ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 1231 พี่ไม่ได้กำลังจีบเธอเหรอ
ฟางยู่เชินถูกเย่เสี่ยวอี้ลากไปตรงหน้าพ่อแม่ของเธอ “พ่อ แม่ ยู่เชินมาแล้วค่ะ”
ได้ยินดังนั้น พ่อเย่แม่เย่ก็พูดคุยกับคนอื่นเสร็จแล้ว หันหน้ามามอง
“ยู่เชิน ไม่เจอกันนานเลยนะ” พ่อฟางพูดพลางหัวเราะร่า
“คุณอาคุณน้าสวัสดีครับ” ฟางยู่เชินก้มศีรษะลงอย่างมีมารยาท
แม่เย่มองด้านหลังของเขา ถามอย่างสงสัยว่า “พ่อนายล่ะ ไม่ได้มาด้วยกันเหรอ”
“ดึกหน่อยพ่อของผมคงจะมาถึงครับ”
พ่อเย่มองเขาอย่างพินิจพิจารณา บนในหน้าเต็มไปด้วยความพอใจ “นายนับวันจะยิ่งเป็นคนที่เพียบพร้อมสมบูรณ์แบบใหญ่แล้วนะ”
ฟางยู่เชินยิ้มอ่อนๆ “ขอบคุณมากครับคุณอาที่ชม”
“พ่อคะ ยู่เชินต้องเป็นคนที่สมบูรณ์แบบแน่นอนอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นลูกสาวพ่อจะชอบเหรอคะ” เย่เสี่ยวอี้เชิดหน้าอย่างหยิ่งทระนง
พ่อเย่กลั้นหัวเราะไม่อยู่ “ใช่ ลูกตาถึงที่สุดแล้ว”
“แน่นอนค่ะ” เย่เสี่ยวอี้แนบชิดกับฟางยู่เชินอย่างสนิทสนม ยิ้มอย่างดีใจมาก
ฟางยู่เชินใจลอยเล็กน้อย บางครั้งเขาก็หันไปมองหาเหลียงซินเวยในห้องรับแขก
มีคนค่อนข้างเยอะ บางครั้งเขาก็มองไม่เห็นเธอ คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันอย่างไม่รู้ตัว
พ่อเราสังเกตเห็น เอ่ยถามอย่างสงสัยว่า “ยู่เชิน นายกำลังหาใครอยู่เหรอ”
ฟางยู่เชินรีบเก็บอาการ ส่ายหน้าปฏิเสธ “เปล่าครับ ผมก็แค่มองเรื่อยเปื่อยเท่านั้นครับ”
แววตาของเย่เสี่ยวอี้ที่อยู่ข้างเขาฉายความเย็นยะเยือก เขากำลังมองหาเหลียงซินเวยคนนั้นสินะ เขาคงไม่ได้ชอบผู้หญิงคนนั้นจริงๆหรอกนะ
พอคิดว่าเขาอาจจะชอบเหลียงซินเวย ในใจเย่เสี่ยวอี้ก็หงุดหงิดขึ้นมา
เธอครุ่นคิด จงใจพูดว่า “พ่อคะ แม่คะ วันนี้พี่พาผู้หญิงที่พี่ชอบมาด้วยนะคะ”
ได้ยินดังนั้น พ่อเย่ แม่เย่ต่างก็แปลกใจมาก “ลูกพูดจริงเหรอ”
“จริงแท้แน่นอนค่ะ เมื่อครู่หนูยังเห็นอยู่เลยค่ะ ถ้าพวกคุณไม่เชื่อ ถามยู่เชินก็ได้ค่ะ” เธอหันหน้าไปทางฟางยู่เชิน ยิ้มสดใสถามว่า “ใช่มั้ย ยู่เชิน”
ฟางยู่เชินกำมือแน่น ตอบเบาๆ “อืม”
“งั้นก็รีบให้พี่คุณพามาให้พวกเราเห็นหน่อยสิ ผมก็อยากจะเห็นว่าเป็นลูกคุณหนูตระกูลไหน” ฟางยู่เชินทำท่าทางอดใจรอไม่ไหวอย่างนั้น
เธอกลุ้มใจเรื่องการแต่งงานของเย่เฉินหยุนมานานหลายปีแล้ว แต่เจ้าลูกคนนั้นบอกตลอดว่าไม่รีบๆ
เขาไม่รีบ แต่เธอรีบจนจะเป็นบ้าแล้ว
“หนูจะไปเรียกพี่มาเดี๋ยวนี้ค่ะ”
เย่เสี่ยวอี้ให้ฟางยู่เชินอยู่คุยเป็นเพื่อนพ่อกับแม่ตนเอง จากนั้นก็หมุนตัวไปหาเย่เฉินหยุน
พอเธอไป พ่อเยก็ถามว่า “ยู่เชิน นายคิดว่าเสี่ยวอี้เป็นยังไงบ้าง”
