ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 1117 อย่าคิดเองเออเอง
ทานมื้อค่ำเสร็จ อานอานดูทีวีสักพัก ก็ได้กลับไปนอนที่ห้องอย่างว่าง่าย
เหลียงซินเวยเก็บกวาดห้องครัวเสร็จ ก็ได้เป็นเช็กที่ห้องอานอานว่าเขานั้นได้ห่มผ้าดีๆ ไหม ถึงได้ช่วยเขาปิดไฟ
เธอได้เอาโทรศัพท์ไปนั่งที่โซฟาในห้องนั่งเล่น
เปิดโทรศัพท์ กดไปที่สายโทรเข้า มองเบอร์ที่ไม่ได้รับเบอร์นั้น เธอก็ได้ลังเลว่าจะลองโทรไปอีกรอบดีไหม
แต่ว่าลังเลอยู่นาน เธอก็ยังไม่โทรออกไป
สุดท้าย เธอก็ได้ดับจอโทรศัพท์ เอามันวางไปข้างๆ ร่างกายก็ได้พิงที่ไปโซฟา เงยหน้ามองเพดาน
เธอยังจำครั้งแรกที่ได้เจอกับฟางยู่เชินได้
“เธอเป็นคนช่วยขับเหรอ?” ตอนนั้นน้ำเสียงของฟางยู่เชินคือความสงสัย
คงคิดไม่ถึงว่าเธอที่เป็นผู้หญิงดึกขนาดนี้แล้วยังออกมารับจ้างช่วยขับ
เพราะงั้น เธอก็ได้ตบหน้าอกของตัวเองรับประกันว่า “คุณวางใจเถอะค่ะ อายุการขับขี่ของฉันมีห้าปีแล้ว อีกอย่างดูแล้วคุณก็ไม่เหมือนคนไม่ดี จริงไหม?”
เขาหัวเราะ
นั่นเป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกว่ารอยยิ้มของผู้ชายคนหนึ่งนั้นน่าดูมากๆ
“อ๊าย!”
เหลียงซินเวยก็ได้เอาหมอกกอดที่อยู่ข้างๆ มาปิดหน้าตัวเอง
ทำอะไรกันแน่?
เธอทำไมอยู่ๆ ถึงได้คิดถึงเรื่องนี้?
หรือว่าเหมือนที่อานอานพูด เธอชอบคนอื่นเขาแล้ว?
เป็นไปไม่ได้!
เธอก็ได้รีบลุกขึ้นนั่ง ส่ายหน้า “เป็นไปไม่ได้ เธอไม่มีทางที่จะชอบเขา ใช่ ไม่มีทาง!”
พูดจบ เธอก็ได้ทิ้งหมอนกอดออก ลุกขึ้นเตรียมตัวไปอาบน้ำให้ตัวเองตื่นตัวหน่อย
ในเวลานี้ อยู่ๆ โทรศัพท์ก็ได้ดังขึ้น
ใจของเธอก็ได้ตกใจจนหัวใจหยุดเต้นไปหนึ่งจังหวะ
เดินไปดู เป็นฟางยู่เชินโทรมา
ใจก็ได้เริ่มเต้นเร็วอย่างห้ามไม่อยู่
เธอก็ได้สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วรับสาย “สวัสดีค่ะ ฉันคือเหลียงซินเวย”
“คุณเหลียง สวัสดีครับ”
เสียงที่ทุ้มต่ำของฟางยู่เชินก็ได้ส่งมา เหลียงซินเวยก็ได้จับโทรศัพท์แน่นอย่างไม่ได้ตั้งตัว “สวัสดีค่ะ”
“ดึกขนาดนี้ ไม่ได้รบกวนคุณใช่ไหมครับ?”
“ไม่ค่ะไม่ค่ะ”
ราวกับว่าเธอได้ตอบไปเลยทันที จากนั้นเธอก็ได้รู้สึกว่าตัวเองนั้นตอบไปเร็วเก็บไป ก็ได้รีบเสริม “วัยรุ่นสมัยนี้จะไปพักผ่อนเช้าได้ยังไงกันค่ะ”
ปลายสายนั้นก็ได้ส่งเสียงหัวเราะของฟางยู่เชินมา
เหลียงซินเวยรู้สึกว่าตอนนี้ใจแทบที่จะเต้นออกมาแล้ว
เธอก็ได้ด่าตัวเองไม่ได้เรื่องในใจ ก็แค่การโทรมาแบบธรรมดาๆ ก็ตื่นเต้นแบบนี้ ต้องขนาดนี้เลยเหรอ?
ก็ได้สูดหายใจเข้าลึกๆ รอให้ใจเย็นลงเล็กน้อย เธอถึงได้ค่อยๆ เปิดปากพูดว่า “มีเรื่องอะไรไหมคะ?”
