ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 122 เขาจะตอบตกลงหมั้นหมายไหม
บทที่ 122 เขาจะตอบตกลงหมั้นหมายไหม
พูดถึงเรื่องแต่งงาน ซูชิงหยิงเขินขึ้นมาทันที
“คืนนี้ตระกูลจิ้นยังชวนพ่อแม่ฉันกินข้าว บอกว่าจะคุยเรื่องงานแต่ง……คุณเจียงคะ ฉันกลับประเทศก็ไม่มีเพื่อนอะไร รู้จักคุณไม่นานแต่รู้สึกเราสองคนเข้ากันได้ดี ถ้าฉันหมั้นกับเฟิงเฉินเมื่อไหร่ คุณต้องมานะคะ”
ใจเจียงสื้อสื้อเหมือนมีอะไรหล่นทับ สีหน้าซีดไปเล็กน้อย แล้วพูดว่า “ค่ะ”
ไม่รู้ว่าเป็นอะไร รู้ทั้งรู้ว่าเขากับเธอมันเป็นไปไม่ได้ แต่พอได้ยินว่าสองครอบครัวเขาคุยเรื่องหมั้นหมายกันหรืออาจจะหมั้นกันในไม่ช้า เจียงสื้อสื้อรู้สึกเหมือนมีมีดแทงเข้าไปในใจ เหมือนมีมดล้านตัว กำลังกัดตัวเอง ความรู้สึกเจ็บปวดแบบนี้ เขียนอยู่บนใบหน้าเลย
ซูชิงหยิงเมื่อทำได้ตามเป้าหมายตัวเองแล้ว ยิ้มและพูดว่า “ขอโทษนะคะ รู้สึกว่าฉันจะพูดมากไป ต้องขอโทษด้วยค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ นี่ก็สายแล้ว ไม่อยากให้เฟิงเฉินรอนาน”
“อืม” เจียงสื้อสื้อพยักหน้าตอบ
ซูชิงหยิงเดินจากไป ยิ้มที่มุมปากอย่างได้ใจ
ก็แค่ลูกสาวที่ตระกูลเจียงไม่เอา เธอไม่เชื่อหรอก ว่าตัวเองจะสู้เธอไม่ได้
แต่สำหรับเจียงสื้อสื้อก็รู้ตัวเอง ว่าไม่คู่ควรกับจิ้นเฟิงเฉิน ถึงได้ตัดขาดความสัมพันธ์กับเขา
คืนนี้พ่อจิ้นกับแม่จิ้นอยู่ทั้งสองคน เธอต้องคิดหาวิธีให้จิ้นเฟิงเฉินตอบตกลงเรื่องแต่งงานให้ได้ ซูชิงหยิงสายตาเชื่อมั่น
……
เจียงสื้อสื้อยืนนิ่งอยู่กับที่ พอตั้งตัวได้ ก็ยิ้มขึ้น เหมือนประชดตัวเอง จะมีสิทธิ์อะไรไปเสียใจ
แบบนี้ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ?