ฟางยู่เชินนัยน์ตาเปล่งประกาย ตอบเรียบๆว่า “ดีมากครับ”
คำตอบนี้ค่อนข้างเฉยเมยอยู่บ้าง
พ่อเย่ขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้ “แค่นี้เองเหรอ”
“คุณอาอยากได้ยินคำตอบแบบไหนครับ” ฟางยู่เชินเงยหน้า มองเขาเหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้ม
พ่อเย่ถูกถามจนอึ้งไป ไม่รู้จะตอบอย่างไรในตอนนั้น
เห็นชัดว่าถามความประทับใจของเขาที่มีต่อเสี่ยวอี้ ทำไมกลับดูเหมือนกำลังบีบบังคับเขาอย่างนั้น
บรรยากาศอึดอัดเล็กน้อย
แม่เย่รีบหัวเราะ สร้างบรรยากาศ “เอาละ เรื่องของเด็กสองคนนี้ จะดีจะร้าย พวกเขารู้ดีอยู่แก่ใจ จู่ๆคุณมาถาม เขาก็ไม่รู้จะตอบยังไง”
“ที่จริงก็ไม่ควรถาม” พ่อเย่เองก็รู้สึกถึงปัญหาของตนเอง “ยู่เชิน อาก็ถามเรื่อยเปื่อยไปอย่างนั้นเอง นายก็ทำเหมือนไม่เคยถามแล้วกัน”
ฟางยู่เชินยิ้ม ไม่ได้พูดอะไร
……
เย่เสี่ยวอี้ตามหาเย่เฉินหยุนที่กำลังพูดคุยกับแขกเจอแล้ว ลากเขาไปข้างๆทันที
“เสี่ยวอี้ คุณทำอะไร” เย่เฉินหยุนมองเธออย่างแปลกใจ
“พ่อแม่ให้พี่พาเหลียงซินเวยไปหา”
“อะไรนะ” เย่เฉินหยุนคิดว่าตนเองหูฝาด “พ่อแม่อยากพบเวยเวยเหรอ”
เข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า
เย่เสี่ยวอี้แววตาเลิ่กลั่ก รู้สึกผิดเล็กน้อย “ฉันบอกพ่อกับแม่ว่าเหลียงซินเวยคือผู้หญิงที่พี่ชอบ”
“เย่เสี่ยวอี้!” เย่เฉินหยุนโมโหแล้ว “เธอพูดจาเหลวไหลอย่างนี้ได้ยังไง”
“พี่โมโหอะไรเนี่ย” เย่เสี่ยวอี้เบะปาก “พี่ไม่ได้จีบเธออยู่เหรอ ฉันก็ไม่ได้พูดอะไรผิดนะ”
ในเมื่อนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เหลียงซินเวยก็คือคนที่เขาชอบ!
เย่เฉินหยุนยิ้มอย่างโกรธๆ “ก็ต่อให้พี่กำลังจีบเขา ก็เพราะเธอ ไม่ใช่เหรอ”
ถ้าไม่ใช่เพราะจะช่วยเธอ เขาจะไปจีบเหลียงซินเวยเหรอ
เขาเห็นเหลียงซินเวยเป็นแค่น้องสาว เพราะคนที่เขารักคืออีกคนหนึ่ง
เย่เสี่ยวอี้ลูบจมูก บ่นพึมพำว่า “แต่ฉันพูดไปอย่างนั้นแล้ว พ่อแม่ก็เลยอยากพบเหลียงซินเวย”
“พี่ต้องโมโหเธอจนตายเข้าสักวันหนึ่ง”
เย่เฉินหยุนหมุนตัวไปหาเหลียงซินเวย เขาไม่เห็นเย่เสี่ยวอี้ที่เผยให้เห็นรอยยิ้มอย่างประสบความสำเร็จอยู่ด้านหลัง
ขอเพียงพี่ชายเธอพาตัวเหลียงซินเวยมาตรงหน้าพ่อกับแม่ ถึงตอนนั้นเธอก็ใส่สีตีไข่เข้าไป พวกเขาก็จะกลายเป็นคู่กันแล้ว
อย่างนั้น……ฟางยู่เชินก็เป็นของเธอแล้ว
เหลียงซินเวยและส้งหร่านนั่งอยู่ที่ในหัวมุม กินเค้กอย่างเงียบๆ
พอเค้กชิ้นเล็กๆตกไปถึงท้อง ส้งหร่านก็ถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก “ในที่สุดฉันก็มีชีวิตขึ้นมาอีกครั้งแล้ว”
“มันโอเว่อร์ขนาดนี้เลยเหรอ” เหลียงซินเวยเหล่มองเธออย่างขำๆ
