ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 1111 เกิดเรื่องกับสื้อสื้อแล้ว
ลี่ซาเดินออกจากห้อง ก็ได้หยุด กลับไปมองที่ห้องสักพัก ก็ได้พูดกับคาร์อันที่อยู่ข้างๆ เสียงเบา “ช่วยฉันจองตั๋วเครื่องบินไปเมืองจิ่นใบหนึ่ง”
พูดถึงตรงนี้ เธอก็ได้ขมวดคิ้วเล็กน้อย “เมืองจิ่นมันเป็นที่ไหนกันแน่?”
ใบหน้าของคาร์อันก็ได้มีความลังเลเล็กน้อย “คุณหญิง ที่จริง……”
“ทำไม?” ลี่ซาก็ได้หันไปมองเขา
“เจียงสื้อสื้อก็อยู่ที่เมืองจิ่น”
สีหน้าของลี่ซาก็ได้เปลี่ยนเล็กน้อย “นายแน่ใจนะ?”
“ผมแน่ใจครับ”
ลี่ซาก็ได้เงียบไปกี่วิ อยู่ก็ได้หัวเราะออกมา รอยยิ้มก็ได้เต็มไปด้วยความสมเพช “เบอร์เกนนะเบอร์เกน ผู้หญิงคนนั้นได้เอายาอะไรให้คุณกินกันแน่ ถึงได้ไล่ตามไปถึงประเทศของเขา”
“คุณหญิง งั้นคุณยังจะไปไหมครับ?” คาร์อันก็ได้ถามอยากระมัดระวัง
“ไป ทำไมจะไม่ไป” ลี่ซาก็ได้หรี่ตา สายตาก็ได้มีความน่ากลัว “คราวนี้ฉันไม่มีทางปล่อยผู้หญิงคนนั้นไปแน่”
คาร์อันก้มหน้า “งั้นเดี๋ยวผมไปจองตั๋วให้คุณครับ”
พูดจบ เขาก็จะจากไป
“เดี๋ยวก่อน” ลี่ซาก็ได้เรียกเขาไว้ “นายก็ไปด้วย”
คาร์อันตอบ “ครับ” แล้วก็ได้รีบออกไป
ลี่ซาก็ได้กลับไปมองที่ห้อง มุมปากก็ได้มีรอยยิ้มที่เยือกเย็น เบอร์เกน ไม่ว่าจะใช้วิธีอะไร ฉันไม่มีทางที่จะให้คุณได้ดั่งใจหวังแน่
……
เมืองหลวง
ตอนเช้า ซ่างหยิงก็ได้ลุกขึ้นมาเตรียมอาหารเช้า
เธอก็ได้ตั้งใจต้มโจ๊กซุปไก่ออกมา แล้วก็ได้เตรียมกับข้าวต่างๆ นานาหลายอย่าง
รอให้ทุกอย่างเตรียมเสร็จแล้ว เธอถึงได้ขึ้นไปปลุกเจียงสื้อสื้อตื่น
“สื้อสื้อ ตื่นได้แล้ว” เธอก็ได้เปิดประตู ก็ได้เดินเข้าไปในห้องที่มืดมิด
คนที่อยู่บนเตียงก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไร
ซ่างหยิงก็อดขำไม่ได้ ก็ได้ไปเปิดผ้าม่านที่หนาออก แสงแดดยามเช้าก็ได้ส่องเข้ามา ทำให้ในห้องสว่างขึ้นมาเลยทันที
เธอก็ได้เดินไปที่เตียง โค้งตัว ยื่นมือค่อยๆ ไปเขย่าตัวเจียงสื้อสื้อที่ได้หลับลึกบนเตียง “สื้อสื้อ ตื่นมาทานข้าวเช้าได้แล้วจ้ะ”
ก็ยังไม่มีปฏิกิริยาอะไร
“สื้อสื้อ ตื่นได้แล้ว” เธอก็ได้พูดเสียงดัง
แต่เจียงสื้อสื้อก็ยังไม่มีท่าทีอะไร
เธอก็ได้ขมวดคิ้ว ต่อให้หลับลึกขนาดไหน ตนนั้นเรียกไปหลายครั้งขนาดนี้ เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ได้ยินจริงหรือเปล่า
เจียงสื้อสื้อได้ยินคนเรียกชื่อของเธอรางๆ เธออยากที่จะลืมตา แต่ว่าหนังตาได้หนักมาก ไม่ว่าพยายามยังไงก็ลืมตาไม่ได้
มีความมืดมิดไม่มีที่สิ้นสุดได้มาคลุมเธอไว้ มองไม่เห็นแสงเลยแม้แต่น้อย
เธอกลัวมากๆ อยากจะลืมตาเรียกให้คนมาช่วยเธอ แต่ไม่ว่ายังไงก็ส่งเสียงออกมาไม่ได้
เหนื่อยมาก
น้ำตาหยดหนึ่งก็ได้ไหลลงมาจากตาของเธอ
ซ่างหยิงเห็นแบบนั้น สีหน้าก็ได้เปลี่ยนทันที ก็ได้เรียก “สื้อสื้อ หนูได้ยินที่น้าเรียกใช่ไหม? สื้อสื้อ หนูตื่นสิ!”