จิ้นเฟิงเฉินแต่งงานกับซูชิงหยิง ทุกคนต้องยินดีกับงานแต่งนี้ ไม่เหมือนเขากับเธอ ถ้าอยู่ด้วยกันจริง ตระกูลจิ้นคงคัดค้านทั้งตระกูล ในสายตาคนอื่นคงไม่มีใครเห็นด้วยว่าเธอคู่ควรกับเขา
เจียงสื้อสื้อสูดลมหายใจ ตั้งสติแล้วเดินเข้าไปในห้องประชุม
ลู่เจิงให้ที่นั่งเธออยู่แถวหน้าสุด เจียงสื้อสื้อหาตามลำดับที่นั่ง แต่นึกไม่ถึงว่าจะเจอจิ้นเฟิงเฉินกับซูชิงหยิง และที่นั่งที่ลู่เจิงจัดให้ ก็บังเอิญอยู่ข้างจิ้นเฟิงเฉิน
ทันใดนั้น เจียงสื้อสื้อรู้สึกอึดอัด ทำไมบังเอิญขนาดนี้
จิ้นเฟิงเฉินเห็นเจียงสื้อสื้อตั้งแต่เธอเดินเข้ามา สีหน้าเขาไม่ได้แสดงอารมณ์ และไม่ได้พูดอะไร
เจียงสื้อสื้อทำตัวไม่ถูก การปราศรัยจะเริ่มขึ้นแล้ว ข้างหลังก็มีคนเร่ง “คุณ ขอโทษนะคะ ขอทางหน่อยค่ะ”
เจียงสื้อสื้อกัดฟัน สุดท้ายก็ต้องนั่งลงที่ข้างจิ้นเฟิงเฉิน
ซูชิงหยิงสีหน้าไม่ค่อยดี เพราะเธอก็นึกไม่ถึง ว่าที่ของเจียงสื้อสื้อจะอยู่ข้างจิ้นเฟิงเฉิน
เธอหรี่ตาเล็กน้อย แกล้งถามขึ้น “เฟิงเฉิน งานเลี้ยงของตระกูลจิ้นกับตระกูลซูคืนนี้ คุณไปไหมคะ?”
“อืม” จิ้นเฟิงเฉินตอบ ใจเขาคิดแต่เรื่องเจียงสื้อสื้อ ไม่ได้ยินด้วยซ้ำว่าซูชิงหยิงพูดอะไร
ได้ยินแบบนี้ เจียงสื้อสื้อจิตใจสับสนวุ่นวาย
เขาจะตกลงหมั้นกับซูชิงหยิงไหม?
เจียงสื้อสื้อถอนหายใจ คิดในใจว่า คงตกลงมั้ง
ยิ่งคืนนี้พ่อจิ้นกับแม่จิ้นอยู่ด้วย พวกเขาต้องคิดหาวิธีให้จิ้นเฟิงเฉินตอบตกลงแน่นอน
เจียงสื้อสื้อพยายามให้ตัวเองสงบสติอารมณ์ บังคับตัวเองไม่ให้คิดเรื่องจิ้นเฟิงเฉิน เธอบอกตัวเองในใจ เขาจะทำอะไรก็ไม่เกี่ยวกับเธอ
ซูชิงหยิงได้ยิน ก็ยิ้มไม่ได้พูดอะไรอีก
จากนั้นงานปราศรัยก็เริ่มขึ้น ประธานขึ้นกล่าวจบ ลู่เจิงก็ขึ้นมาปราศรัย
เขาใส่สูทดำทั้งชุด เคล้าหน้าคมชัด คิ้วโก่งเข้ารูป
สุภาพเรียบร้อย หญิงสาวในงานต่างเฮฮากัน สายตาเต็มไปด้วยความชอบในตัวลู่เจิง
“อ้าก…รุ่นพี่ลู่หล่อมากเลย”
“ใช่ ๆ ๆ ผู้ชายในฝันเลย ไม่รู้ว่ามีแฟนรึยัง”
“ว้าว ๆ ๆ งานปราศรัยจบอยากไปขอไอดี วีแชทจังเลย”
หญิงสาวในงานพูดกันอย่างตื่นเต้น จนลู่เจิงเดินถึงกลางเวทีแนะนำตัว ทุกคนถึงเงียบ และตั้งใจฟัง
ลู่เจิงมองไปที่เจียงสื้อสื้อก่อน และยิ้ม เจียงสื้อสื้อก็ยิ้มตอบ
จากนั้นเขาถึงเห็นจิ้นเฟิงเฉินที่นั่งอยู่ข้างๆ ลู่เจิงอึ้งเล็กน้อย ก็ยิ้มทักทาย
