ส่ายหน้า” ไม่ยุ่งค่ะ! เป็นอะไร? คุณชายรองถามคำถามนี้ทำไม?”
“ไม่ยุ่งก็ดีแล้ว ผมแค่อยากจะบอกว่า! ถ้าหากงานคุณยุ่งก็ต้องดูแลสุขภาพด้วย อย่าเหมือนพี่ชายผม วันนี้ตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้ก็ยังทำงานอยู่ ไม่สนใจทานข้าวเลย”
ได้ยินแบบนี้ สายตาของเจียงสื้อสื้อก็เป็นประกาย จู่ๆ ก็สับสน เธอดื่มน้ำและไม่พูดอะไร เพียงได้ยินเจียงเฟิงเหราถามต่อว่า “คุณหญิงเจียงปกติคุณสูบบุหรี่ไหม?”
เจียงสื้อสื่อมองเขาด้วยความสงสัยอีกครั้ง “ไม่สูบค่ะ!” ถามคำถามนี้กับเธอทำไมอีก?
จิ้นเฟิงเหราพยักหน้ารับ น้ำเสียงเหมือนกับเมื่อกี้ พูดอย่างเป็นจังหวะ “ไม่สูบก็ดีแล้ว คุณรู้ไหม? พี่ชายผมไม่รู้เป็นอะไร วันนี้สูบบุหรี่เยอะมาก บุหรี่นี้ไม่ดีต่อสุขภาพด้วย ผมจะกล่อมยังไงก็ไม่ฟัง โถ่!”
เจียงสื้อสื้อ “……”
เขาทั้งสูบบุหรี่ทั้งงานยุ่ง เป็นเพราะเธอเองเหรอ?
“ใช่สิ คุณหญิงเจียง พี่ผม……”
เจียงสื้อสื้อขัดจังหวะเขา “คุณชายรอง ไม่ได้บอกว่าจะไม่พูดถึงพี่ชายคุณหรอกเหรอคะ?”
ฟังจบ จิ้นเฟิงเหราก็ยิ้มอย่างอึดอัด “ผมไม่ได้ชวนคุณหาเรื่องคุณหรอกเหรอครับ!”
ตอนนี้ พนักงานก็ยกอาหารมา จิ้นเฟิงเหรายกแก้วเหล้าจากโต๊ะและพูดว่า “คุณหญิงเจียง มา ชนแก้ว”
เจียงสื้อสื้อไม่คิดอยากดื่มเหล้า แต่ว่าถูกจิ้นเฟิงเหราพูดจนจิตใจวุ่นวาย เธอหยิบแก้วเหล้าจากโต๊ะและจิบเบาๆ
ตอนนี้ จิ้นเฟิงเหราหาข้ออ้างให้เจียงสื้อสื้อดื่มเหล้า ตอนแรกเพื่อปรับอารมณ์ ต่อมาเพื่อให้มีคนชนแก้วด้วย
เจียงสื้อสื้อคอไม่แข็งอยู่แล้ว เหล้าลงท้องไม่กี่แก้ว สมองก็เริ่มเบลอ หลังจากที่ทานข้าวเสร็จแล้ว แม้แต่ทิศเหนือใต้ออกตกก็แยกได้ไม่ชัด
“คุณชายรอง วันนี้พอแค่นี้เถอะ ขอบคุณที่คุณเลี้ยงข้าวฉัน ฉันกลับก่อนนะคะ”
เจียงสื้อสื้อเพิ่งลุกขึ้นมา แต่เพราะยืนไม่มั่นคง เธอก็ล้มกลับไปนั่งที่เดิมอีกครั้ง
จิ้นเฟิงเหรารีบมาพยุงเธอ แววตาของเขาเป็นประกาย และถามว่า “อย่ารีบครับ! คุณหญิงเจียง พวกเขาคุยกันต่อสักพักเถอะ ผมขอถามคุณไม่กี่คำถาม!”
“ค่ะ” เจียงสื้อสื้อตอบรับอย่างนิ่งๆ เธอมึนหัวไปหมด ความจริงก็ได้ยินไม่ชัดว่าจิ้นเฟิงเหราพูดอะไร
จิ้นเฟิงเหรามองเธอ คิดแล้วคิดอีกและถามว่า “คุณทำไมต้องหลบพี่ชายผมด้วย?”
