ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 1124 ความคิดไร้สาระ
“คุณแน่ใจว่าให้แหวนเป็นของขวัญ” ฟางยู่เชินเอียงศีรษะ แล้วมองเธอด้วยแววตาสงสัย
“ไม่ดีเหรอคะ” เหลียงซินเวยไม่ตอบแต่ถามกลับ
ฟางยู่เชินยิ้ม “ต้องไม่ดีอยู่แล้วสิ เย่เสี่ยวอี้กับผมแม้แต่เพื่อนก็ไม่ได้เป็น ถ้าผมให้แหวนกับเธอ คนอื่นจะคิดอย่างไร”
“เธอไม่ใช่คู่ดูตัวของคุณเหรอคะ”
เดิมทีนี่ก็เป็นเรื่องส่วนตัวของคนอื่น เหลียงซินเวยไม่ควรถามคำถามส่วนตัวแบบนี้ แต่เธอก็อดไม่ได้ เธออยากจะรู้จากปากของเขาเกี่ยวกับความรู้สึกที่เขามีต่อเย่เสี่ยวอี้
“คู่ดูตัวอย่างนั้นเหรอ” ฟางยู่เชินขมวดคิ้ว ไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไง “ที่แล้ววันนั้นผมถูกแม่หลอกให้ไป ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอกำลังจะนัดดูตัวให้ผมกับเย่เสี่ยวอี้”
“ดังนั้น คุณยังไม่คิดจะแต่งงานอย่างนั้นเหรอคะ”
“ผม…” ฟางยู่เชินกำลังจะตอบ แต่นึกขึ้นได้ว่าพวกเขากำลังพูดผิดประเด็น จึงยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ “เรามาที่นี่เพื่อซื้อของขวัญ เรื่องนี้เราจะพูดกันในภายหลัง”
เหลียงซินเวยเองก็รู้สึกว่าเธอเข้าไปยุ่งเรื่องเขามากเกินไป จึงรีบอธิบาย “ฉันแค่ถามไปเฉยๆ ไม่ได้ตั้งใจจะละลาบละล้วงความเป็นส่วนตัวของคุณนะคะ”
“ผมเข้าใจ” ฟางยู่เชินไม่ใส่ใจ
เขาหันกลับไปพูดกับพนักงานว่า “ไม่เลือกแหวนครับ แนะนำสินค้าอื่นให้เราเถอะ”
“งั้นเชิญทางนี้ค่ะ”
พนักงานพาพวกเขาไปที่เคาน์เตอร์อื่น
“นี่คือฝั่งสร้อยคอและสร้อยข้อมือค่ะ พวกคุณลองดูก่อนนะคะ”
ฟางยู่เชินมองดู หลังจากดูจนครบ เขาก็เลือกไม่ถูกว่าอันไหนสวยกว่ากัน
“เวยเวย คุณเป็นคนเลือกเถอะ” เขาพูด
“ฉันเหรอคะ” เหลียงซินเวยชี้หน้าตัวเองอย่างประหลาดใจ
“อืม”
เหลียงซินเวยลังเลเล็กน้อย “จะดีเหรอคะ นี่เป็นสิ่งที่คุณจะเอาไปมอบเป็นของขวัญให้คนอื่นนะคะ คุณน่าจะเลือกเองมากกว่า”
“ไม่เป็นไร ผมให้คุณเลือก คุณก็มาเลือกเถอะ”
ในเมื่อเขาพูดแบบนี้แล้ว เหลียงซินเวยเองก็ไม่สามารถพูดอะไรได้ เธอขยับเข้าใกล้เคาน์เตอร์ แล้วยืนเลือกด้วยสีหน้าจริงจัง
เดิมทีฟางยู่เชินเองก็มองไปที่สร้อยคอ แต่ไม่รู้ทำไมสายตาของเขาถึงได้หันไปมองเหลียงซินเวยนเวยโดยไม่รู้ตัว
