ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 1165 ใช่ คุณคือภรรยาของผม
หลังจากเบอร์เกนกลับไปถึงโรงแรม พอลี่ซาเห็นเขา เธอก็รีบวิ่งเข้าไปหาเขาทันที
“เบอร์เกนคะ อย่าโกรธฉันเลยนะคะ ฉันเองก็ไม่รู้ว่าคาร์อันจะทำแบบนั้น”ลี่ซามองเขาแสร้งทำเป็นรู้สึกผิด
“คุณไม่รู้จริงๆเหรอ” เบอร์เกนมองลงมา แววตาของเขาเย็นชา
ลี่ซาตาเป็นประกาย “ฉันรู้ว่าคุณคงไม่เชื่อ แต่ฉันไม่รู้จริงๆนะคะ ฉันแค่บอกให้คาร์อันให้บทเรียนเล็กๆ น้อยๆกับผู้หญิงคนนั้น แต่คิดไม่ถึงว่า…”
พอพูดถึงตรงนี้ จู่ๆ ลิซ่าก็เหมือนนึกอะไรบางอย่างได้ จึงรีบถามขึ้นมา “ผู้หญิงคนนั้นเป็นยังไงบ้างคะ”
“ไม่เป็นไร”
เบอร์เกนผลักเธอออกไป แล้วเดินไปนั่งที่ห้องนั่งเล่น
ไม่เป็นไรอย่างนั้นเหรอ
ลี่ซากัดฟันกรอด ในแววตาของเธอเต็มไปด้วยความไม่เต็มใจ เธอคิดว่ากระสุนนั้นพุ่งเข้าไป ผู้หญิงคนนั้นไม่ตายก็คงมีเพียงครึ่งชีวิต
“ลี่ซา”
เสียงของเบอร์เกนดึงเธอออกจากภวังค์ความคิดของเธอ เธอหันกลับมา ส่งยิ้มให้แล้วเอ่ยถาม “มีอะไรคะ”
“คาร์อัน ผมส่งคนไปจัดการแล้ว ผมจะจัดคนอื่นไปปกป้องคุณทีหลัง” เบอร์เกนพูดเสียงเรียบราวกับว่าเขากำลังพูดถึงเรื่องธรรมดา
“อะไรนะ” ลี่ซาเบิกตากว้างด้วยความตกใจ “คุณจัดการคาร์อันแล้วอย่างนั้นเหรอคะ”
“อืม” เบอร์เกนเงยหน้าขึ้น เห็นสีหน้าเธอเหมือนไม่เชื่อ จึงยิ้มย่อง แล้วถามกลับ “ไม่ได้หรือไง”
ลี่ซาส่ายหน้าอย่างรวดเร็ว “ไม่ใช่ค่ะ นั่นมันคนของคุณ คุณจะจัดการยังไงก็จัดการได้เลยค่ะ”
แม้ว่าคาร์อันจะเป็นคนของเขา แต่เขาอยู่กับเธอมาหลายปีแล้ว จนกลายเป็นคนสนิทของเธอ แต่คิดไม่ถึงว่าเพราะเรื่องในวันนี้จะทำให้เขาเสียชีวิต
ลิซ่ามานึกเสียใจทีหลัง
เจียงสื้อสื้อไม่เพียงแต่ไม่เป็นอะไร แต่ยังต้องสูญเสียคาร์อันไปครั้งนี้ถือว่าเธอทุ่มเทแต่กลับไม่ได้รับผลดีตอบแทน ยิ่งไปกว่านั้น เบอร์เกนยังบอกด้วยว่าเขาจะส่งคนมาคุ้มครองเธอ แต่ที่จริงแล้วน่าจะมาตามติดเธอมากกว่า
ไม่ได้
เธอจะอยู่เฉยๆไม่ได้แล้ว
ลี่ซาเดินไปนั่งลงข้างเขา ร่างกายส่วนบนของเธอแนบชิดกับเขา แล้วพูดเสียงออดอ้อน “คุณไม่ต้องจัดหาคนมาปกป้องฉันหรอกค่ะ ฉันมีคนปกป้องอยู่แล้ว”
“ไม่ต้องเหรอ” เบอร์เกนเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ
“อืม ไม่ต้องค่ะ คนของตระกูลอเนรีย์เราไม่ได้ด้อยไปกว่าคนที่คุณฝึกมาเลย”
ตระกูลอเนรีย์อีกแล้ว
ประกายตาเย็นวาบผ่านแววตาของเบอร์เกน เธอนึกว่าเขาไม่เข้าใจว่าเธอกำลัง ใช้ตระกูลอเนรีย์มาเตือนเขาหรือไง
เบอร์เกนผลักเธอออกไป แล้วดึงเน็คไทของเขาออก ก่อนจะพูดอย่างเชื่องช้า “ในเมื่อเป็นอย่างนี้ พวกเราก็หย่ากันเถอะ คุณกลับไปหาตระกูลอเนรีย์”