ฟางยู่เชินก็ได้มองฟ้าที่มืดนอกหน้าต่าง มุมปากก็ได้เหมือนว่าชี้ขึ้น “ผมแค่อยากจะบอกเธอว่า สื้อสื้อกลับมาแล้ว”
“พี่สื้อสื้อกลับมาแล้ว?”
เสียงที่ดีใจจนเสียงหลงของเหลียงซินเวยที่ได้ดังมาจากปลายสาย ทำเอาฟางยู่เชินขำออกมาอย่างอดไม่ได้ “คุณเหลียง บ้านของคุณเก็บเสียงดีไหมครับ?”
“เก็บเสียง?”
เหลียงซินเวยก็ได้รู้สึกช้าไปเล็กน้อย ว่านี่คือการเยาะเย้ยของเขา
เธอก็ได้จับหน้าที่ร้อนของตน พูดอุบอิบเสียงเบาว่า “ฉันก็ไม่ได้เสียงดังมากสักหน่อย”
ฟางยู่เชินได้ยินเข้า หัวเราะ จากนั้นก็ได้เปลี่ยนเรื่อง พูด “ของเล่นของลูกชายเธออยู่ที่ห้องทำงานของผม เธอหาเวลามาเอาที่บ้านของผมหน่อย จะได้มาเที่ยวหาสื้อสื้อด้วย”
“ค่ะ ฉันไปพรุ่งนี้เลย”
ไม่ต้องให้เขาพูด เธอก็อยากที่จะไปเที่ยวหาพี่สื้อสื้อ
“เธอรู้ที่อยู่เหรอ?” ฟางยู่เชินถาม
“ไม่รู้ค่ะ”
“งั้นเดี๋ยวผมส่งให้เธอ เธอบอกกับคนขับก็พอ”
“ค่ะ ขอบคุณค่ะ”
จากนั้น ทั้งสองก็ได้เงียบ
บรรยากาศอึดอัดเล็กน้อย
“ถ้าเกิดไม่มีอะไรแล้ว ก็แค่นี้ก่อนนะคะ” เหลียงซินเวยก็ได้เปิดปากทำลายบรรยากาศก่อน
“อืม บายๆครับ”
“บายๆ ค่ะ”
เหลียงซินเวยก็ได้วางสาย ความรู้สึกที่สูญเสียก็ได้เข้ามาในใจของเธอเลยทันที
แต่ว่าไม่นานเธอก็ได้กดมันลงไป ก็ได้ขำสมเพชตัวเอง “คนอื่นเขาเรียกเธอว่าคุณเหลียงแล้ว เธอก็อย่าคิดเองเออเองแล้ว”
เธอก็ได้สูดหายใจเข้าไปลึกๆ ก็ได้ก้าวไปที่ห้องอาบน้ำ
……
วันต่อมา
เจียงสื้อสื้อเตรียมที่จะพาเด็กสองคนมาเยี่ยมหาคุณแม่แล้วก็คุณตาที่โรงพยาบาล แต่ตอนที่ทานข้าวเช้านั้น อยู่ๆ พี่ก็ได้บอกกับเธอว่า ซินเวยจะมาเที่ยวหาเธอ
ช่วยไม่ได้ เธอก็ได้ทำได้แค่บอกกับเด็กๆ ว่าพรุ่งนี้ถึงจะพาพวกเขาไปเยี่ยมหาคุณยายแล้วก็คุณทวดตา
เถียนเถียนก็ได้อารมณ์ไม่ดีเล็กน้อย “แต่ว่าหนูจะไปวันนี้ เพราะว่าหนูคิดถึงคุณยายแล้ว”
“เด็กดีเถียนเถียน พรุ่งนี้ พรุ่งนี้หม่ามี๊ก็พาหนูกับพี่ของหนูไปเที่ยวหาคุณยาย ดีไหม?” เจียงสื้อสื้อก็ได้รับปากกับเธอ
“ไม่เอา หนูจะไปวันนี้” ยากที่เถียนเถียนจะไม่เชื่อฟัง
เจียงสื้อสื้อคิดไปคิดมา พูด “ก็ได้ งั้นหม่ามี๊ให้คุณลุงคนขับพาหนูไป ดีไหม?”
“แล้วหม่ามี๊ล่ะ?” เถียนเถียนถาม
“คุณน้าเวยเวยจะมาเที่ยวที่บ้าน หม่ามี๊ต้องต้อนรับเธอ”
“คุณน้าเวยเวย?” เถียนเถียนขมวดคิ้ว “งั้นพี่อานอานก็จะมาใช่ไหมคะ?”
