ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 1136 คุณรู้จักพี่สาวฉันเหรอ
วินาทีที่ประตูถูกกระแทกเปิดออกนั้น เหลียงซินเวยก็หยิบผ้าห่มข้างๆมาพันรอบตัวเองเอาไว้ หดตัวอยู่ที่หัวมุมเตียง
“พรึ่บ!”
เย่เฉินหยุนเปิดไฟ ภายในห้องสว่างไสวขึ้นมาทันที มองเห็นไอ้อ้วนยืนอยู่
บนใบหน้าของไอ้อ้วนเต็มไปด้วยรอยยิ้มประจบสอพลอ “พี่หยุน ไม่เจอกันนานเลยนะครับ”
สายตาของเย่เฉินหยุนมองข้ามเขาไป มองที่หญิงสาวที่ตัวสั่นเทาอยู่บนเตียงคนนั้น ความโกรธก็ออกมาจากในใจไม่หยุด “ไอ้อ้วน แกบ้าไปแล้วเหรอ ถึงได้กล้าทำเรื่องแบบนี้ในบ้านของฉัน!”
“พี่หยุน พี่อย่าเพิ่งเข้าใจผิด ผมก็แค่ดื่มมากไปหน่อย” รีบอธิบาย “อีกอย่างเธอก็เป็นคนยั่วผมเอง”
“เธอยั่วแกเหรอ” เย่เฉินหยุนโกรธอย่างมาก “สภาพแกแบบนี้ ยังมีคนยั่วแกอีกเหรอ”
“ใช่ครับ ก็เธอยั่วผม” ไอ้อ้วนตอบอย่างมั่นใจ
เวลานี้ เสียงที่อ่อนแอบอบบางดังขึ้นภายในห้อง “ไม่……ไม่ใช่ เขา เขาเป็น……”
พูดได้ครึ่งเดียว เหลียงซินเวยก็สะอื้นพูดไม่ออกแล้ว
“พี่หยุน พี่อย่าไปฟังเธอ เธอก็แค่คิดจะแว้งกัดผม ใส่ร้ายผม”
มองเห็นรอยยิ้มประจบสอพลอน่าขยะแขยงบนใบหน้านั้นของไอ้อ้วน เย่เฉินหยุนก็ระงับความโกรธไว้ไม่อยู่ ยกเท้าขึ้นมาถีบเขาทันที
“โอ้ย!”
ไอ้อ้วนล้มลงกระแทกที่บนพื้นด้านหลังอย่างแรง สัมผัสได้ว่าเย่เฉินหยุนโกรธแล้วจริงๆ อีกทั้งยังไม่เชื่อคำพูดของเขา
เขารีบคุกเข่าขอร้อง “พี่หยุน พี่อย่าโกรธเลยนะ ผมก็แค่ดื่มมากไป ไม่ได้ตั้งใจจะข่มขืนเธอจริงๆนะครับ”
“ไอ้อ้วน” เย่เฉินหยุนเดินมาตรงหน้าเขา นั่งยองๆ สบตากับเขา “ต่อไปอย่าติดต่อคบหากับเสี่ยวอี้อีก ตระกูลเย่ของพวกเราไม่ต้อนรับแก”
มีความไม่เต็มใจฉายขึ้นในแววตาของเขา เขากำหมัดแน่น ตอนที่เย่เฉินหยุนลุกขึ้นมานั้นเขาร้องตะโกนว่า “เย่เสี่ยวอี้ให้ผมทำแบบนี้……”
ได้ยินดังนั้น เย่เฉินหยุนก้มหน้า มองเขาด้วยความตกใจ “แกพูดว่าอะไรนะ”
“ผมบอกว่าเสี่ยวอี้ให้ผมทำแบบนี้ เธอบอกผมว่าผู้หญิงคนนี้หยิ่งยโสทระนงตัว มาที่งานวันเกิดเธอเพื่อที่จะจับผู้ชายรวย”
“คุณพูดเหลวไหล!” เหลียงซินเวยตะคอก “ฉันเป็นพนักงานของร้านอาหารชัดๆ มาช่วยงาน ไม่ได้มาจับผู้ชายรวยๆอย่างที่คุณว่าเลย”
เย่เฉินหยุนเงยหน้ามองเธอ เห็นเธอยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาแรงๆ ผมที่ยุ่งเหยิงอยู่ข้างหน้าในตอนแรกถูกเธอปัดไปอยู่ข้างๆ เผยให้เห็นใบหน้าของเธอ
“เหลียงซีเอน!”