พี่ชายเขาอารมณ์ไม่ดี น่าจะเป็นเพราะพี่สะใภ้แน่ๆ
ไม่ว่าเหตุผลอะไร จิเนเฟิงเหราเดาว่าน่าจะเพราะคำพูดของเจียงสื้อสื้อที่ตัดขาดความสัมพันธ์กับพี่ชายเขาแน่ๆ
ฟังจบ ใจของเจียงสื้อสื้อเต้นแรง ทำไมล่ะ?
เธออ้าปากพูดว่า “ฉันไม่เหมาะกับเขา ดังนั้นไม่อยากไปมาหาสู่ กลัวยิ่งใกล้ยิ่งลึกซึ้ง”
แอลกอฮอล์เข้าไปในสมองเธอแล้ว เมื่อพูดถึงจิ้นเฟิงฉิน ในใจของเจียงสื้อสื้อก็รู้สึกเจ็บปวด มีแต่เธอที่รู้ ตอนนี้ตัวเองเข้าไปลึกมากแล้ว
จิ้นเฟิงเหรายิ้มออกมา เหมือนกับว่าเหล้าจะออกฤทธิ์แล้ว! เขาหยิบปากกาบันทึกเสียงจากกระเป๋าออกมา หลังจากนั้นก็ถามต่อว่า “ฟังคุณพูดแบบนี้ น่าจะชอบพี่ผมแล้ว?”
“เอ่อ……” เจียงสื้อสื้อเขย่าหัว “ชอบ……ไม่ชอบ”
จิ้นเฟิงเหรารีบร้อนทันที “จะไม่ชอบได้ไง พี่ชายผมดีกับคุณขนาดนี้ คุณไม่ชอบเขาแล้วจะชอบใคร?”
“เขาดีกับฉันมาก แต่ว่าฉันชอบเขาไม่ได้ ชอบเขาไม่ได้ ไม่งั้นคนที่บ้านเขาจะไม่พอใจ”
ฟังจบ จิ้นเฟิงเหราก็ขมวดคิ้วขึ้น พูดอะไรน่ะ
“ผมพอใจมากนะ! คนที่บ้านเขาไม่พอใจไม่ได้หรอก”
“ได้ค่ะ…..” เจียงสื้อสื้อคว่ำหน้าลงกับโต๊ะ
จิ้นเฟิงเหราเกาหัว ฟังอย่างงงวย และพูดต่อว่า
“ผมจะถามคุณ คุณรีบตอบได้ไหม?”
“ค่ะ”
พูดจบ จิ้นเฟิงเหราก็พูดต่อว่า “คุณชอบแม่เลี้ยงคุณไหม”
เจียงสื้อสื้อส่ายหัว “ไม่ชอบค่ะ”
“งั้นคุณชอบหลานซือเฉินไหม?”
สีหน้าจองเจียงสื้อสื้อแสดงความรังเกียจ และส่ายหัวต่อ
“ไม่ชอบค่ะ”
“งั้นแม่คุณล่ะ? คุณชอบแม่คุณไหม?”
“ชอบค่ะ”
“งั้นเสี่ยวเป่าล่ะ?”
เจียงสื้อสื้อพยักหน้าอย่างไม่ลังเล “ชอบค่ะ”
จิ้นเฟิงเหราเม้มปาก และถามต่อ “งั้นจิ้นเฟิงฉินล่ะ? คุณชอบเขาไหม?”
“ชอบค่ะ” พูดจบ เจียงสื้อสื้อก็ส่ายหน้า และพูดว่า “ไม่ชอบ ฉันชอบเขาไม่ได้”
คุณพ่อจิ้นคุณแม่จิ้นไม่เห็นด้วย เธอเคยเป็นแม่อุ้มบุญไม่เหมาะสมกับเขา เธอชอบเขาไม่ได้
“ทำไมคุณชอบเขาไม่ได้ เกี่ยวกับอดีตไหม?”
เจียงสื้อสื้อพยักหน้า มุมปากยิ้มอย่างขมขื่น “ใช่ค่ะ!”
ฟังจบ จิ้นเฟิงเหราใบหน้าเปลี่ยนสี จ้องเธอและถามว่า “ที่ผ่านมาเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?”