“แน่นอนค่ะ”
พอเถียนเถียนได้ยิน ก็ได้รีบพูดว่า “งั้นหนูไม่ไปโรงพยาบาลแล้ว”
ได้ยินแบบนั้น เจียงสื้อสื้อก็อดขำไม่ได้ “ทำไมไม่ไปอีกแล้วล่ะ? เป็นเพราะว่าพี่อานอานเหรอคะ?”
“ไม่บอก” เถียนเถียนก็ได้หันตัวแล้วก็วิ่งไป
เจียงสื้อสื้อก็ได้ขำแล้วส่ายหน้า “เด็กแสบคนนี้”
“เป็นอะไรเหรอ?” ซ่างหยิงก็ได้เดินมา ถามด้วยความสงสัย
“ไม่มีอะไรค่ะ” เจียงสื้อสื้อหันหน้าไป “คุณน้าสะใภ้ เดี๋ยวสักพักเพื่อนของหนูจะมาเที่ยวที่บ้าน”
“จริงเหรอ?” ซ่างหยิงก็ได้เซอร์ไพรส์มาก “หนูมีเพื่อนใหม่เพิ่มเหรอ?”
“ค่ะ เป็นหญิงสาวที่ดีคนหนึ่ง”
กับเรื่องที่เธอได้มีเพื่อนใหม่เพิ่มนั้น ซ่างหยิงดีใจมากๆ หัวเราะแล้วพูดว่า “งั้นเดี๋ยวน้าไปเตรียมของว่างมาให้ทาน”
ไม่รอให้เจียงสื้อสื้อตั้งตัว เธอก็ได้หันตัวเดินไปที่ห้องครัว
เจียงสื้อสื้ออยากจะพูดว่าไม่ต้องลำบากแล้ว แต่ก็ไม่ทันแล้ว ก็ได้ตามใจเธอไป ยังไงซะเธอชอบทำขนมมากที่สุดแล้ว
ประมาณสิบโมงเช้า เหลียงซินเวยก็ได้พาอานอานมาถึงบ้านใหญ่ตระกูลฟาง
อานอานก็ได้สงสัยสิ่งของในนี้ทั้งหมด มองไปรอบๆ ใบหน้าเล็กๆ นั้นก็ได้เต็มไปด้วยความสงสัยในสิ่งใหม่ๆ
“เวยเวย” เจียงสื้อสื้อก็ได้มองพวกเขาพวกยิ้มไปด้วย
เห็นว่าเธอยืนอยู่ตรงหน้าตัวเองอย่างปลอดภัย ตาของเหลียงซินเวยก็ได้แดงอย่างห้ามไม่ได้ “พี่สื้อสื้อ”
“ทำไมร้องไห้แล้วล่ะ?” เจียงสื้อสื้องงเล็กน้อย
เหลียงซินเวยก็ได้รีบเช็ดน้ำตา ยิ้มออกมา “ฉันก็เป็นเพราะดีใจ ถึงร้องไห้”
เจียงสื้อสื้อก็ได้หัวเราะอย่างรู้สึกผิด “ขอโทษ ทำให้เธอเป็นห่วงแล้ว”
“พี่สื้อสื้อ พี่ไม่ต้องขอโทษ” เหลียงซินเวยก็ได้รีบพูด “พี่สามารถกลับมาอย่างปลอดภัย ฉันก็ดีใจมากแล้ว”
“จ้ะ ฉันรู้ว่าเธอดีใจมากๆ รีบเข้ามานั่งเถอะ”
เจียงสื้อสื้อก็ได้พาเธอกับอานอานมานั่งที่ห้องนั่งเล่น หันหน้าไปพูดกับคนใช้ “ช่วยฉันไปเรียกสองตัวแสบลงมาจากชั้นบนหน่อย ก็บอกพี่อานอานมาแล้ว”
“ค่ะ” คนใช้ก็ได้รีบขึ้นไปชั้นบน
“เสี่ยวเป่ากับเถียนเถียนก็อยู่เหรอคะ?” เหลียงซินเวยก็ได้ประหลาดใจมากๆ
“ใช่ สองวันก่อนพี่ได้ไปรับพวกเขามาเที่ยวเล่นจากเมืองจิ่นน่ะ”
เจียงสื้อสื้อพึ่งพูดจบ ก็ได้ยินเสียงที่สดใสดังขึ้น “พี่อานอาน”
เป็นเถียนเถียน
เธอได้ก้าวเท้าสั้นๆ วิ่งไปหน้าอานอาน ใบหน้าเล็กๆ นั้นก็ได้เต็มไปด้วยรอยยิ้มที่ดีใจสดใส
“เถียนเถียน” อานอานก็ดีใจเหมือนกัน
เหมือนเทียบกับพวกเขาแล้ว เสี่ยวเป่าดูนิ่งเรียบไปมากเลย “สวัสดีครับคุณน้าเวยเวย”
เขายังไม่ลืมที่จะทักทายกับเหลียงซินเวย