“ไม่โอเว่อร์เลยสักนิดเดียว” ส้งหร่านเบะปาก “เพื่อที่จะสวมชุดราตรีที่ฉันใส่อยู่นี้ได้ ฉันต้องหิวอยู่หลายวัน ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะใส่ได้ แน่นอนว่าฉันก็ต้องชดเชยมันกลับมา”
เหลียงซินเวยกินเค้กคำสุดท้าย แกล้งหยอกว่า “เธอไม่กลัวว่าอีกเดี๋ยวจะทำให้ชุดขาดเหรอ”
ส้งหร่านหน้าคว่ำ “กลัวแน่นอน ดังนั้นก็ได้แต่กินเค้กชิ้นเล็กๆขนาดนี้ชิ้นหนึ่ง”
พูดพลาง เธอก็มองไปที่ถาดอาหารบุฟเฟ่ต์ที่อยู่ไม่ไกล อาหารที่อร่อยน่าตาน่ากินพวกนั้น เธอได้แต่มองเท่านั้น
คิดมาถึงตรงนี้ ส้งหร่านเบะปาก พูดอย่างน่าสงสารว่า “เวยเวย เธอต้องช่วยฉันกินให้เยอะหน่อยนะ”
เหลียงซินเวยกลั้นหัวเราะไม่อยู่ “ได้ ฉันต้องช่วยเธอกินให้มากหน่อยแน่นอน”
เธอลุกขึ้นเตรียมจะไปตักอาหาร เย่เฉินหยุนก็เดินมาพอดี
“เวยเวย ว่างมั้ย”
ส้งหร่านมองเห็นหนุ่มหล่อ ดวงตาก็เป็นประกายทันที “ว้าว เวยเวย หนุ่มหล่อคนนี้เธอไปรู้จักกันตั้งแต่เมื่อไหร่”
เธอจ้องหน้าเย่เฉินหยุน ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกคุ้นหน้าเขาเล็กน้อย เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน
“ทำไมเหรอคะ” เหลียงซินเวยไม่ตอบแต่ย้อนถามเขา
“ผมอยากจะขอให้คุณช่วยอะไรผมสักเรื่อง”
เหลียงซินเวยค่อยๆขมวดคิ้ว “ช่วยอะไรคะ”
เย่เฉินหยุนเหลือบมองส้งหร่าน พูดว่า “คุณมากับผม ผมจะเดินไปพลางบอกคุณไปพลาง”
เหลียงซินเวยพยักหน้า “ฉันไปกับเขาแป๊บนึงนะ อีกเดี๋ยวกลับมาหาเธอ”
“ไปเถอะๆ”
ส้งหร่านอดไม่ได้ที่จะทอดถอนใจ มองด้านหลังที่เดินไปด้วยกันของพวกเขา อดอิจฉาไม่ได้ที่เธอเดินไปกับหนุ่มหล่อ”เวยเวยทำไมถึงได้รู้จักหนุ่มหล่อมากมายขนาดนี้นะ”
ทันใดนั้น เธอก็นึกอะไรขึ้นได้ ดวงตาค่อยๆเบิกโพลง หนุ่มหล่อคนนี้ไม่ใช่คนที่เคยมาที่ร้านอาหารครั้งก่อนเหรอ น้องสาวเขายังหาเรื่องด้วย
แย่แล้ว เวยเวยจะเกิดเรื่องมั้ยนะ
เธอมองไปยังเหลียงซินเวยที่เดินไปไกลแล้ว อดเป็นห่วงไม่ได้
เดินมาสักระยะ เหลียงซินเวยก็ถามว่า “พี่เย่ คุณบอกฉันได้หรือยังว่าต้องการให้ฉันช่วยเรื่องอะไร”
เย่เฉินหยุนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง “เวยเวย พ่อกับแม่ผมอยากพบคุณ”
“อะไรนะ” เหลียงซินเวยชะงักฝีเท้า เธอคิดว่าตัวเองหูฝาดไป “พ่อแม่คุณอยากพบฉันเหรอคะ”
“อืม เย่เสี่ยวอี้บอกพวกเขาว่า เธอเป็นผู้หญิงที่ฉันชอบ ดังนั้น……” เขายักไหล่
เหลียงซินเวยยิ้มอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดี “แต่คุณก็ไม่ได้ชอบฉันนี่ คุณก็บอกพ่อกับแม่คุณไปตามตรงสิคะ”
แบบนี้ไม่ยิ่งง่ายกว่าเหรอ
“ความจริงแล้วผมมีอีกเรื่องอยากขอให้คุณช่วย”เย่เฉินหยุนมองเธอด้วยความสงสัยอย่างยิ่ง