ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 1204 ฉันต้องการเวลาที่แน่ชัด
ถึงปากเขาจะบอกว่าเชื่อใจเธอ แต่ในใจนั้นกลับไม่ใช่เลย
เจียงสื้อสื้อขำออกมาเบาๆ “เบอร์เกน คุณคิดมากไปแล้ว แม้แต่โหหกคุณฉันยังไม่อยากเลย”
รอยยิ้มบนใบหน้าของเบอร์เกนดูเกร็งไปในทันที แววตาดูเคร่งขรึมลงไปมาก
เจียงสื้อสื้อหมุนตัว แล้วยิ้มให้จิ่งหลิวเยว่อย่างไม่มีมารยาท “คุณจิ่งคะ ต้องขอโทษด้วย ฉันคงช่วยคุณไม่ได้แล้ว”
เธอไม่อยากสร้างปัญหาให้ใครอีกแล้ว
ทางที่ดีไม่ควรดึงจิ่งหลิวเยว่เข้ามาเกลอี่ยวด้วย
“พี่สะ……ไม่ใช่ คุณเจียง คุณคงไม่ได้คิดจะทิ้งผมไว้กลางทางใช่มั้ยครับ?” จิ่งหลิวเยว่เกือบเปิดเผยความสัมพันธ์ของเขากับเจียงสื้อสื้อไปแล้ว โชคยังดีที่เขาเปลี่ยนคำพูดได้ทัน
“ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ค่ะ”
ถึงจิ่งหลิวเยว่มีใจที่จะช่วยเธอออกไปมากแค่ไหน แต่เธอก็คงมีความกังวลของเธอ เขาก็พูดอะไรไม่ได้อีก
จึงได้แต่พยักหน้าไป “ก็ได้ครับ ผมไปหาคนอื่นก็ได้”
เขาหันหลังแล้วเดินเข้าไปข้างใน แล้วหันมามองเจียงสื้อสื้อเป็นพักๆ กลัวเบอร์เกนจะทำอะไรเธอ
รอตนจิ่งหลิวเยว่เดินไปไกลแล้ว เบอร์เกนถึงพูดออกมาว่า “โซเฟย่า ผมไม่ชอบให้ใครมาโกหกผม”
เจียงสื้อสื้อหันหน้ามา สายตาที่เย็นชาจ้องไปที่เขา ริมฝีปากแดงๆ เปิดออก “ฉันเองก็เหมือนกันค่ะ ดังนั้น ฉันจึงหวังว่าคุณจะรักษาคำพูดของตัวเองด้วย”
“ฮ่าฮ่า” เบอร์เกนหัวเราะออกมาเสียงดัง จ้องเธอตาไม่กะพริบ “คุณนี่ช่างน่าสนใจจริงๆ”
คิ้วของเจียงสื้อสื้อขมวดเป็นปม
น่าสนใจเหรอ? เธอน่าสนใจตรงไหน?
“คุณไม่ต้องห่วง รองานเลี้ยงจบลง ผมก็จะบอกคุณเองว่าซ่างกวนหยวนจะกลับมาเมื่อไหร่”
พูดจบ เขาก็จับมือของเจียงสื้อสื้อไว้ แล้วจูงมือเธอไป
เจียงสื้อสื้ออยากดึงมือกลับมาก แต่เธอแค่ทนอีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะได้รู้เวลาที่ซ่างกวนหยวนจะกลับมาแล้ว เธออดทนเอาไว้เดินตามเบอร์เกนกลับเข้างานเลี้ยงไป
……
“ทำไมถึงกลับมาแล้วล่ะครับ?”
พอฟางยู่เชินเห็นจิ่งหลิวเยว่เดินเข้ามา เขาก็เบิ่งตาโตด้วยความตกใจ
จิ่งหลิวเยว่ยักไหล่ แล้วพูดออกมาอย่างจนใจว่า “ถูกเจอตัวเข้าน่ะครับ”
“เป็นไปได้ยังไง?”
ฟางยู่เชินมองไปทางประตู ก็ได้เห็นเจียงสื้อสื้อดึงตัวเบอร์เกนเข้ามา
“คู่ต่อสู้นั้นยิ่งใหญ่เกินไป” จิ่งหลิวเยว่ถอนหายใจออกมาอย่างแรง
ถ้าจะพูดให้ถูกกว่านั้นคือ พวกเขาดูถูกเบอร์เกนมากเกินไป
“ไม่ได้ ผมต้องไปช่วยสื้อสื้อให้ได้”
ฟางยู่เชินยกแก้วไวน์ขึ้นมา แล้วเดินเข้าไปหาพวกเบอร์เกน
“คุณเบอร์เกน”
ฟางยู่เชินเข้าไปขวางเบอร์เกนเอาไว้ตรงๆ
เบอร์เกนเหลือบตาขึ้น มองมาที่เขาด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย “ประธานฟาง นี่คุณหมายความว่ายังไงครับ?”