ผิวของเธอขาวมาก พออยู่ภายใต้แสงไฟในร้าน ยิ่งทำให้ดูขาวผ่องมากขึ้น
ภายใต้ขนตาที่ยาวและโค้งมน ดวงตาใสสะอาดหนึ่งคู่ จมูกเล็กน่ารัก และริมฝีปากสีดอกกุหลาบที่เปิดออกเล็กน้อย เหมือนจะสามารถดึงดูดสายตาทุกคน
นายกำลังคิดอะไรอยู่กัน
ฟางยู่เชินตกใจกับความคิดของเขาเอง เขาเงยหน้าขึ้นนวดขมับตัวเอง ก่อนที่จะยกยิ้มอย่างช่วยไม่ได้
“คุณฟางคะ ฉันคิดว่าอันนี้ไม่เลวนะคะ”
เหลียงซินเวยหันกลับมา พอเห็นเขากำลังขมวดคิ้วมุ่น แล้วรีบพูดว่า “คุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ ไม่สบายเหรอคะ”
ฟางยู่เชินลืมตาขึ้น จึงสบตาเข้ากับสายตาที่ห่วงใยของเธอ ทำให้เกิดความรู้สึกแปลก ๆ ผุดเข้ามาในหัวใจของเขา
ปลายคิ้วขมวดขึ้นเล็กน้อย เขาพยายามเมินเฉยต่อความรู้สึกตัวเอง แล้วพูดยิ้มๆ “ผมสบายดี คุณเลือกชิ้นไหนนะ”
เหลียงซินเวยเห็นท่าทางของเขาเป็นปกติ ไม่มีอะไรแตกต่าง เธอถึงได้วางใจแล้วชี้ไปที่สร้อยคอบนเคาน์เตอร์ แล้วพูดว่า “อันนี้ค่ะ สวยมาก ผู้หญิงน่าจะชอบ”
ฟางยู่เชินมองไปตามมือที่เธอชี้ไป
เป็นสร้อยคอเพชรที่เขาดูแล้วมันธรรมดามาก
“คุณแน่ใจเหรอ” ฟางยู่เชินถาม
“ค่ะ” เหลียงซินเวยพยักหน้า “จี้เป็นรูปใบโคลเวอร์สี่แฉก ชาวตะวันตกมักพูดเสมอว่าใบโคลเวอร์สี่ใบแสดงถึงความโชคดี ฉันคิดว่าสร้อยคอนี้เหมาะสำหรับมอบให้เป็นของขวัญวันเกิดค่ะ”
“คุณชอบเหรอ” ฟางยู่เชินถามอีกครั้ง
เหลียงซินเวยยิ้มอย่างเขินอาย “ชอบค่ะ แต่ฉันไม่ซื้อไม่ไหว”
ฟางยู่เชินมองเธออย่างลึกซึ้ง แล้วหันไปพูดกับพนักงาน “งั้นก็ซื้อเส้นนี้”
พนักงานหยิบมันออกมา แล้วถามว่า “ลองใส่ก่อนไหมคะ”
“ได้”
ฟางยู่เชินหยิบสร้อยคอที่พนักงานยื่นให้ แล้วส่งให้เหลียงซินเวย “คุณลองใส่ดูสิ”
เหลียงซินเวยไม่กล้ารับ เธอรีบส่ายหน้าอย่างรวดเร็ว “ไม่ค่ะ นี่คือสิ่งที่คุณจะมอบเป็นของขวัญให้กับผู้อื่น ให้ฉันจะลองไม่ค่อยเหมาะสมนะคะ”
“ถ้าคุณไม่ลอง จะรู้ได้ยังไงว่าเหมาะสมหรือเปล่า” ฟางยู่เชินจงใจทำหน้าบึ้ง
“ก็ได้ค่ะ”
ฟางยู่เชินปลดล็อกตะขอสร้อย “ผมจะใส่ให้คุณเอง”
“ค่ะ” เหลียงซินเวยยกผมขึ้นเล็กน้อย
ทันทีที่เขาเข้าใกล้ กลิ่นหอมที่เป็นกลิ่นเฉพาะของเขาก็โชยเข้ามาในจมูกของเธอ จนห้อมล้อมรอบตัวเธอ
เธอกลั้นหายใจโดยไม่รู้ตัว ใบหน้าของเธอแดงก่ำอย่างห้ามไม่อยู่
“พวกคุณกำลังทำอะไรอยู่?”