จิ้นเฟิงเฉินก็พยักหน้าทักทาย สีหน้าไม่ค่อยพอใจ เพราะเจียงสื้อสื้อกับลู่เจิงมาด้วยกัน
งานปราศรัยเริ่มขึ้น ห้องประชุมเงียบสงบ เสียงพูดลู่เจิงก็ออกจากไมค์ พูดไปสักพัก เขาก็พูดถึงประสบการณ์สมัยเรียนในมหาลัย
“ช่วงเวลาในมหาลัยมันดีงามมาก ตอนนั้น ผมเป็นประธานนักเรียน รู้จักกับผู้หญิงคนหนึ่ง เป็นคนตั้งใจ พยายาม เราสองคนได้ร่วมงานกัน ช่วงเวลานั้น มันเป็นช่วงเวลาที่สวยงามมาก”
เวลาพูด ในสายตาลู่เจิงเต็มไปด้วยความรัก
ความทรงจำนั้นก็ปรากฏในหัวลู่เจิง ใบหน้าอันอ่อนเยาว์ของเจียงสื้อสื้อ เสมือนอยู่ตรงหน้า
เขาจำได้ ครั้งแรกที่พวกเขาเจอกันอยู่ที่ออฟฟิศประธานนักเรียน ตอนนั้นเธอเดินเข้ามา เปิดปากทักทาย “สวัสดีค่ะประธาน หนูเป็นนักเรียนปี1ค่ะ วันนี้เพิ่งเข้าร่วมชมรมค่ะ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ”
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร การเจอกันแบบธรรมดา แต่ลู่เจิงรู้สึกประทับใจในตัวเธอมาก
เวลาร่วมงานกัน เขาก็เริ่มสนใจในตัวเด็กผู้หญิงคนนี้
ลู่เจิงเริ่มรู้ว่าตัวเองชอบเจียงสื้อสื้อแล้ว ก็ตอนที่เธอคบกับหลานซือเฉิน
ความรู้สึกเสียใจ ก็เจ็บขึ้นมาทันที
เขาในตอนนั้น เพิ่งรู้ถึงความรู้สึกของการรักใครสักคน
แค่คิด ลู่เจิงก็รู้สึกเสียใจ ถ้าตอนนั้นมีความกล้าอีกนิด ติดต่อกับเธอหลังเรียนจบ
พวกเขาก็อาจจะไม่ต้องเสียเวลาไปนานหลายปี ตอนนี้พวกเขาอาจจะอยู่ด้วยกันแล้วก็ได้……
ซูชิงหยิง ฟังจบ ยิ้มแล้วถาม “ฟังจากน้ำเสียงลู่เจิงแล้ว คงชอบผู้หญิงคนนั้นมาก ไม่รู้ว่าเขาสองคนได้อยู่ด้วยกันไหม”
ซูชิงหยิงแอบสืบเรื่องเจียงสื้อสื้อ รู้ว่าเธอไปมาหาสู่กับผู้ชายที่ชื่อลู่เจิง และสืบได้ว่าเขาเป็นรุ่นพี่ของเจียงสื้อสื้อ และชอบเจียงสื้อสื้อมาตลอด
จิ้นเฟิงเฉินสีหน้าเฉื่อยชา แต่เต็มไปด้วยความน่าเกรงขาม คำพูดของลู่เจิง เหมือนพูดให้ตัวเองฟัง เขารู้จักกับเจียงสื้อสื้อก่อน และพวกเขามีช่วงเวลาที่สวยงาม
แต่ตัวเอง เป็นคนมาทีหลัง จิ้นเฟิงเฉินก็หรี่ตาเล็กน้อย
เจียงสื้อสื้อไม่รู้ตัวว่าลู่เจิงหมายถึงตัวเอง ได้ยินคำพูดของซูชิงหยิงก็รู้สึกเหมือนกัน ลู่เจิงน่าจะชอบผู้หญิงคนนั้น
เป็นใครกันนะ? เจียงสื้อสื้อคิด ตอนอยู่ในชมรมมีใครอีกนะ? รุ่นพี่ลู่ดีขนาดนี้ ไม่ได้ไปจีบเขาเหรอ? ผู้ชมที่นั่งฟังต่างก็สงสัยกัน
แต่ลู่เจิงก็ไม่ได้พูดเรื่องนี้ต่อ เขาเริ่มพูดถึงเส้นทางการทำธุรกิจของเขา