“ที่นี่มีคำพูดหนึ่งว่า ‘มีเพื่อนที่ชอบอะไรเหมือนๆ กันเดินทางมาจากที่แดนไกล จะไม่ให้ดีใจได้ยังไง’ เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้พบคุณครับ”
ฟางยู่เชินยกแก้วไวน์ขึ้น
เบอร์เกนไม่เข้าใจคำพูดของเขาเมื่อกี้ จึงได้หันไปขอเจียงสื้อสื้อให้ช่วยแปลความหมาย
“พี่ชายของฉันบอกว่า คุณเป็นเพื่อนที่มาจากที่อื่นค่ะ” เจียงสื้อสื้อมองไปยังฟางยู่เชิน และเห็นความกังวลจากแววตาของเขา
เธอเองก็ไม่สามารถพูดอะไรต่อหน้าเบอร์เกนได้ ทำได้แค่ยิ้มให้กำลังใจเขาเท่านั้น บอกเขาว่าตัวเองไม่เป็นไร
“ที่แท้ก็หมายความว่าแบบนี้นี่เอง” เบอร์เกนพยักหน้าด้วยความเข้าใจ ยกแก้วขึ้นมาชนกับเขาทีหนึ่ง “ใช่ครับ เราเป็นเพื่อนกัน”
ช่วงเวลาต่อจากนั้น หางยู่เชินก็ตามพวกเขาไปตลอด
มาร์ซิวอยากไล่เขาไป แต่ก็ถูกเบอร์เกนห้ามเอาไว้ก่อน
“เขาเป็นเพื่อนของผม”
ตอนที่พูดแบบนั้น เบอร์เกนก็หันไปมองฟางยู่เชินอย่างลึกซึ้งทีหนึ่ง
ส่วนฟางยู่เชินนั้นได้เชิดคางขึ้น วางท่ามั่นอกมั่นใจ
เจียงสื้อสื้อที่ควรจะกังวล พอเห็นท่าทางของฟางยู่เชินเข้า เธอก็อดไม่ได้ที่จะขำออกมา
ดูไม่ออกจริงๆ เลยว่า พี่ชายจะมีช่วงเวลาที่หน้าด้านแบบนี้กับเขาด้วย
พองานเลี้ยงจบลง ฟางยู่เชินก็รีบดึงเจียงสื้อสื้อไว้หลบไว้ที่ข้างหลังทันที “คุณเบอร์เกน น่าจะพอได้แล้วมั้งครับ?”
พวกมาร์ซิวอยากเข้ามาชิงตัว แต่เบอร์เกนก็ยื่นมือออกมาห้ามไว้ก่อน เขาเหลือบตาขึ้นมามองเจียงสื้อสื้อ “โซเฟย่าผมเป็นคนที่รักษาคำพูด”
“ถ้าอย่างนั้นก็บอกฉันมาว่าซ่างกวนหยวนจะกลับประเทศเมื่อไหร่”
เบอร์เกนยิ้มออกมา “วันสองวันนี้แหละครับ พวกคุณก็เตรียมตัวกันให้ดีแล้วกันครับ”
“ฉันต้องการเวลาที่แน่ชัด”
เวลาที่ไม่ชัดเจนแบบนี้เธอเองก็รู้ตั้งนานแล้ว
สิ่งที่เธออยากได้คือเวลาอันแน่ชัดที่ซ่างกวนหยวนจะกลับมา
“เธอไม่ได้บอกผมครับ”
ไม่ใช่ว่าเบอร์เกนไม่อยากบอกเธอ แต่ซ่างกวนหยวนนั้นระวังตัวเกินไป แม้แต่เวลาที่แน่ชัดยังไม่ยอมบอกให้เขารู้เลย
“คุณหลอกฉันใช่มั้ย?” เจียงสื้อสื้อมองเขาด้วยสายตาที่ไม่อยากจะเชื่อ
“ผมไม่ได้หลอกคุณ ซ่างกวนหยวนจะกลับมาภายในวันสองวันนี้จริงๆ ยังไงพวกคุณก็ส่งคนไปเฝ้าไว้ที่สนามบินตั้งนานแล้ว เชื่อว่าอีกไม่นานก็น่าจะได้รับข่าวดีแล้วครับ”
พูดจบ เบอร์เกนก็พาพวกมาร์ซิวจากไปทันที
เจียงสื้อสื้อตะโกนตามหลังเขาไปด้วยความโมโห “เบอร์เกน ฉันจะไม่มีทางเชื่อคุณอีก!”