ทันใดนั้นเอง มีเสียงแหลมคมของผู้หญิงดังขึ้นมา เหลียงซินเวยสะดุ้งตกใจ ก่อนจะรีบหันไปตามเสียงนั้นอย่างรวดเร็ว
คนคนนั้นคือ เย่เสี่ยวอี้
เธอเหยียบรองเท้าส้นสูงสูงสิบเซนติเมตร กำลังเดินเข้าหาพวกเขาอย่างโมโห
ฟางยู่เชินใส่ตะขอสร้อยคอจนเสร็จ แล้วก้มหน้าลงมองเหลียงซินเวยที่มีท่าทางตื่นกลัว เขาจึงกระซิบบอกว่า “ไม่ต้องกลัว ผมจะจัดการเรื่องนี้เอง”
เหลียงซินเวยเงยหน้าขึ้นมอง
ดวงตาทั้งสองคู่สบตากัน
ฟางยู่เชินยิ้มให้เธอก่อนจะหันไปมองทางเย่เสี่ยวอี้
เย่เสี่ยวอี้คิดไม่ถึงว่าเธอแค่จะออกมาซื้อของในห้างสรรพสินค้า เธอจะได้เห็นฉากที่ทนไม่ได้แบบนี้
ผู้ชายที่เธอชอบกำลังช่วยผู้หญิงคนอื่นใส่สร้อยคออยู่อย่างนั้นเหรอ
“ฟางยู่เชิน คุณทำเกินไปแล้วนะ” ทันทีที่เธอเดินมาถึง เธอก็พูดต่อว่าฟางยู่เชินเสียงดัง
ฟางยู่เชินเลิกคิ้ว แล้วถามด้วยรอยยิ้มว่า “คุณเย่ ผมทำเกินไปอะไรครับ”
“คุณ…” เย่เสี่ยวอี้ถูกถามจนสะอึก ดังนั้นเธอจึงหันไปเล่นงานเหลียงซินเวยแทน “ยัยผู้หญิงไร้ยางอาย ทำไมต้องมายั่วยวนยู่เชินด้วย”
“คุณเย่คะ ฉัน…”
เหลียงซินเวยอยากจะอธิบายให้ชัดเจน แต่ใครจะรู้ว่าฟางยู่เชินจะดึงเธอไปยืนข้างหลังเขา
“คุณฟางคะ” เธอมองเขาอย่างงงๆ นี่เขาจะทำอะไรกันแน่
“นี่เป็นเรื่องของผม คุณไม่จำเป็นต้องอธิบาย” ฟางยู่เชินพูดปลอบเธอ
“แต่ว่า…” เหลียงซินเวยเหลือบมองเย่เสี่ยวอี้ ที่จ้องมาที่เธออย่างดุร้าย ราวกับว่าเธอทำสิ่งที่ชั่วร้ายมาอย่างนั้นแหละ
“มีผมอยู่ทั้งคน”
ฟางยู่เชินแสดงท่าทีให้เธอสบายใจ แล้วมองไปทางเย่เสี่ยวอี้
“คุณเย่ คุณด่าคนอื่นแบบนี้ ไม่เสียชื่อเสียงของคุณหรือไงครับ”
เย่เสี่ยวอี้เห็นเขาดูแลผู้หญิงคนนั้น ใบหน้าของเธอก็บิดเบี้ยวด้วยความหึงหวง ตอนนี้พอได้ยินเขาถามแบบนี้ เธอก็ยิ่งโกรธจนแทบบ้า จึงเผลอสาปแช่งอย่างพลั้งปาก “ยัยผู้หญิงไร้ยางอาย หน้าไม่อาย ชอบยั่วผู้ชายของคนอื่น หน้าด้าน”
ใบหน้าของฟางยู่เชินบึ้งตึง “คุณเย่ รบกวนคุณกล่าวขอโทษเธอด้วย”
“ขอโทษอย่างนั้นเหรอ” เย่เสี่ยวอี้หัวเราะราวกับว่าได้ยินเรื่องที่ตลกขบขันมาก “ฉัน เย่เสี่ยวอี้คนนี้ ไม่มีคำว่าขอโทษสองคำนี้อยู่ในพจนานุกรมของฉันค่ะ”
เธอจ้องไปที่เหลียงซินเวยที่ซ่อนตัวอยู่ข้างหลังเขา สองมือกำหมัดแน่น “ฟางยู่เชิน คุณอย่าลืมนะคะ ว่าความสัมพันธ์ของคุณกับฉันคืออะไร ในอนาคตตระกูลของเราทั้งสองจะแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์กัน”
เมื่อได้ยินแบบนั้น ฟางยู่เชินก็ขมวดคิ้ว
แต่งงานเชื่อมสัมพันธ์อย่างนั้นเหรอ
ใบหน้าของเหลียงซินเวยซีดเผือด
เย่เสี่ยวอี้สูดหายใจลึก แล้วพูดต่อ “วันนี้คุณสามารถมาซื้อสร้อยคอกับผู้หญิงที่นี่ได้ วันอื่นคุณก็สามารถมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนอื่นได้”
เธอเริ่มพูดไร้สาระมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว
แม้แต่ฟางยู่เชินที่ควบคุมอารมณ์เก่งมาโดยตลอดยังเริ่มทนไม่ได้เลย แต่เขายังคงระงับความโกรธไว้ได้ แล้วพูดอย่างไม่พอใจ“คุณเย่ ระวังคำพูดที่คุณพูดด้วย คุณเหลียงเป็นแค่เพื่อนของผม ความสัมพันธ์ของผมกับเธอไม่ใช่สิ่งที่คุณคิดแบบนั้น”
“อย่างนั้นเหรอ แล้วคุณช่วยเธอใส่สร้อยคอทำไม” เย่เสี่ยวอี้ไม่เชื่อเธอ
“นั่นเป็นเพราะว่านี่คือของขวัญที่จะซื้อให้คุณ คุณฟางแค่ให้ฉันลองใส่ให้ดูเท่านั้นเองค่ะ” เหลียงซินเวยอดที่จะพูดออกมาไม่ได้
เธอกลัวว่าถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ทั้งสองคนจะต้องทะเลาะกันร้ายแรงกว่านี้