ไม่ว่าเธอจะเรียกยังไง เขย่ายังไง เจียงสื้อสื้อก็คือไม่ตื่นขึ้นมา
เวลานี้ เธอก็ได้รู้สึกว่าเรื่องไม่ปกติ ก็ได้รีบหันตัววิ่งออกไป
“ยู่เชิน เกิดเรื่องแล้ว” เธอได้วิ่งไปที่ห้องฟางยู่เชิน
ฟางยู่เชินยังเปลี่ยนเสื้ออยู่ เห็นว่าแม่ได้วิ่งมาด้วยสีหน้าที่ตื่นตระหนก เขาก็ได้กังวลชั่วขณะ ถามเสียงเข้มว่า “เกิดอะไรขึ้นครับ?”
“ไม่รู้ว่าสื้อสื้อเป็นอะไร แม่เรียกเธอยังไงเธอก็ไม่ตื่น”
สีหน้าของฟางยู่เชินก็ได้เปลี่ยน วิ่งออกไปเลยทันที
เจียงสื้อสื้อก็เหมือนว่าหลับไป มองไม่ออกเลยว่ามีอะไรที่ผิดปกติ
ฟางยู่เชินก็ได้ลองเรียกไปกี่ที ไม่มีปฏิกิริยาอะไร
เขาก็ได้ขมวดคิ้วอย่างแรง “เดี๋ยวผมไปติดต่อหาพวกโม่เหยีย ให้พวกเขามาดูให้หน่อย”
ซ่างหยิงพยักหน้า “รีบไปรีบไป”
รอให้ฟางยู่เชินออกไป ซ่างหยิงก็ได้นั่งอยู่ข้างเตียง ก็ได้จับมือที่เย็นของเจียงสื้อสื้อแน่น ทั้งกังวลแล้วก็เป็นห่วงเธอ
เด็กคนนี้ทำไมต้องมีชีวิตที่ลำบากขนาดนี้นะ?
เดิมกับเฟิงเฉินสองคนก็มีความสุขแล้วแท้ๆ ตอนนี้เฟิงเฉินหายตัวไป เธอก็ยังล้มไปอีก
เมื่อไหร่เธอจะได้มีความสุขจริงๆ สักที?
คิดถึงตรงนี้ น้ำตาของซ่างหยิงก็ได้ไหลลงมาอย่างอดไม่ได้ เธอก็ได้รีบเช็ด พูด “สื้อสื้อ หนูวางใจ ยู่เชินต้องช่วยหาตัวของเฟิงเฉินกลับมาแน่”
เจียงสื้อสื้อได้ยินเสียงของเธอ แต่ว่าไม่รู้ว่าจะตอบกลับเธอยังไง ก็ทำได้แค่ให้น้ำตานั้นไหลลงมาจากหางตา
ซ่างหยิงเห็นเข้า ใบหน้าก็ได้มีความดีใจ “สื้อสื้อ หนูได้ยินที่คุณน้าพูดใช่ไหม?”
เจียงสื้อสื้อก็ยังหลับตาอยู่เหมือนเดิม ไม่ตอบอะไร
ซ่างหยิงช่วยเธอเช็ดน้ำตา “ถ้าเกิดหนูได้ยินล่ะก็ ไม่ต้องเป็นห่วงนะ ไม่นานพวกโม่เหยียก็จะมาแล้ว”
ซ่างหยิงก็ได้จับมือของเธอแน่น ก็ได้ให้กำลังใจกับเธอแบบไม่มีเสียง
……
โม่เหยียกับหานยู่ได้รับโทรศัพท์ ก็ได้รีบมาที่เมืองหลวงทันที
ตอนที่พวกเขามาถึงบ้านใหญ่ตระกูลฟางก็ได้เป็นเวลาบ่ายโมงกว่าแล้ว และก่อนที่เขาจะมาถึงนั้น เจียงสื้อสื้อก็ยังหลับอยู่เหมือนเดิม ไม่มีวี่แววว่าจะตื่น
โม่เหยียมองไปที่ดวงตาของเจียงสื้อสื้อ ดวงตาก็ยังปกติ
เขาก็ได้ขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้ หันหน้าไปมองฟางยู่เชินกับซ่างหยิง “นี่มันเรื่องอะไรครับ?”