พอได้ยินแบบนี้ ลี่ซาก็ตกใจ “เบอร์เกน คุณกำลังพูดอะไรคะ ทำไมเราต้องหย่ากันด้วย”
เบอร์เกนหันกลับมา แล้วมองเธอด้วยสายตาที่ไม่มีความอบอุ่น “ในเมื่อคุณคิดว่าคนของตระกูลอเนรีย์ดีกว่าคนที่ผมฝึกมา ผมคิดว่าคุณคงไม่ต้องการสามีอย่างผมแล้ว”
เขาลุกขึ้นยืน “หาวันมา แล้วเราไปหย่ากันเลย”
เขาโกรธแล้ว
ลี่ซาลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว เธอวิ่งไปกอดเอวของเขาไว้จากด้านหลัง แล้วรีบพูด “ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้นนะคะ ได้ค่ะ…คุณจัดคนของคุณมาปกป้องฉัน โอเคไหมคะ”
ในการแต่งงานครั้งนี้ ยังไงเธอก็ด้อยกว่าเสมอ
ถึงแม้เธอจะไม่เต็มใจ แต่เธอก็ไม่อยากให้เขาทิ้งเธอไป
“ช่างเถอะ ยังไงคุณก็ดูถูกคนของผมอยู่ดี” เบอร์เกนแกะมือเธอออก แล้วเดินตรงไปที่ห้อง
“เบอร์เกนคะ”
ลี่ซาวิ่งตามเขาไป จนเกือบจะวิ่งชนประตูที่ปิดลง
เธอรีบเอื้อมมือไปบิดลูกบิดประตู มันถูกล็อกจากด้านใน
คราวนี้เขาโกรธแล้วจริงๆ
ลี่ซาตบประตูแรงๆ แล้วตะโกนออกมา “เบอร์เกนคะ ฉันจะไม่พูดถึงตระกูลอเนรีย์อีกแล้ว คุณอย่าโกรธเลยนะคะ ฉันผิดไปแล้ว”
ไม่มีสัญญาณตอบกลับ
เธอทุบประตูอีกครั้ง “เบอร์เกนคะ คุณเปิดประตูสิคะ”
ยังคงไม่มีสัญญาณตอบกลับ
“เบอร์เกน…” ลี่ซาค่อยๆลดแรงทุบประตู แล้วหัวเราะเยาะตัวเอง “ในใใจของคุณฉันเป็นอะไรกันแน่ คุณคิดว่าฉันไม่รู้ว่าคุณกำลังหาข้ออ้างมาทะเลาะเหรอ คุณรักยัยผู้หญิงไร้ยางอายคนนั้นแล้ว ใช่ไหม
ในเมื่อคุณทำแบบนี้ ฉันก็ไม่จำเป็นต้องใจอ่อนอีกต่อไป ฉันไม่ปล่อยยัยผู้หญิงไร้ยางอายคนนั้นแน่ๆ “
ทันทีที่พูดจบ ประตูห้องก็เปิดออก
สีหน้าของเบอร์เกนตึงเครียด ดวงตาของเขาจ้องมองเธออย่างเย็นชา น้ำเสียงเคร่งขรึม “ลี่ซา อย่าท้าทายความอดทนของผม ไม่อย่างนั้นผมไม่ปล่อยคุณไว้แน่ๆ”
จู่ๆลี่ซาก็หัวเราะออกมาเสียงดัง รอยยิ้มของเธอเต็มไปด้วยความเศร้า “เบอร์เกน ผู้หญิงคนนั้นมีดีอะไร คุณถึงทำกับฉันแบบนี้เพื่อเธอ คุณอย่าลืมนะ ว่าฉันต่างหากที่เป็นภรรยาของคุณ”
เบอร์เกนจ้องมองเธอเงียบๆ
หลังจากนั้นไม่นานเขาก็พูดขึ้นมา “ใช่ คุณเป็นภรรยาของผม”
พอได้ยินแบบนี้ ลี่ซาก็เบิกตากว้างด้วยความดีใจ
“แต่คุณไม่มีสิทธิ์มายุ่งเรื่องของผม”
ความดีใจในดวงตาของเธอจางหายไปในทันที ลี่ซายิ้มเยาะเย้ย “คุณคิดว่าฉันอยากยุ่งเรื่องของคุณหรือไง ถ้าไม่ใช่เพื่อหน้าตาของทุกคน ฉันก็ขี้เกียจจะยุ่งเรื่องของคุณ”
จะพูดให้ถูกก็คือ เพื่อหน้าตาของเธอเอง
เธอไม่อยากถูกคนดูถูกเพราะผู้หญิงไร้ยางอายคนนั้น ว่าแม้แต่หัวใจของสามีเธอยังรักษาเอาไว้ไม่ได้