เมื่อเห็นใบหน้านั้นชัดเจน เย่เฉินหยุนร้องออกมาอย่างตกใจ
แต่ไม่นานก็พบว่า เขาจำคนผิดแล้ว
แม้ผู้หญิงตรงหน้ากับเหลียงซีเอนที่เขารู้จักจะหน้าตาคล้ายคลึงกันมาก แต่ถ้ามองให้ดีๆแล้ว ไม่ใช่คนเดียวกัน
ตอนที่เหลียงซินเวยได้ยิน“เหลียงซีเอน”สามคำนี้ ก็ตกใจอย่างเห็นได้ชัด จากนั้นจึงตั้งสติกลับมาได้ ดวงตาฉ่ำจ้องมองผู้ชายตรงหน้า ถามอย่างระแวงระวังว่า “คุณรู้จักพี่สาวฉันด้วยเหรอ”
“พี่สาวคุณเหรอ” เย่เฉินหยุนตกใจอีกครั้ง
ไอ้อ้วนเห็นว่าทั้งสองคนไม่ได้สนใจเขาแล้ว ก็แอบลุกขึ้น อยากจะหนีไป
“แกหยุดเดี๋ยวนี้!”
เย่เฉินหยุนสาวเท้าเข้าไป ขวางทางที่เขาจะไป
เขาหันไปมองเย่เฉินหยุน บนใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “พี่หยุน”
เย่เฉินหยุนมุมปากโค้งขึ้นมา “แกคิดว่าเรื่องนี้จะจบลงง่ายๆเหรอ”
“ไม่ใช่อย่างนั้นเหรอครับ” ไอ้อ้วนถาม
“ในเมื่อกล้าทำ ก็ต้องกล้ารับ ใช่มั้ย”
ไอ้อ้วนรีบพยักหน้า “ที่พี่หยุนพูดถูกทุกอย่าง”
มุมปากเย่เฉินหยุนยิ้มกว้างมากขึ้น “งั้นก็ดี แกไปบอกกับตำรวจให้ชัดเจนว่าตกลงเกิดเรื่องอะไรขึ้น”
พอได้ยินว่าจะแจ้งตำรวจ ไอ้อ้วนก็ตื่นตระหนก “พี่หยุน แบบนี้ไม่ได้นะครับ พี่ห้ามไปแจ้งตำรวจนะครับ”
จากนั้น เขาก็หันไปขอร้องอ้อนวอนกับเหลียงซินเวย “คนสวย ขอโทษนะ ผมเลอะเลือนขาดสติเองตอนนั้น คุณดูสิคุณก็ไม่ได้เป็นอะไร ครั้งนี้คุณก็ปล่อยผมไปสักครั้งนะ”
ที่เขาพูดเป็นสิ่งที่คนควรจะพูดมั้ย
อะไรที่เรียกว่าเธอไม่ได้เป็นอะไร
เหลียงซินเวยยิ้มโกรธมาก ไม่นานรอยยิ้มก็เลือนหายไป พูดอย่างเยือกเย็นว่า “ฉันจะแจ้งตำรวจ”
เย่เสี่ยวอี้ที่แอบฟังอยู่ด้านหลังมาตลอด พอได้ยินว่าเหลียงซินเวยจะแจ้งความก็รีบเข้ามา แสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องอะไรทั้งสิ้น ถามว่า “เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ”
ไอ้อ้วนพอเห็นเธอ ก็เหมือนเห็นดาวนำโชคที่จะช่วยชีวิต รีบร้องบอกว่า “เสี่ยวอี้ เธอต้องช่วยฉันนะ ถ้าฉันต้องไปที่สถานีตำรวจ ต้องถูกพ่อตีตายแน่”
“ตกลงว่าเกิดเรื่องอะไรกันแน่” เย่เสี่ยวอี้ยังคงทำเป็นงงไม่รู้เรื่องอะไร
เหลียงซินเวยมองเธออย่างเยือกเย็น แววตาเยาะเย้ย
เมื่อครู่ไอ้อ้วนบอกว่าเย่เสี่ยวอี้สั่งให้เขาทำแบบนี้ ตอนนี้แกล้งทำเป็นใสซื่อไร้เดียงสา
เย่เฉินหยุนจ้องเย่เสี่ยวอี้เขม็ง “เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจริงๆเหรอ”
เย่เสี่ยวอี้กระพริบตาปริบๆ สีหน้าใสซื่อ “ฉันไม่รู้ ว่าเกิดอะไรขึ้น”
เธอมองไปยังเหลียงซินเวย “ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้”
“ไอ้อ้วนบอกว่าเธอให้เขามาข่มขืนผู้หญิงคนนี้ จริงเหรอ” เย่เฉินหยุนถามเสียงขรึม
“อะไรนะ” เย่เสี่ยวอี้เบิกตาโตอย่างตื่นตกใจ ปฏิเสธทันควัน “ฉันเปล่านะ”
เธอหันไปมองไอ้อ้วน “ฉันสั่งให้นายไปทำแบบนี้ตอนไหน นายอย่าพูดจาเหลวไหลใส่ร้ายกันนะ”