“เมื่อวานบนรถตอนที่กลับมา สื้อสื้อก็ได้หลับไปแล้ว ก็เหมือนกับปกติ ไม่มีที่ที่แปลกตรงไหน” ฟางยู่เชินพูด
“โม่เหยียไม่ได้ถามเรื่องนี้ครับ เขาได้ถามว่าก่อนที่คุณหญิงหลับไป ได้เกิดเรื่องอะไรขึ้นใช่ไหม?” หานยู่อธิบาย
“อันนี้……”
ฟางยู่เชินกับซ่างหยิงก็ได้สบตากัน
เห็นว่าเขาได้ลังเล โม่เหยียก็ได้พูด “ประธานฟาง คุณจำเป็นที่จะพูดให้ชัดเจนนะครับ แบบนี้พวกเราถึงได้จัดการปัญหาของคุณหญิงได้”
ฟางยู่เชินนิ่งคิดไปสักพัก “ที่จริงเฟิงเฉินหายตัวไป”
“อะไรนะ? คุณชายหายตัวไป?” โม่เหยียกับหานยู่ตกใจเอามาก
“นี่มันเรื่องอะไรคะ?” หานยู่ก็ได้ถาม
“ซ่างกวนหยวนเป็นคนเอาตัวไป”
โม่เหยียก็ได้ขมวดคิ้ว “ซ่างกวนหยวน? เป็นผู้หญิงที่ได้ฉีดยาให้คุณหญิงหรือเปล่า?”
ฟางยู่เชินพยักหน้า “ใช่ เป็นเธอ”
หานยู่ก็ได้ขมวดคิ้วคิด “แปลกนะ ทำไมคุณชายได้ไปกับเธออย่างว่าง่ายล่ะ?”
อยู่ๆ เขาก็คิดอะไรได้ มองไปยังโม่เหยีย “เธอทำอะไรกับคุณชายหรือเปล่า?”
สีหน้าของโม่เหยียก็ได้เข้มขึ้นมา “ไม่ตัดความเป็นไปได้นี้ออก จากนิสัยของคุณชาย ไม่มีทางที่จะไปกับผู้หญิงคนอื่นแน่”
“ฉันรู้ว่าพวกเธอเป็นห่วงเฟิงเฉินมาก แต่สิ่งที่สำคัญตอนนี้เป็นสื้อสื้อนะ” ฟางยู่เชินก็ได้เตือนสติพวกเขา
โม่เหยียก็ได้มองเขาสักพัก จากนั้นก็ได้หันไปมองเจียงสื้อสื้อบนเตียง “คุณหญิงน่าจะเป็นเพราะว่าอารมณ์แปรปรวนหนักไป ทำให้ร่างกายรับไม่ไหวชั่วขณะ ถึงได้หลับไม่ตื่นครับ”
“งั้นตอนนี้ทำยังไง?” ซ่างหยิงก็ได้ถามอย่างรีบร้อน
“พวกเราจะฉีดยาให้เธอแล้ว ไม่นานก็น่าจะตื่นขึ้นมา”
แต่คิดไม่ถึงว่า ตอนที่กำลังฉีดยานั้น อยู่ๆ ตัวของเจียงสื้อสื้อก็ได้กระตุกอย่างแรง
ทำเอาคนที่อยู่ในเหตุการณ์นั้นตกใจไปหมด
หานยู่ก็รีบหยุดยาที่ฉีด แล้วช่วยโม่เหยียหยุดร่างกายของเจียงสื้อสื้อ
“นี่เป็นอะไรกันแน่?” ซ่างหยิงก็ได้มองเจียงสื้อสื้อที่ตัวกระตุกเพราะว่าเจ็บปวดอย่างงั้น ก็ร้องไห้ออกมาอย่างอดไม่ได้
“ประธานฟาง คุณพาแม่ของคุณออกไปรอข้างนอกก่อนครับ” โม่เหยียก็ได้หันไปพูดกับฟางยู่เชินที่ได้ตกใจจนอึ้ง
มีคนอยู่ มันมีผลกับการช่วยเหลือของพวกเขา
ฟางยู่เชินตั้งสติได้ “ได้ พวกเราออกไปเดี๋ยวนี้”