พอได้ยินแบบนั้น เบอร์เกนก็หยุดเท้าลง จากนั้นก็เดินหน้าต่อไป โดยไม่หันกลับมามองด้วยซ้ำ
“อย่าโกรธเลย อย่างน้อยเราก็รู้ว่าเป็นวันสองวันนี้แล้ว” ฟางยู่เชินตบไหลปลอบใจเจียงสื้อสื้อเบาๆ
เจียงสื้อสื้อหายใจเข้าลึกๆ มุมปากยิ้มออกมาอย่างขมขื่น “ฉันมันไร้เดียงสาเกินไป ฉันควรจะรู้ตัวตั้งนานแล้วว่าซ่างกวนหยวนนั้นไม่มีทางบอกใครง่ายๆ หรอกว่าตัวเองจะกลับประเทศเมื่อไหร่”
สิ่งที่เธอโมโหก็คือ เธอกลับเชื่อว่าตัวเองจะสามารถได้ข้อมูลอะไรจากปากเบอร์เกนจริงๆ
“ไม่เป็นไร สองวันนี้ฉันจะให้คนเฝ้าระวังหนักยิ่งกว่าเดิม”
ฟางยู่เชินหายใจเข้าลึกๆ “ยังดีที่เขาไม่ได้ทำอะไรเธอ ไม่อย่างนั้นฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะช่วยเธอยังไง”
“ขอโทษค่ะที่ทำให้พี่เป็นห่วง”
เธอทำหน้ารู้สึกผิด ฟางยู่เชินยกมือขึ้นมาลูบหัวเธอ “ไม่เป็นไร”
“พี่สะใภ้ครับ” จิ่งหลิวเยว่วิ่งเข้ามา “พี่ไม่เป็นไรใช่มั้ย?”
เจียงสื้อสื้อส่ายหน้าด้วยรอยยิ้ม “ฉันไม่เป็นอะไร”
“ค่อยยังชั่ว” จิ่งหลิวเยว่รู้สึกโล่งอก แล้วถามไปอีกว่า “จริงด้วย พี่ใหญ่จะกลับมาเมื่อไหร่เหรอครับ?”
พอพูดถึงจิ้นเฟิงเฉิน สีหน้าของเจียงสื้อสื้อก็ดูนิ่งลงไป เธอพยายามยิ้มออกมา “อีกไม่นาน”
“อีกไม่นานนี่หมายความว่ายังไงครับ?” จิ่งหลิวเยว่หันมองฟางยู่เชินด้วยความไม่เข้าใจ
ฟางยู่เชินตบๆ ที่ไหล่เขา “อีกไม่นานก็คืออีกไม่นาน ถ้าเขากลับมาเมื่อไหร่ ผมจะบอกเขาให้ว่าคุณคิดถึงเขามากนะครับ”
“ผมไม่ได้คิดถึงเขาสักหน่อย” จิ่งหลิวเยว่ทำหน้าไม่ถูก “ผมแค่ถามไปงั้นแหละ”
ฟางยู่เชินหัวเราะออกมา “เอาล่ะ ไม่พูดแล้ว ผมต้องพาสื้อสื้อกลับบ้านแล้ว”
“ครับ เดินทางปลอดภัยนะครับ”
หลังบอกลาจิ่งหลิวเยว่เสร็จ ฟางยูเชินกับเจียงสื้อสื้อก็กลับไปที่บ้านใหญ่ตระกูลฟาง
พอรถหยุดลง ฟางยู่เชินก็หันไปพูดว่า “สื้อสื้อ ฉันยังมีธุระต้องไปทำ เธอเข้าบ้านไปก่อนนะ”
“ดึกขนาดนี้แล้ว พี่ยังจะไปไหนอีกคะ?” เจียงสื้อสื้อถามด้วยความสงสัย
“ไปหาเพื่อนน่ะ”
“เพื่อนเหรอคะ?” เจียงสื้อสื้อขมวดคิ้ว “พี่คงไม่ได้จะไปหาเวยเวยใช่มั้ยคะ?”
ฟางยู่เชินไม่ได้ตอบไปตรงๆ แค่พูดไปว่า “ไม่นานฉันก็กลับแล้ว”
“ไม่ใช่ พี่คะ ถ้าพี่ไม่ได้รู้สึกอะไรกับเวยเวย พี่ก็อยู่ให้ห่างจากเธออย่าทำให้เกิดความเข้าใจผิด ถึงเวลาเรื่องมันจะลำบากนะคะ”
เจียงสื้อสื้อเตือนสติเขา เพราะเธอไม่อยากให้ถึงเวลาเขาจะไปทำร้ายเหลียงซินเวยเข้า
ฟางยู่เชินยักคิ้ว “เธอคิดมากไปแล้ว ฉันไม่ได้จะไปหาเธอสักหน่อย”
“จริงเหรอคะ?” เจียงสื้อสื้อมองเขาด้วยความสงสัย
“จริงๆ ฉันจะรีบไปรีบกลับแล้วกัน เธอเองก็รีบๆ นอนซะ”
ในเมื่อเขาพูดมาแบบนั้น แล้วเจียงสื้อสื้อยังจะพูดอะไรได้ ทำได้แค่เตือนเขาไปว่าอย่ากลับดึกแล้วลงจากรถไป
หลังมองเขาขับรถออกไป เจียงสื้อสื้อถึงได้หมุนตัวแล้วเดินเข้าบ้านไป