เบอร์เกนยิ่งรู้สึกหงุดหงิด ทุกครั้งที่เขาต้องทะเลาะกับเธอเพราะเรื่องบ้าๆพวกนี้ ไม่มีอะไรจะต้องพูดแล้ว
“เอาล่ะ คุณจำไว้ว่าเธอมีประโยชน์ต่อการวิจัยของผม” เบอร์เกนพูด
ลี่ซายิ้มเยาะ “คุณคิดว่าฉันจะเชื่อคุณเมื่อคุณพูดอย่างนั้นเหรอ ก็เห็นอยู่ชัดๆว่าคุณหลงเธอ”
เบอร์เกนหรี่ตา “ผมบอกไปแล้ว ว่าคุณไม่มีสิทธิ์มายุ่งเรื่องของผม”
“ฉันเองก็ไม่อยากยุ่ง” ลี่ซาเองก็รู้สึกเหนื่อยแล้ว “ฉันแค่อยากจะบอกคุณ อยากเล่นได้ แต่จำไว้ว่าฉันต่างหากที่เป็นเป็นภรรยาของคุณ”
พูดจบเธอก็เดินเข้าไปอีกห้องหนึ่ง
ปัง
เสียงประตูถูกปิดอย่างรุนแรง
เบอร์เกนขยี้ผมอย่างอารมณ์เสีย ถ้าเขาทำได้ เขาอยากจะหย่าตอนนี้เลย จะได้ไม่ต้องมาปวดหัวกับเรื่องบ้าๆพวกนี้
แต่ว่า เรื่องของเจียงสื้อสื้อเขาไม่มีทางยอมปล่อยไปแน่ๆ
……
เหลียงซินเวยไม่รู้ว่าเจียงสื้อสื้อกลับมาที่เมืองจิ่นแล้ว ในวันนี้ เธอนำเค้กที่เธอทำเองกับมือมาที่บ้านของตระกูลฟาง
พอซ่างหยิงเห็นเธอ คิ้วของเธอก็ขมวดขึ้นเล็กน้อย แต่เธอก็ยังยิ้มแล้วพูดว่า “หนูเวยเวยมาแล้วเหรอจ้ะ”
“สวัสดีคุณน้า” เหลียงซินเวยพยักหน้าทักทายอย่างสุภาพ “พี่สื้อสื้ออยู่ไหมคะ”
“สื้อสื้อเหรอจ้ะ เธอกลับมาที่เมืองจิ่นแล้ว”
“กลับไปที่เมืองจิ่นแล้วเหรอคะ” เหลียงซินเวยประหลาดใจ
“ใช่จ้ะ เพิ่งจะกลับไปเมื่อเช้านี้”
เหลียงซินเวยยิ้มอย่างทำตัวไม่ถูก “ดูเหมือนหนูจะมาไม่ถูกเวลา รอเธอกลับมาแล้ว ฉันค่อยมาอีกทีแล้วกันค่ะ”
พอเห็นเธอหันหลังเตรียมจะจากไป ซ่างหยิงก็รีบพูดขึ้นมา “หนูจะไม่เข้าไปนั่งพักก่อนเหรอจ้ะ”
“ไม่ดีกว่าค่ะ ฉันแค่จะมา…” เหลียงซินเวยนึกขึ้นได้ว่าเธอมาส่งเค้ก จึงรีบส่งถุงในมือให้ซ่างหยิง “คุณน้าคะ นี่เป็นเค้กที่หนูทำเองกับมือ หวังว่าคุณป้าจะไม่รังเกียจนะคะ”
“ทำเองเหรอจ๊ะ” ซ่างหยิงเปิดถุงออกมาเหลือบมอง แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ทำไมน้าจะต้องรังเกียจด้วยล่ะ เข้ามานั่งพักดื่มชาสักถ้วยแล้วค่อยกลับสิจ๊ะ”
“ไม่ดีกว่าค่ะ ขอบคุณนะคะคุณน้า หนูขอตัวกลับก่อนดีกว่าค่ะ ลาก่อนค่ะ” เหลียงซินเวยก้มหน้าให้เล็กน้อย ก่อนจะหันหลังแล้วรีบเดินออกไป
ซ่างหยิงเลิกคิ้ว หันหลังเดินเข้าไปในห้องครัว แล้ววางเค้กไว้บนโต๊ะ
ในตอนกลางคืน ฟางยู่เชินที่ทำงานจนถึงดึกเริ่มรู้สึกหิวเล็กน้อย เขาจึงลุกขึ้นแล้วเดินลงข้างล่างเพื่อค้นหาอาหาร
ตอนที่เดินเข้ามาในห้องครัว เห็นมีถุงวางอยู่บนโต๊ะ จึงรู้สึกสงสัยเล็กน้อย พอเดินไปดู พบว่ามีเค้กชิ้นหนึ่งอยู่ในถุง
เขาหั่นชิ้นเล็กๆมากิน ก่อนที่ดวงตาจะเป็นประกายขึ้นมา อืม อร่อยดี
คงจะเป็นเพราะว่าเขาหิวจริงๆ เขาจึงกินเค้กทั้งก้อนหมดในคราวเดียว