“ฉัน……”
ไอ้อ้วนอ้าปากอย่างจะโต้เถียง เย่เสี่ยวอี้กลัวว่าเขาจะพูดความจริงออกมา ก็เลยรีบตัดบทเขา “ไอ้อ้วน ตอนแรกฉันคิดจะช่วยนาย ถ้านายยังใส่ร้ายฉันอีก อย่างนั้นฉันก็จะไม่ช่วยนายแล้ว”
ไอ้อ้วนได้ยินคำตือนในคำพูดของเธอ ก็พูดว่า “พี่หยุน เมื่อกี้ผมพูดมั่วเอง เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเสี่ยวอี้ครับ”
เย่เฉินหยุนมองเขา แล้วมองไปที่เย่เสี่ยวอี้อีก ในใจรู้ดีว่าเรื่องนี้ต้องเกี่ยวข้องกับน้องสาวตนเองแน่นอน
เขาไม่อยากจะปกป้องใครทั้งนั้น
เขาหันหน้าไปมองเหลียงซินเวย “คุณแน่ใจนะว่าจะแจ้งความ”
“แน่ใจค่ะ” เหลียงซินเวยตอบอย่างมั่นใจแน่วแน่
เย่เสี่ยวอี้สีหน้าตื่นตระหนก เธอจะให้ไอ้อ้วนถูกตำรวจจับไปไม่ได้เด็ดขาด
“คุณเหลียง วันนี้เป็นงานวันเกิดของฉัน เห็นแก่หน้าฉัน ครั้งนี้ปล่อยไอ้อ้วน”
เย่เสี่ยวอี้เสียงอ่อนเสียงหวาน ทำให้เหลียงซินเวยรู้สึกน่าขันอย่างมาก
ก่อนหน้านี้เธอมีท่าทางหยิ่งยโสข่มตัวเองอยู่ตลอด
“ถ้าไม่ใช่ว่าคุณผู้ชายท่านนี้เข้ามา ฉันก็คงถูกเขาข่มขืนแล้ว ฉันถูกทำร้ายขนาดนี้ ใครจะเรียกร้องแทนฉันได้อีกล่ะคะ”
พูดพลาง เหลียงซินเวยก็อดไม่ได้ที่ร้องไห้ เธอสูดจมูก พูดอย่างสะอึกสะอื้นว่า“พวกคุณรู้มั้ยว่าฉันท้อแท้ฉันสิ้นหวังมากขนาดไหน มีสิทธิ์อะไรให้ฉันปล่อยเขาไป”
“ไม่ใช่ค่ะ คุณเหลียง ความหมายของฉันคือ ฉันสามารถให้ไอ้อ้วนชดใช้ค่าเสียหายให้คุณ แต่คุณอย่าแจ้งความ ดีมั้ยคะ” เย่เสี่ยวอี้ขอร้องอีก
เหลียงซินเวยปาดน้ำตา “ฉันไม่ต้องการค่าเสียหาย ฉันต้องการแจ้งความ”
“พี่คะ!” เย่เสี่ยวอี้ร้อนรนแล้ว
เย่เฉินหยุนเหลือบมองเธออย่างเยือกเย็น พูดว่า “คุณเหลียง ถ้าคุณยอมเชื่อผม เรื่องนี้ปล่อยให้ผมจัดการ ได้มั้ย ผมจะต้องให้ผลลัพธ์ที่คุณพอใจมากแน่นอนครับ”
เหลียงซินเวยหัวเราะเยาะ “ดังนั้นคุณก็เลยไม่คิดจะแจ้งความ ใช่มั้ยคะ”
“ไอ้อ้วนเป็นเพื่อนของเสี่ยวอี้ แล้วเรื่องก็เกิดที่ในบ้านตระกูลเย่อีกด้วย พวกเราตระกูลเย่ต้องรับผิดชอบ ผมจะรับผิดชอบให้ถึงที่สุด” เย่เฉินหยุนรับรองกับเหลียงซินเวย
เหลียงซินเวยเผยให้เห็นรอยยิ้มดูถูกเยาะเย้ย “คุณจะรับผิดชอบยังไงคะ จ่ายค่าเสียหายเหรอ อย่างนั้นฉันก็อาจจะละโมบเรียกร้องเงินก้อนโต”
“ไม่ว่าคุณจะเรียกร้องเท่าไหร่ ผมก็จะชดใช้ให้คุณ” เย่เฉินหยุนพูด
“พี่คะ!” เย่เสี่ยวอี้มองเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อ หรือว่าเขามองไม่ออกว่าที่จริงแล้วผู้หญิงคนนี้ไม่ได้อยากแจ้งความ แต่อยากได้เงินก้อนโต
เย่เฉินหยุนมองข้ามความไม่พอใจของเธอ “เสี่ยวอี้ เธอไปหยิบเสื้อผ้าให้คุณผู้หญิงคนนี้ใส่”
เย่เสี่ยวอี้รู้จักนิสัยของเขาดี เมื่อเขาตัดสินใจเรื่องอะไรแล้วไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงได้ เธอได้แต่เดินฟึดฟัดไปหยิบเสื้อผ้า